เยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติ เมืองกัมปาร์
หลายปีต่อเนื่องที่ผมมีโอกาสเดินทางมากับนักเรียน และ ผู้ปกครอง ที่เมืองอิโปห์ (Ipoh) รัฐเปรัค (Perak) ประเทศมาเลเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน รวมไปถึงการมาเยี่ยมติดตามผลนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในเมืองอิโปห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงเรียน Poi Lam High School.ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา (High School) ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากผู้ปกครองส่งบุตรหลาน ซึ่งเป็นนักเรียนไทยมาศึกษา ผมในฐานะที่ปรึกษาการศึกษานานาชาติ (International Education Consultants) หรือ ตัวแทนที่ให้บริการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ (International Education Guidance Agent) หลายครั้งที่ได้รับคำถามว่าเมื่อเสร็จภาระเกี่ยวกับการสมัครเรียน เยี่ยมชมโรงเรียนมีเวลาว่างก่อนเดินทางกลับประเทศไทยอยากจะเดินทางท่องเที่ยว เรียนรู้สถานที่ และวิถีชีวิตของเมืองอิโปห์ มีสถานที่ใดบ้างที่น่าสนใจและจะเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างไร ดังนั้นจึงเป็นแรงจูงใจให้ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับเมืองอิโปห์อีกครั้งหนึ่งจากที่เคยเขียนครั้งแรก “ เรียนอิโปห์ เที่ยวอิโปห์ ชีวิตที่เติมเต็ม ตอนที่ 1”ไปครั้งหนึ่งแล้วสามารถติดตามได้ที่ https://www.sjworldedu.com/blog/ipoh-malaysia-01/ สำหรับ “ เรียนอิโปห์ เที่ยวอิโปห์ ชีวิตที่เติมเต็ม ตอนที่ 2” ผมขอกล่าวถึง “เที่ยวรอบเมืองอิโปห์ กับ Hop-On Hop-Off ” ครับ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับคำว่า ฮอบ-ออน ฮอบ-ออฟ (Hop-On Hop-Off) กันก่อนครับว่ามันคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร ซึ่งก็คือการนำทัวร์นักท่องเที่ยวเพื่อสำรวจและเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆโดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้น ลง รถบัส ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเส้นทางเดินรถของบริการ Hop-On Hop-Off ได้ทุกเวลาตามที่มีให้บริการซึ่งจะมีการระบุวัน เวลา สถานที่ไว้ในบัตรหรือตั๋วโดยสาร ดังนั้นประโยชน์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับจากการใช้บริการ Hop-On Hop-Off พอจะสรุปได้ดังนี้ครับ กล่าวคือ เดินทางสะดวก สบาย ไม่ยุ่งยากหรือกังวลในการเรียกหารถไปในแต่ละจุด เดินทางปลอดภัย ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า จะแวะจุดไหนใช้เวลามากน้อยตามความชื่นชอบ ความสนใจ เพราะลงรถจุดใด เที่ยวจนพอใจแล้วสามารถขึ้นรถโดยรถบัสคันต่อไปโดยใช้ตั๋วโดยสารได้ตลอดเวลาทั้งวันตามที่ระบุไว้ในบัตรโดยสารซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายจุด เป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
เมื่อทราบถึงลักษณะและประโยชน์ของบริการ Hop-On Hop-Off แล้ว ต่อจากนี้ผมจะขอแบ่งปันประสบการณ์ที่ผมได้มีโอกาสใช้บริการของ Perak Hop-On Hop-Off ที่เมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผมมีโอกาสได้ใช้บริการเมื่อเดือน เมษายน 2019 ผมเดินทางมาเมืองอิโปห์ก่อนหน้านี้หลายครั้งแต่เนื่องจากบริการนี้น่าจะเพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือน มีนาคม 2019 ซึ่งมีบริการเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ (Week end holiday) ลักษณะของรถบัส มี 2 แบบ คือแบบหลังคาปิด และแบบหลังคาเปิดประทุน ลักษณะภายในรถ รายละเอียดตามรูป
รูปที่ 1 ลักษณะของรถ Hop-On Hop-Off Bus
ผมมีโอกาสได้ใช้บริการ Hop-On Hop-Off Bus ทั้ง 2 แบบ ครับ ในช่วงที่ผมไปใช้บริการ Perak Hop-On Hop-Off เขาเพิ่งเริ่ม Phase1โดยเปิดให้บริการเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ (Week end holiday) ช่วงเวลาที่ให้บริการ 08.30 a.m.-9.30 p.m. ซึ่งก็คือเวลา 8 โมงครึ่งถึง 3 ทุ่มครึ่งนั่นเองครับ (เวลาท้องถิ่น) บริการจะครอบคลุม 13 จุดจอด จาก Terminal Meru ถึง Ipoh Old Town และ New Town นั่นเอง เส้นทางการเดินรถและจุดจอดรถรายละเอียดตามรูปที่ 2 และ 3
ตารางเวลาเดินรถ ตามรูป 4
หลายท่านอาจสงสัยว่าในแต่ละจุดจอดรถมีสถานที่ใดบ้างที่น่าสนใจ ท่านสามารถดูรายละเอียดตามรูป 5
รูปที่ 5 แสดงรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละจุดจอดรถ
สำหรับอัตราค่าบริการเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด โดยจะแบ่งดังนี้
รูปที่ 6 ราคาสำหรับชาวมาเลเซีย
รูปที่ 7 ราคาสำหรับชาวต่างชาติ
ลักษณะของตั๋วโดยสารดังรูปที่ 8
รูปที่ 8 ลักษณะของตั๋วโดยสาร
ถึงตอนนี้หลายท่านอาจจะมีความสนใจหาโอกาสไปใช้บริการเพื่อท่องเที่ยวรอบเมืองอิโปห์กันบ้างแล้ว เริ่มสงสัยว่าจะซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ไหน ผมขอแนะนำครับ จุดจำหน่ายตั๋ว (Ticket Counter) มีกระจายอยู่หลายจุดในเมืองอิโปห์ อาจค้นหาจากอินเทอร์เน็ต สอบถามฝ่ายต้อนรับของโรงแรมที่ท่านไปพัก แต่ที่ผมคิดว่าสะดวกคือที่สถานีรถไฟอิโปห์ ซึ่งจะมีเคาท์เตอร์ ของการท่องเที่ยวแห่งรัฐเปรัคตั้งอยู่ในสถานีรถไฟอิโปห์
รายละเอียดดังนี้ : Tourism Perak Information Kiosk@ (Ipoh Railway Station) Stesen Keretapi Tanah Melayu (KTM) 30000,Ipoh,Perak Darul Ridzuan
การให้บริการ เมื่อท่านขึ้นรถ จะมีเจ้าหน้าที่ไกด์ (Guide) ประจำรถ แนะนำอธิบายสถานที่ต่างๆในแต่ละจุดจอดรถเป็นภาคภาษาอังกฤษ ตามตัวอย่างคลิป ครับ
ผมเองในฐานะผู้ใช้บริการจากประเทศไทยเพียงคนเดียวในรถบัสคันที่ผมใช้บริการเนื่องจากผมขึ้นรถจากสถานีเกือบจะต้นทางจึงมีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างใกล้ชิดกับไกด์ประจำรถ จึงได้รับโอกาสแนะนำตัวและกล่าวถึงบริการของ Perak Hop-On Hop-Off Bus ในครั้งนี้ด้วย รายละเอียดตามคลิป
สำหรับจุดสังเกตจุดจอดรถ (Spot Shuttle Stop) จะมีหมายเลขกำกับอยู่ด้วย เช่น จุดจอดที่ 5 Ipoh Old Town เป็นต้น ดูตัวอย่างตามรูปที่ 9
รูปที่ 9 จุดสังเกตจุดจอดรถ (Spot Shuttle Stop)
ผมเองก็เพิ่งได้ใช้บริการครั้งแรกและมีเวลาจำกัดไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อนว่าควรลงเที่ยวจุดใดมากน้อยเพียงใด แต่ทราบจากไกด์ว่า เด็กๆ จะชอบจุดจอดที่ 1 Terminal Meru เพราะมี Movie Animation Park Studios เป็นจุดดึงดูดความสนใจ อย่างไรก็ตามผมก็ได้ถ่ายภาพ ในบางจุดมาให้ชมกันเป็นตัวอย่างนะครับ
อย่าลืม เมื่อพาบุตรหลานไปเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์ มาเลเซีย หาโอกาสไปเที่ยวรอบเมืองอิโปห์กันน่ะครับ
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง
1. www.tourismperakmalaysia.com
2. Brochure of Perak Hop-On Hop-Off Bus
ความสนใจในการส่งบุตรหลานไปเรียนในระดับมัธยมศึกษายังรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะปีนังถือว่าเป็นเมืองมี่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา ซึ่งภาษาที่ใช้มีทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามาลายู หรือ บาฮาซา เป็นต้น และปีนังถือเป็นเมืองการค้า การท่องเที่ยว และศุนย์กลางทางการศึกษาอีกรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทย สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกรวมทั้งค่าครองชีพก็ใกล้เคียงกับประเทศไทย
ประเภทของโรงเรียนมัธยมศึกษา (High School) ในปีนัง ประกอบด้วยโรงเรียนจีนซึ่งมีทั้งที่ใช้ภาษาจีนล้วนและใช้ภาษาจีนร่วมกับภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ประเภทถัดมาก็คือโรงเรียนท้องถิ่นของมาเลเซียใช้ภาษามาเลเซียเป็นหลักหรืออาจใช้ภาษาอังกฤษรวมอยู่ด้วยบางส่วนในการเรียนการสอน และประเภทสุดท้ายคือโรงเรียนนานาชาติ (International School) ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษล้วน ในการเรียนการสอน แต่ก็มีโรงเรียนนานาชาติบางแห่งที่สร้างโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ภาษาที่หลากหลายมากขึ้นโดยกำหนดให้มีวิชาภาษาจีน (Mandarin) และภาษามาลายู (Bahasa Melayu) ไว้ในหลักสูตรด้วยซึ่งน่าสนใจมากผมจะกล่าวถึงต่อไปครับ
ผู้เขียนได้ทำหน้าที่แนะแนวการศึกษาต่างประเทศหลายปีต่อเนื่องได้รับคำถามจากผู้ปกครองประเด็นต่างๆเป็นระยะและได้นำมาประมวล เรียงลำดับเพื่อจัดลำดับความสำคัญ ก่อน หลัง ในการหาข้อมูลเพื่อให้คำแนะนำ นักเรียน ผู้ปกครอง ให้ถูกต้องและตรงประเด็นมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ผู้ปกครองหลายท่านขอคำแนะนำเรื่องโรงเรียนนานาชาติที่เมืองปีนัง แบบอยู่ประจำในโรงเรียน (Hostel) หรือแบบพักกับภายนอกโรงเรียนกับครอบครัวของโฮส (Host Family or Homestay) ซึ่งเป็นผู้ปกครองคอยดูแลนักเรียน ในระหว่างที่นักเรียนศึกษาอยู่ที่ปีนัง ค่าเล่าเรียนที่ไม่สูงมากนัก หากเป็นไปได้ขอให้มีการเรียนภาษาจีนกำหนดไว้ในหลักสูตรด้วย
ดังนั้นในบทความนี้จะเป็นการแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับโรงเรียน Wesley Methodist School Penang International
รูปที่ 1 เยี่ยมชม Wesley Methodist School Penang International
ซึ่งผมและคณะได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียน Wesley Methodist School Penang International โดยได้รับการต้อนรับจากผู้บริหารของโรงเรียน คุณ Julia Woo ในฐานะ Principal Preschool & Primary เป็นอย่างดี นับเป็นโอกาสดีที่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับการแนะแนวการศึกษา ทั้งในด้านหลักสูตร กิจกรรม การเรียนการสอน อาคารสถานที่เรียน หอพัก (Hostel) รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่าย ต่างๆ
รูปที่ 2 เข้าพบผู้บริหาร Wesley Methodist School Penang International
Wesley Methodist Schools (WMS) เป็นส่วนหนึ่งของสภาการศึกษาเอกชน (The Council of Education :COE) ของโบสถ์เมธอดิสถ์ในมาเลเซีย ภายใต้ชื่อ WMS ซึ่งWMSs จะเป็นโรงเรียนแรกที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการทั้งในการสอบของรัฐบาลและการสอบของแคมบริจช์ Wesley Methodist Schools เป็นโรงเรียนเอกชนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศมาเลเซีย มีการเริ่มต้นโรงเรียน Wesley Methodist Schools ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และมีโรงเรียน Wesley Methodist Schools ในเมือง Ipoh , Klang , Melaka , Seremban และปัจจุบันก็มีที่ ปีนัง (Penang) ด้วยแล้ว มีโรงเรียน จำนวน 3 แห่งที่เป็นโรงเรียนนานาชาติ (International School) ใช้หลักสูตร IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) คือที่ ปีนัง , กัวลาลัมเปอร์ และ อิโปห์
ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ทำให้ทราบว่าในเดือนกันยายนปี 2018 นี้ จะมีนักเรียนใหม่ 1500 คน ในโรงเรียนขนาดใหญ่ในปีนังที่รู้จักในนาม โรงเรียนนานาชาติเวสเลย์ เมธอดิสซ์ (Wesley Methodist School Penang International) โรงเรียนขนาดใหญ่นี้มีหอพักสำหรับนักเรียนประจำ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้กับนักเรียน การศึกษาสำหรับเด็กๆ เป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอ (DNA) ของโบสถ์เมธอดิสถ์ จากอายุมากกว่า 125 ปี เราเชื่อว่าการศึกษาเพื่อจิตวิญญาณของเด็กจะช่วยให้เด็กมีทางเลือกที่ดีที่สุดในชีวิต และผลนี้จะแปลเป็นพื้นฐานของความแข็งแกร่งและความมีวินัย และ มีความยืดหยุ่น มีประโยชน์ต่อประเทศชาติในอนาคต ใน WMSs เราเชื่อว่าในการทำการศึกษาเอกชนแบบองค์รวมและแบบนานาชาติ ในราคาที่ไม่แพงมากกับชุมชนในวงกว้าง
WMSs เป็นโบสถ์ที่เป็นเจ้าของและดำเนินการโดยไม่หวังผลกำไร WMSs มีสิทธิได้รับคำแนะนำและความร่วมมือจากคณะกรรมการโรงเรียนนานาชาติแองโกล ประเทศจีนภายใต้การแนะนำของ Mr.Tan Wah Tong และ การรับรองโดยอดีตผู้อำนวยการ Dr. John Barrett ในท้องถิ่นมีคณะกรรมการบริหารส่วนกลางประกอบด้วยอาสาสมัครท้องถิ่นที่มีความมุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญมาสู่โรงเรียนและ COE เพื่อให้คำแนะนำและการกำกับดูแลแก่โรงเรียน โรงเรียนแห่งใหม่นี้ร่วมกับโรงเรียน WMS อื่น ๆ ยังคงแบ่งปันพันธกิจวิสัยทัศน์และคุณค่าหลักของ WMS และช่วยให้เด็กแต่ละคนประสบความสำเร็จ
หลักสูตร
นักวิชาการของเราได้ให้ความสำคัญกับวิสัยทัศน์และภารกิจของ WMS และยึดมั่นค่านิยมหลักของโรงเรียนด้วยตัวเราเองและสอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้การสอนในชั้นเรียน ปฏิสัมพันธ์นอกชั้นเรียนและเป็นแบบอย่างที่ดี นักวิชาการของเราได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้นำเสนอการสอนที่มีคุณภาพ
ระดับอนุบาล
เตรียมอนุบาล อายุ 3-4 ปี
อนุบาล อายุ 5-6 ปี
รายละเอียดหลักสูตร
ประถมศึกษา
ระดับชั้นปีที่ 1 – 6 อายุ 7 – 12 ปี
รายละเอียดหลักสูตร
หลักสูตรนี้จะช่วยให้เด็กมีรากฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนา:
ผ่านหลักสูตรแคมบริดจ์และการเพิ่มพูนวิชาเราจะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนา
หลักสูตรจะช่วยกระตุ้นจิตใจของเด็ก ๆ เพื่อพัฒนาทักษะที่สำคัญในการตอบสนองต่อข้อมูลข่าวสารและการสื่อต่าง ๆ ที่มีความเข้าใจและความเพลิดเพลิน ผ่านเรื่อง STEAM เด็กจะได้รับการสอนในทุกพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาในใจจิตใจและจิตวิญญาณของเขา
วิชาที่เสนอ: ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษามลายู ภาษาจีน ความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิ้ล ศิลปะและงานฝีมือ การศึกษาฟิสิกส์ ICT (Cording) ดนตรี การแสดง ประวัติศาสตร์ และ ภูมิศาสตร์
มัธยมศึกษา
ระดับชั้นปีที่ 7 – 11 อายุ 13-17 ปี
รายละเอียดหลักสูตร
หลักสูตรจะสร้างผู้เรียนพัฒนาความสนใจของเขาในด้านต่างๆ ที่น่าสนใจผ่านทางวิชาที่แตกต่างกัน ให้มีการเรียนรู้ เน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางและมีส่วนร่วม และผู้เรียนจะสามารถพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์และเรียนรู้ที่จะร่วมมือกับผู้อื่นทำงานเป็นทีม
ผู้เรียนยังเตรียมพร้อมที่จะใช้ IGCSE ของ Cambridge ในระดับสากล ใน Y11 และเพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุด นักเรียนชาวมาเลเซียจะสามารถใช้ภาษามลายู ทำ SPM ได้
วิชาที่เสนอ: มัธยมช่วงชั้นที่ 1 (Year 7-9)
ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษามลายู ภาษาจีน ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศิลปะ ICT (coding) การศึกษาฟิสิกส์ ดนตรี การแสดง ความรู้ทางคัมภีร์ไบเบิ้ล
มัธยมช่วงชั้นที่ 2 (Year 10 – 11)
วิชาหลักคือ ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ความรู้ทางคัมภีร์ไบเบิ้ล คณิตศาสตร์ ICT (Coding)
หลักสูตรจะมีความยืดหยุ่นที่ผู้เรียนจะเลือกวิชาจากกลุ่ม 4 กลุ่มคือ
หลักสูตรจะเตรียมนักเรียนเพื่อเลือกจากกลุ่มของวิชาเพื่อที่จะช่วยให้เขาเตรียมความพร้อมการศึกษาระดับอุดมศึกษาของเขาและให้ทางเลือกที่หลากหลายเส้นทางอาชีพ
หลักสูตรปรับพื้นฐานเร่งด่วน (Fast Track Programme)
หลักสูตรเร่งด่วนเป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียน Year 5 Year 6 และ Year 7 ที่กำลังจะเริ่มเรียน จากเดือนมกราคม ถึง เดือนสิงหาคม ปี 2018 เป็นโปรแกรมที่ออกแบบเพื่อให้นักเรียนสำเร็จตามข้อกำหนดของปีการศึกษาโดยมีการเตรียมการอย่างเข้มข้นกับเวลาช่วงปิดเทอมระยะสั้น ความสำเร็จของหลักสูตรที่น่าพอใจช่วยให้นักศึกษาสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับชั้นปีถัดไปของปีการศึกษา ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 3 กันยายน 2018 นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์การเรียนในชั้นเรียนที่เพิ่มขึ้นและการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดโดยครูผู้สอนที่ให้การสนับสนุนและผ่านการรับรอง เป็นโอกาสสำหรับนักเรียนในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการความสามารถด้านภาษาและความสามารถที่เป็นส่วนสำคัญในประสบการณ์การเรียนรู้ใน WMSPI
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงเรียน
1. ปัจจุบันมีนักเรียน 1550 คน และ คณะครู และเจ้าหน้าที่ 120 คน
2. ห้องเรียนอนุบาล 3 ห้อง
3. ห้องเรียนประถมศึกษา 24 ห้อง
4. ห้องเรียนมัธยมศึกษา 30 ห้อง
5. ห้องทดลองวิทยาศาสตร์
6. หอพักนักเรียน สำหรับ 200 คน
7. ห้องสมุด
8. หอประชุม
9. ห้องเต้น
10. ห้องดนตรี
11. ห้องสอบ
12. ห้องแนะแนว
13. ห้องพยาบาล
14. โบสถ์
15. โรงอาหาร
16. อื่น ๆ
รูปที่ 3 บริเวณโรงเรียน Wesley Methodist School Penang International
อาคารเรียน อาคารหอพัก (Hostel) อาคารใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวก ทันสมัย ทำเลที่ตั้งของโรงเรียนติดชายฝั่งทะเลภูมิทัศน์สวยงาม การเดินทางสะดวก หอพัก ชาย – หญิง แยกอาคารห่างกันเป็นสัดส่วน ควบคุมการเข้าออกอย่างปลอดภัย สำหรับที่พักของนักเรียน อาจจะพักภายใน Hostel ของโรงเรียน หรือผู้ปกครองอาจจะหาที่พักแบบอยู่กับครอบครัว (Host Family) ก็ได้ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามเพิ่มเติม) และเป็นที่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่งสำหรับโรงเรียนนี้ ดังที่ผมกล่าวไว้ข้องต้นคือ มีการบรรจุวิชาภาษาจีน (Mandarin) เรียนสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง รวมทั้งวิชา มาลายู (Bahasa Melayu) ไว้ในหลักสูตรด้วย ตำราเรียน และหลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษ ตามหลักสูตร IGCSE และเฉพาะวิชา คณิตศาสตร์ (Mathematics) อ้างอิงหลักสูตร High School ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีความเป็นเลิศทางด้านคณิตศาสตร์ด้วย
สำหรับค่าเล่าเรียน (School Fees) หลายท่านคงต้องการทราบเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนตัดสินใจ
ค่าเรียนต่อปี ในระดับ Junior High school Year 7 -Year 9 (หรือมัธยมต้น) ปีละ 18,480 RM ประมาณ 157,080 บาท ต่อปี (Rate RM : 8.50 บาท) ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่าแรกเข้า (Entry Fees) ค่าที่พัก และค่าครองชีพ
ที่มา : Wesley Methodist School Penang International ปี 2018 ( ปีต่อไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับนโยบายของโรงเรียน กรุณาหาข้อมูลเพิ่มเติม)
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน เรียบเรียง :
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วทม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ธันยา เล้าธนะธรรม
ศศ.บ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
http://wms.edu.my/school/about-us
http://www.privateinternationalfair.com/school/wesley-methodistschools
WMS-Penang-brochure-Fast-Track-170507-20
Wesley Methodist School Penang International Prospectus
Photo albums of SJ World Education Co. Ltd.
หมายเหตุ
รายละเอียด เวลาเรียนและกิจกรรม
Street Art
งานศิลปะที่งดงามข้างถนน Street Art แบบ Interactive Painting คือภาพวาดที่ดึงเอาสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่นั้นเข้ามาเป็นส่วนประกอบของภาพวาดงานศิลปะ สามารถเดินท่องเที่ยวถ่ายภาพกับงานศิลปะสวยๆบนผนังอาคารตลอดเส้นทางไปตามถนน Street Art ด้วยความเพลิดเพลิน
Penang Hill
เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของดอกไม้ที่มีสีสันและพืชผักสีเขียวและชนิดของสัตว์ท้องถิ่น นกศักดิ์สิทธิ์ และ อื่น ๆ อีกมากมาย
Eacape
เพลิดเพลินไปกับสวนสนุกเอสเคป แอดเวนเจอร์เพลย์ (ESCAPE Adventure play Theme Park) และสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งทั้งวัน ลองกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นกว่า 30 ชนิด อย่าง การโหนซิปไลน์, สไลเดอร์น้ำ และ เครื่องเล่นต่าง ๆ อีกมากมาย
หมายเหตุ โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เข้าร่วมโครงการเป็นหลักสำคัญ
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย ผู้ปกครอง และ นักเรียน ที่สนใจสมัครเรียน ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน ก่อนการสมัครเรียน พร้อมกันนี้ได้ เยี่ยมติดตามผลนักเรียนที่กำลังศึกษาในปัจจุบัน ที่ผู้ปกครองมอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ ติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร ณ โรงเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการต้อนรับจากคุณ Gho Lie Luan Head of International Department บริษัทฯขอขอบพระคุณ โรงเรียน Poi Lam High School ผู้ปกครอง นักเรียน ทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ด้วย
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2561 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย ผู้ปกครอง และนักเรียน ได้เดินทางเพื่อสมัครเรียนให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษา (High School) และ เยี่ยมติดตามผลนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการปีนัง ซัมเมอร์ คอร์ส แบบเรียนร่วมชั้น (Penang Summer Course Join Class) ณ โรงเรียนนานาชาติ Pelita International School รวมทั้งได้เยี่ยมติดตามนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ณ สถาบันการศึกษาอื่นๆ ในปีนัง ที่ผู้ปกครองมอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ ติดตามประสานงานตลอดหลักสูตรอีกด้วย บริษัทฯขอขอบพระคุณ ผู้ปกครอง นักเรียน ทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ด้วย
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และผู้ปกครองได้เดินทางเพื่อส่งนักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการปีนัง ซัมเมอร์ คอร์ส เรียนร่วมชั้น 2018 (Penang Summer Course Join Class 2018) ณ โรงเรียนนานาชาติ Pelita International School เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้รับโอกาสในการเรียนตามหลักสูตรนานาชาติ ร่วมชั้นกับนักเรียนต่างชาติ โดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งในห้องเรียน และในชีวิตประจำวัน กิจกรรมการเรียนรู้ ทัศนศึกษานอกสถานที่ ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ พบปะเพื่อนใหม่ หลากหลายเชื้อชาติวัฒนธรรม บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ขอขอบพระคุณ ผู้ปกครอง นักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการ ตลอดจน ครอบครัว Host Family และโรงเรียนนานาชาติ Pelita International School ที่ทำให้โครงการฯบรรลุความสำเร็จในครั้งนี้.
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน เข้าร่วมโครงการฯ ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2561 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย นักเรียน และผู้ปกครอง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมสถาบันการศึกษา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย ประกอบด้วย
1. Berjaya University
2. Asia Pacific University
3.สถาบันสอนภาษาอังกฤษ ELC English Language Company
การเยี่ยมชมสถาบันการศึกษา จะช่วยให้นักเรียน ผู้ปกครอง มีโอกาสได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการตัดสินใจ เลือกสถาบัน หลักสูตร ที่พัก รวมทั้งการทดสอบวัดระดับทักษะด้านภาษาอังกฤษ และสมัครเรียนได้อย่างเหมาะสม มั่นใจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการศึกษายังต่างประเทศ
ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้บริหาร ของทุกสถาบันการศึกษาที่เข้าเยี่ยมชม ประกอบด้วย คุณ K Jesvinder Kaur ,Exectutive Sale & marketing ,Berjaya University คุณ Woo Jingqi (Caster), Executive , Student Services Asia Pacific University และ คุณ Janice Lau ,General Manager English Language Company.
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
หลักสูตร : ภาษาอังกฤษ (Join Class)
รับนักเรียน : อายุตั้งแต่ 10 – 17 ปี
สถาบัน : ศูนย์การเรียนรู้ ESOL (ESOL Learning Centre)
เริ่มเรียน : ทุกสัปดาห์ (ยกเว้นช่วงปิดภาคเรียนของโรงเรียนเดือนธันวาคม)
ระยะเวลาเรียน : 3 สัปดาห์
สิ่งที่จะได้รับในการเข้าร่วมโครงการ
ค่าใช้จ่ายรวม
ค่าใช้จ่ายที่ไม่รวมในรายการ
หมายเหตุ
รายละเอียด เวลาเรียนและกิจกรรม
Street Art
งานศิลปะที่งดงามข้างถนน Street Art แบบ Interactive Painting คือภาพวาดที่ดึงเอาสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่นั้นเข้ามาเป็นส่วนประกอบของภาพวาดงานศิลปะ สามารถเดินท่องเที่ยวถ่ายภาพกับงานศิลปะสวยๆบนผนังอาคารตลอดเส้นทางไปตามถนน Street Art ด้วยความเพลิดเพลิน
Penang Hill
เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของดอกไม้ที่มีสีสันและพืชผักสีเขียวและชนิดของสัตว์ท้องถิ่น นกศักดิ์สิทธิ์ และ อื่น ๆ อีกมากมาย
Escape
เพลิดเพลินไปกับสวนสนุกเอสเคป แอดเวนเจอร์เพลย์ (ESCAPE Adventure play Theme Park) และสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งทั้งวัน ลองกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นกว่า 30 ชนิด อย่าง การโหนซิปไลน์, สไลเดอร์น้ำ และ เครื่องเล่นต่าง ๆ อีกมากมาย
หมายเหตุ โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามควาเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เข้าร่วมโครงการเป็นหลักสำคัญ
สนใจเข้าร่วมโครงการ ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
99/370 ม.1 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ. เมือง
จ. สุราษฎร์ธานี 84000 E-Mail : [email protected]
โทร. 077 287111, 08 5791 9111 Line ID : somnoek
ครั้งที่ 1 วันที่ 1 มี.ค. – 28 มี.ค. 2020
ครั้งที่ 2 วันที่ 12 เม.ย. – 9 พ.ค. 2020
(กรณีต้องการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้)
– สามารถกำหนดวันที่สะดวกเดินทางไปเรียนได้ด้วยตนเอง
– ได้เรียนตามหลักสูตรนานาชาติโดยใช้ภาษาอังกฤษ เรียนร่วมชั้นกับนักเรียนต่างชาติ
– กิจกรรมทัศนศึกษา เพื่อการเรียนรู้นอกสถานที่
– พักอาศัยอยู่กับโฮสแฟมมิลี่คนไทยในปีนัง เพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิด
– มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
– มีประสบการณ์ใช้ชีวิตในต่างประเทศ
– มีโอกาสได้พบปะเพื่อนใหม่ และ เพื่อนชาวต่างชาติ
ค่าใช้จ่ายรวม
1.ค่ารถตู้เดินทางไป-กลับ (หาดใหญ่ – ปีนัง – หาดใหญ่) พร้อมเจ้าหน้าที่ รับ-ส่ง นักเรียน
2. ค่าเรียนตลอดโครงการ
3. ค่ากิจกรรมวันหยุด (ตามที่ระบุในโครงการ)
4. ค่าที่พักแบบโฮมสเตย์ / ค่าซักรีด / อินเตอร์เน็ต/ค่าอาหาร (วันธรรมดา 2 มื้อ, วันหยุด 3 มื้อ)
5. ค่ารถรับ-ส่งภายในปีนัง
6. ค่าประกันการเดินทางไปต่างประเทศ
ค่าใช้จ่ายที่ไม่รวมในรายการ
1. ค่าเดินทางไป-กลับภายในประเทศไทย
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าช๊อปปิ้งของฝาก ค่าขนมขบเคี้ยว ของใช้ส่วนตัว เป็นต้น
หมายเหตุ
1. กำหนดการตามวันดังกล่าว รวมวันเดินทางไป-กลับแล้ว
2. นัดพบพร้อมกันที่หาดใหญ่ (เวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบภายหลัง)
3. กรณีนักเรียนต้องการเดินทางไปปีนังด้วยตนเอง กรุณาแจ้งรายละเอียดการเดินทางให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้าก่อนเดินทาง
รายละเอียด เวลาเรียน และ กิจกรรม
1.เรียนวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.20 – 14.15 น.
2.กิจกรรมทัศนศึกษาวันหยุดตามที่กำหนดดังนี้
– Street Arts
– Penang Hill
– Escape
หมายเหตุ กิจกรรมและสถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์
ของผู้เข้าร่วมโครงการเป็นหลักสำคัญ
สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการคลิก https://www.sjworldedu.com/application-form/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
99/370 ม.1 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทร. 077 287 111 หรือ 08 5791 9111 (อ.สมนึก ชูสุวรรณ)
อีเมล์: [email protected]
Website: https://www.sjworldedu.com
เมื่อวันที่ 16-17 มกราคม 2561 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้รับเชิญจาก Faculty of Management Science มหาวิทยาลัย Dr.Babasaheb Ambedkar Marathwada University (BAMU.) Aurangabad , Maharshtra. ประเทศอินเดีย เพื่อประชุมระดับนานาชาติ “International Conference on Digital Economy : Challenges & Opportunities (ICDECO 2018)” ณ. มหาวิทยาลัย Dr.Babasaheb Ambedkar Marathwada เมือง Aurangabad ประเทศอินเดีย และในโอกาสเดียวกันนี้ได้นำเสนอบทความทางวิชาการหัวข้อ “Counseling and Motivating Thai Students to Study Abroad , Thailand 4.0″ ซึ่งเป็นการนำเสนอประเด็น การให้คำปรึกษาและการสร้างแรงจูงใจนักเรียนไทยเพื่อศึกษายังต่างประเทศ ยุคประเทศไทย 4.0 เป็นความท้าทายและโอกาสที่นักเรียนไทยจะได้มีทักษะภาษาอังกฤษ ความรู้วิชาการ และวัฒนธรรมที่หลากหลายในสภาพแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน บทความได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Management and Economics ฉบับ January 2018 อีกด้วย
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 อ.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คุณจุรีรัตน์ ชูสุวรรณ ได้เดินทางไปเยี่ยมชม มหาวิทยาลัย Asia Pacific University (A.P.U) เพื่อสร้างความร่วมมือ บริการสมัครเรียน ติดตามผลให้กับนักเรียนไทยที่สนใจไปศึกษาในมหาวิทยาลัย APU. ซึ่งมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีวิทยาเขตอันทันสมัย ห่างจากใจกลางเมืองเพียงประมาณ 30 นาที การเดินทางสะดวก มีอุปกรณ์การเรียนครบครัน หอพักในตัว สามารถเดินไปเรียนได้ APU. มีความโดดเด่นทางด้านสาขา เทคโนโลยี นวัตกรรม วิศวกรรม คอมพิวเตอร์ และ บริหารธุรกิจ เพื่อช่วยเตรียมนักศึกษาในการเข้าสู่โลก ของ การทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ APU เปิดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดทุกหลักสูตร เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษ ประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงาน Malaysian Qualifications Agency (MQA) รวมถึง มหาวิทยาลัยพันธมิตรได้เเก่ Staffordshire University จาก สหราชอาณาจักร ที่ร่วมออกวุฒิปริญญาบัตรในบางสาขา
การเยี่ยมชมฯครั้งนี้ได้รับการต้อนรับ บรรยายสรุป และ Campus Tour จาก คุณ Woo Jingqi (Caster) Executive Student Services และ คุณ Nguyen Vinh Trung Regional Manager ,Indochaina เป็นอย่างดี
สนใจรับการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 อ.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คุณจุรีรัตน์ ชูสุวรรณ ได้เดินทางไปเยี่ยม ติดตามผลนักศึกษา ณ สถาบันสอนภาษา English Language Company (ELC) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อรับทราบ ติดตามผลการศึกษา ประสานความร่วมมือกับสถาบันอย่างใกล้ชิด ตลอดจนแนะนำ วางแผนการศึกษา เป็นกำลังใจในการศึกษาของนักศึกษา ทางบริษัทฯได้ให้ความสำคัญในการติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร
การดำเนินการดังกล่าว นักศึกษา และ ผู้ปกครอง มีความมั่นใจ และมอบความไว้วางใจ บริษัทฯด้วยดีเสมอมา สถาบัน ELC มีหลักสูตรภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ อาทิ หลักสูตร General English , Academic English with IELTS และ General Business English ซึ่งสถาบันแห่งนี้ได้ใช้หลักสูตร การบริหารจัดการ และบุคลากร ตามมาตรฐานของสถาบันสอนภาษาในประเทศออสเตรเลียโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจารย์ผู้สอนทุกคนมีคุณวุฒิทางเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ และมาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ( Native English ) จึงมั่นใจในเรื่องคุณภาพ การเรียนการสอน และสำเนียงการออกเสียงทางภาษาอังกฤษ ได้อย่างถูกต้อง ในการเยี่ยม พบปะ นักศึกษาครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ และให้การต้อนรับ จากคุณ Janice Lau General Manager เป็นอย่างดี
สนใจรับการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 อ.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คุณจุรีรัตน์ ชูสุวรรณ ได้เดินทางไปเยี่ยมติดตามผล นักศึกษา ณ มหาวิทยาลัย Berjaya University
College of hospitality กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อรับทราบ ติดตามผลการศึกษา ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย อย่างใกล้ชิด ตลอดจนแนะนำ วางแผนการศึกษา เป็นกำลังใจในการศึกษาของนักศึกษา ทางบริษัทฯได้ให้ความสำคัญในการติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร การดำเนินการดังกล่าว นักศึกษา และ ผู้ปกครอง มีความมั่นใจ และมอบความไว้วางใจ บริษัทฯด้วยดีเสมอมา ในการเยี่ยม พบปะ นักศึกษาครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ และให้การต้อนรับ จากคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ได้แก่ คุณ Hoh Lee Cen Director International Sales & Marketing , คุณ Ong Su Sian Senior Lecturer /Head of Berjaya Language Centre , คุณ K Jesvinder Kaur Executive Sale & Marketing , คุณ Anita Tan Director Planning & Development และ คุณ Gigi Chwee Chee Director of Business Enterprise & Special Projects เป็นอย่างดี
สนใจรับการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
นักเรียนไทยที่กำลังจะไปศึกษาต่อที่ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังมองหาที่พักแบบโฮมสเตย์ ขอแนะนำครอบครัวที่ให้บริการ โฮมสเตย์ รายละเอียดดังนี้
1.Host Family Homestay
ครอบครัวไทย : สามี เป็น Pastor คริสตจักร สอน Bible และ สอนภาษาไทย ให้กับคนไทย และคนมาเลเซีย ที่อยู่ในปีนัง ส่วน ภรรยา มีความชื่นชอบการทำอาหารทั้งอาหารไทย และอาหารต่างชาติ เธอเลี้ยงลูกชาย-หญิงรวม 3 คนซึ่งกำลัง เรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนในปีนัง และ ดูแลนักเรียนไทยที่มาศึกษาที่ปีนัง นักเรียนที่มาพักในครอบครัวชื่นชอบในฝีมือการทำอาหารและประทับใจในการเอาใจใส่ดูแล เพราะครอบครัวถือว่ามีภาระใจที่จะช่วยให้เด็กนักเรียนไทย ที่มาเรียนที่ ปีนังประสบผลสำเร็จในการเรียน และเติบโตขึ้นเป็นคนดีในสังคม สำหรับการติดต่อสื่อสารกับนักเรียนไทย สมาชิกในครอบครัวใช้ภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย เพราะต้องการให้นักเรียนมีโอกาสในการฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นด้วย
2.การให้บริการ ให้บริการที่พักห้องแอร์ มีห้องพักแบบ 2 คน และ 3 คน อาหาร 2 มื้อ รถรับ-ส่ง โรงเรียน ซักรีด และ เป็นผู้ปกครองนักเรียนที่มาจากประเทศไทย
3.สถานที่ตั้ง สถานที่ตั้ง: อยู่พื้นที่ Tunjong Bugah Permai 6
ใช้เวลาเดินทางไปที่โรงเรียน ประมาณไม่เกิน 20 นาที การเดินทางสะดวก อยู่ใกล้กับสถาบันการศึกษาที่สำคัญได้แก่ Tenby International school, Dalat International school , Perita Internationalschool, Penang Chinese girl private high school (ปิงหัว) และ St.Christopher International school ซึ่งทางบ้าน จะรับนักเรียน เฉพาะในโรงเรียน ดังกล่าวเท่านั้น หน้าหมู่บ้านมีป้ายรถประจำทาง ดังนั้นจึงสะดวกในการเดินทางและเหมาะที่จะพักอาศัยสำหรับ นักเรียน นักศึกษา
4.สิ่งอำนวยความสะดวก ครอบครัว มีพื้นที่กว้างขวาง ขนาด 4 ห้องนอนมีบ้านรับนักเรียนได้ 6 คนเท่านั้น จึงต้องจองล่วงหน้า รับเฉพาะนักเรียนหญิง อายุ 9 ปี ขึ้นไป ที่พักจะเป็นห้อง 2 คน และ 3 คน มีพื้นที่ใช้งานร่วม (Common Area) เช่น ห้องครัว ห้องรับแขก อยู่ด้วยความอบอุ่นเสมือนญาติ และยังมี swimming pool, sport-club, sauna room
4.1 อาหาร 2 มื้อ
4.2 ซักผ้า – รีดผ้า
4.3 รถยนต์ รับ – ส่ง (โรงเรียนตามที่ระบุ)
4.4 อินเทอร์เน็ต (พื้นที่ Common Area)
4.5 ตู้ใส่เสื้อผ้า
4.6 โต๊ะเขียนหนังสือ
4.7 พัดลม / แอร์
4.8 ห้องพัก 2 คน และ 3 คน /ห้อง
4.9 ห้องพัก 1 คน/ห้อง (จ่ายเงินเพิ่ม)
สนใจติดต่อ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
โทร.0 7728 7111 , 08 5791 9111
E-mail : [email protected]
นักเรียน ผู้ปกครอง หลายท่านที่กำลังหาข้อมูล เกี่ยวกับการไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) แล้วจะวางแผนการเรียนอย่างไร นอกเหนือจากเรื่อง ค่าใช้จ่ายซึ่งอาจจะหาข้อมูลได้ทั่วไป แต่ในเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับ ระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ เงื่อนไขการรับเข้าเรียน ข้อกำหนดด้านทักษะภาษาอังกฤษ หลักสูตรที่จะเรียนก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ตลอดจน วุฒิการศึกษาที่ใช้ยื่นสมัครเข้าเรียน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจ
ประเทศอังกฤษมีความโดดเด่นทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม และการศึกษา จึงได้รับความนิยมจากนักเรียนต่างชาติเพื่อเข้าไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษเพราะจะได้ทั้งความรู้ด้านวิชาการควบคู่กับการได้ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่ ได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายจากนักเรียนต่างชาติหลายประเทศ มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั่วโลก มีมหาวิทยาลัยที่มีอายุเก่าแก่และมีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง เช่น Oxford University และ Cambridge University เป็นต้น ซึ่งมหาวิทยาลัยดังกล่าวเสมือนเป็นบรรทัดฐานที่สถาบันการศึกษาของอังกฤษ แห่งอื่นๆได้ปรับปรุง พัฒนาคุณภาพการสอนของสถาบันให้ดีอยู่เสมอ จึงได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจด้านคุณภาพจากนักเรียนต่างชาติอีกทางหนึ่งด้วย
นักเรียนไทยที่สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) จากประเทศไทยที่มีเป้าหมายจะไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย หรือ ปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจระบบการศึกษา คุณวุฒิที่เป็นที่ยอมรับสากลในการใช้สมัครเรียน ตลอดจนเรื่องความต้องการด้านภาษาอังกฤษ (English requirement) ตามที่แต่ละมหาวิทยาลัย กำหนดก่อนรับเข้าเรียน รวมทั้ง ตามที่สถานทูตกำหนด เป็นเงื่อนไขในการยื่นขอวีซ่านักเรียน เป็นต้น
การสมัครเข้าเรียนปริญญาตรี ที่ประเทศอังกฤษ วุฒิการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับสากลทั่วไปได้แก่ A-Level ซึ่งเป็นวุฒิ ของประเทศอังกฤษเอง หรือ IB (International Baccalaureate) วุฒิที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก แต่สำหรับคุณวุฒิ ม.6 ของนักเรียนไทยแม้ว่าระดับผลการเรียนจะสูงก็ตาม ปรากฏว่าเกือบทุกมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษยังไม่สามารถ รับเข้าเรียนระดับปริญญาตรี ปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยได้ ดังนั้นนักเรียนไทยที่ จบ ม.6 แล้วสนใจจะเรียนระดับปริญญาตรีของประเทศอังกฤษ จึงต้องเรียนเพิ่มเติม เพื่อให้ได้วุฒิที่สามารถสำหรับยื่นสมัครเรียนปี 1 ของมหาวิทยาลัยได้ โดยทั่วไปก็จะมี 2 ทางเลือก หลักๆ เช่น เรียนหลักสูตร A-Level ในประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 2 ปี ทางเลือกนี้มีข้อเด่นคือถ้าผลการเรียนในระดับ A-level ได้เกรดสูง และคุณสมบัติอื่นๆพร้อมก็จะสามารถเลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษได้ แต่การเรียน A-Level ที่ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี สำหรับบางคนอาจถือว่าเป็นข้อด้อยในแง่ของการที่จะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของนักเรียน สำหรับอีกทางเลือกหนึ่งก็คือการเรียนหลักสูตร International Foundation ในสถาบันการศึกษาในประเทศอังกฤษโดยใช้เวลาเรียน 1 ปี ซึ่งจะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายลงได้เมื่อเทียบกับการเรียน A-Level ส่วนการที่จะใช้วุฒิ ม.6 สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยโดยตรงได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของมหาวิทยาลัย แต่มีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาให้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย โดยตรงมีโอกาสน้อยมาก ดังนั้นเพื่อประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวไปเรียนต่อยังประเทศอังกฤษจึงขอกล่าวถึงระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ ดังนี้
1.ระดับชั้นและระยะเวลาของแต่ละระดับ รายละเอียดตามรูปที่ 1
รูปที่ 1 ระดับชั้นและระยะเวลา
โดยจะไม่กล่าวถึงการศึกษาระดับอนุบาล ในบทความนี้อย่างไรก็ตามท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.sjworldedu.com/en/country/england/united-kingdom-education-system/
2.ขั้นตอนการเรียนหลักสูตร International Foundation และมหาวิทยาลัย (University) ปี 1-3 รายละเอียดดังรูป 2
รูปที่ 2 ขั้นตอนการเรียน International Foundation – University
3.ข้อกำหนดด้านทักษะภาษาอังกฤษ (English requirement) ตามข้อกำหนดของ Immigration สำหรับเงื่อนไขการขอวีซ่า และ ข้อกำหนดของสถาบันการศึกษาแต่ละสถาบันรายละเอียดดังรูป 3
รูปที่ 3 English requirement
4.การเรียนปรับพื้นภาษาอังกฤษ (Pre – Sessional English)
กรณีที่นักเรียนมีผลการสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 4.0 ถือว่าผ่านเงื่อนไขที่ Immigration กำหนดเป็นเงื่อนไขในการยื่นขอวีซ่านักเรียนเข้าประเทศอังกฤษ แต่อาจยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าเรียนหลักสูตรตามที่สถาบันการศึกษากำหนด เช่น ถ้าจะเข้าเรียน International Foundation จะต้องมีผล IELTS = 5.5 หรือถ้าจะเรียนมหาวิทยาลัย ระดับปริญญาตรี ,ปริญญาโท จะต้องมีผล IELTS = ไม่ต่ำกว่า 6.0 หรือ 6.5 เป็นต้น (ดูเงื่อนไขข้อกำหนดของแต่ละสถาบันประกอบ) นักเรียนจะต้องสมัครเรียนภาษาอังกฤษตามหลักสูตร Pre-Sessional English ซึ่งจะต้องเรียนในศูนย์ภาษาอังกฤษของแต่ละมหาวิทยาลัยเท่านั้น (เรียนมาจากที่อื่นมหาวิทยาลัยจะไม่รับรองผล) โดยปกติแล้วเมื่อจบ Pre-Sessional English ตามจำนวนระยะเวลาที่กำหนดแล้วจะได้ Pathway เข้าเรียนหลักสูตรระดับต่อไปโดยไม่ต้องสอบ IELTS การที่จะสมัครเรียนหลักสูตร Pre-Sessional English ได้นั้น นักเรียนจะต้องสมัครเรียน International Foundation หรือ Bachelor หรือ Master degree ก่อนเท่านั้นจึงจะได้สิทธิเรียน Pre-Sessional English
5. การทำงาน Part time ระหว่างเรียน
นอกจากการเรียนแล้ว ยังสามารถทำงาน Part time ได้ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องเป็นนักเรียนที่เรียนหลักสูตรไม่ต่ำกว่า International Foundation และอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และรวมถึงในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโทก็สามารถทำงาน Part time ได้เช่นกันโดยชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับของการเรียนของนักเรียนเองในขณะนั้น เช่น Pre-Sessional English ทำงานได้ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือช่วงปิดเทอม 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นต้น
รูปที่ 4 การทำงาน Part time
6.หลักสูตร Higher National Diploma (HND) เป็นหลักสูตร 2 ปี จบแล้วสามารถสมัครเรียนในระดับปริญญาตรี หลักสูตรปกติ ปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัย หรืออาจเข้าเรียนปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยที่เป็น Program Top Up Year ซึ่ง Top Up Year จะมีในบางมหาวิทยาลัยเท่านั้น
7. เส้นทางการศึกษาประเทศอังกฤษสำหรับนักเรียนไทย
เพื่อให้นักเรียนไทยที่สำเร็จมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) และสนใจเรียนต่อประเทศอังกฤษ
มีความเข้าใจในเส้นทางการศึกษาตามระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษมากขึ้นจึงขออธิบายด้วยแผนภูมิ แสดงเส้นทางการศึกษา รายละเอียดตามรูปที่ 5
รูปที่ 5 แผนภูมิแสดงเส้นทางการศึกษา
8.การเรียนแบบ Practicum (Sandwich Course)
การเรียนแบบ Sandwich Course จะเหมือนกับหลักสูตรแบบอื่นๆ ต่างกันตรงที่มีการเพิ่มการทำงานหรือฝึกงานเข้าไปในหลักสูตรด้วยซึ่งหมายความว่าจะต้องใช้เวลาในการเรียน 4 ปี (รวมเวลาทำงาน 1 ปี )แทนที่จะเรียน แค่ 3 ปี รายละเอียดตามรูปที่ 6
รูปที่ 6 แผนภูมิแสดงเส้นทางการเรียนแบบ Practicum (Sandwich Course)
แต่อย่างไรก็ตามการเรียนแบบ Sandwich Course จะมีข้อดี ดังนี้
1.ช่วงทำงาน ได้ทำงานตรงสาขาที่เรียน ได้ประสบการณ์ และ ค่าตอบแทน
2.หลังทำงานครบ 1 ปี แล้วมาเรียนต่อปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย จะเรียนได้ง่ายขึ้นเพราะได้รับประสบการณ์ตรงจากการทำงานมาแล้ว
3.หลังสำเร็จการศึกษา มีโอกาสเข้าสู่ตำแหน่งงานได้ง่าย เพราะได้ทำงานในสถานประกอบการเป็นที่รู้จักของส่วนงานแล้ว
4.การต่ออายุวีซ่านักเรียน หลังเข้าร่วมโครงการเรียนแบบ Sandwich Course แล้ว ทางมหาวิทยาลัยมีบริการออกหนังสือรับรองเพื่อขยายเวลาอายุวีซ่า จึงสะดวกในการยื่นขอวีซ่า
9.รายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ สำหรับผู้สนใจเรียนมหาวิทยาลัยสามารถดูรายชื่อมหาวิทยาลัย โดยคลิกเข้าชมได้ที่ https://www.sjworldedu.com/misc/university-in-united-kingdom/
สนใจ สมัครเรียนต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน และ เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูล :
Mr. Pichai Patrakulpiched
Thailand Representative : Anglia Ruskin University,Liverpool John Moores University, Middlesex University,Polymouth University, Sheffield Hallam University ,University of Sunderland Teesside University , University of Wolverhampton
สนใจ สมัครเรียนต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้ปกครอง และ นักเรียน มักจะมีความรู้สึกกังวล และมีคำถามอยู่เสมอว่า อยากจะไปเรียนหนังสือในต่างประเทศแต่พื้นความรู้ ทักษะภาษาอังกฤษ ไม่ดีพอ จะเรียนได้ไหม ตามเพื่อนทันไหม ดังนั้นการเข้าห้องเรียนที่มีการจัดการเรียนการสอนที่เน้นตามศักยภาพ ความถนัดของผู้เรียน เป็นรายบุคคล อิสระ ไม่ต้องแข่งขันกับใครจึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ปกครองยุคใหม่ บทความนี้ผู้เขียนมีความประสงค์เพื่อเป็นสื่อกลาง แบ่งปันความรู้ความเข้าใจ ให้ท่านได้รู้จักกับห้องเรียนที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าว
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเบื้องต้น เกี่ยวกับ Home School กันก่อนครับ Home School การศึกษาแบบบ้านเรียนหรือการจัดการศึกษาโดยครอบครัว หรือการจัดการศึกษาด้วยตนเองที่บ้าน ผู้ปกครองสามารถให้การศึกษาลูกตนเองได้โดยไม่จำเป็นจะต้องส่งเข้าโรงเรียน สำหรับในประเทศไทย การจัด Home School จะต้องไปลงทะเบียนและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆทั่วประเทศ นั่นจึงหมายความว่า พ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถจัดการศึกษาให้กับลูกหลานตนเองได้อย่างอิสระ สามารถเลือกจัดการศึกษารูปแบบใดก็ได้ และสามารถเลือกรายวิชาใดก็ได้ ซึ่งจะส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองนั้นสามารถจัดการศึกษาได้ตรงตามความต้องการและความถนัดของลูก ให้ลูกได้ทำกิจกรรม หรือเรียนรู้ในสิ่งที่การเรียนการสอนในระบบโรงเรียนไม่สามารถทำได้ และยังเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีโรงเรียนที่จัดการเรียน การสอน สอดคล้องกับการจัดการศึกษาแบบ Home School แล้วเช่นกัน ต่างกันเพียงผู้สอน กล่าวคือ แทนที่จะให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองเป็นผู้สอน ทางโรงเรียนจะใช้ครูที่ได้รับการการศึกษาด้านการสอนระบบ Home School มาโดยเฉพาะเป็นผู้สอน ผมมีโอกาสได้เยี่ยมชมโรงเรียน Penang Home School EQ Development ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยได้พบปะพูดคุยกับผู้บริหารของโรงเรียน เยี่ยมชมห้องเรียน ดูกิจกรรมการเรียนการสอน ตลอดจนได้สัมภาษณ์ ผู้ปกครองของนักเรียนไทยท่านหนึ่งซึ่ง มีลูกชาย และ ลูกสาว รวม 3 คน กำลังศึกษาอยู่ที่ Penang Home School EQ Development ท่านบอกว่ารู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสพาลูกๆมาเรียนที่นี่ ลูกเรียนอย่างมีความสุข การเรียนการพัฒนาการดีมาก มีความรับผิดชอบสูง และผลการเรียนดีมากจนได้รับรางวัลการเรียนดีจากโรงเรียนด้วย ต่างกับที่เคยเรียนในโรงเรียนระบบเดิมในเมืองไทยมากเลยทีเดียว
นอกจากนั้น ทำให้ผมทราบว่าที่ Penang Home School EQ Development มีการจัดการเรียนการสอนตามศักยภาพ ความถนัดของเด็ก โดยไม่ต้องรอตามเกณฑ์อายุ เรียนทุกวิชาโดยใช้ภาษาอังกฤษ อิงตามหลักสูตรของอเมริกา คือ Alpha & Omega Program ดังนั้นผลการเรียน สามารถใช้ยื่นเพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อในโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ (International) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น USA , Europe และอื่นๆได้ สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย หลักสูตรนานาชาติ (International) เช่น จุฬา อินเตอร์ (ใช้ SAT ยื่นแทน CU-AAT) หรือ มหิดล อินเตอร์ เป็นต้น การรับนักเรียนของ Penang Home School EQ Development มีตั้งแต่ระดับ Year 1- Year 12 โดยจะมีการสอบวัดระดับ (Level) ก่อนเข้าเรียน
การสัมภาษณ์ผู้ปกครอง นักเรียน Penang Home School EQ Development สรุปประเด็นต่างๆ ดังนี้
1.การสอบวัดระดับ
2. รายวิชาในแต่ละระดับชั้น ประกอบด้วย 5 วิชา ประกอบด้วย
นอกจากนั้นสามารถเรียนเสริมวิชาภาษาจีนด้วย (เลือกเอง ไม่บังคับ) และวิชากิจกรรม Boy Brigade : BB (กองพลเล็ก) คล้ายๆยุวกาชาด ของไทย กิจกรรม BB.นิยมใช้ใน คริสเตียน เน้นการเป็นผู้นำ กล้าพูด กล้าแสดงออก มีการติดยศ เลื่อนระดับ เลี้ยงฉลอง เพื่อเป็นเกียรติ ของนักเรียน
3.ภาคเรียน จำนวน 3 ภาคเรียน ต่อ ปีการศึกษา ตำราประกอบการเรียนการสอน มีหลายสังกัด แต่ที่ Penang Home School EQ Development ใช้จะเป็นของ Alpha & Omega (USA)
4. ตำราเรียนและการประเมินผลการเรียน
ในการศึกษาแต่ละระดับชั้น ใช้ตำรา จำนวน 10 เล่ม ตัวอย่างเช่น ระดับชั้น Year 1 (ป.1)
จะมีตำรา รหัส 101 ถึง 110 รวม 10 เล่ม ในระดับ Year อื่น ก็เช่นกัน เพียงแต่ เนื้อหา ตำรา และรหัสตำราจะเปลี่ยนไปตามระดับชั้นนั้นๆ ส่วนการประเมินผลการการเรียนแต่ละวิชาแต่ละเล่มต้องสอบได้คะแนน 80 % จึงจะถือว่าสอบผ่านโดยใช้ข้อสอบวัดผลตามข้อสอบมาตรฐานที่เตรียมไว้แล้ว จากกรณีดังกล่าวนี้ถ้านักเรียนสอบผ่าน รายวิชา รหัส 101-110 ก็จะได้เลื่อนชั้นไปเข้าชั้นเรียน Year 2 อย่างไรก็ตาม ถ้าสอบผ่านเพียงบางรายวิชา เช่น ผ่าน รหัส 101 ก็สามารถเลื่อนระดับไปเรียนรายวิชาที่สูงขึ้นในระดับ Year 2 ได้ เพราะเป็นการประเมินเป็นรายวิชา สำหรับ รายวิชาใดที่ยังสอบไม่ผ่านตามเกณฑ์ 80 % ก็ต้องเรียนซ้ำแล้วสอบประเมินผลใหม่ การประเมินผลประเมินเป็นรายบุคคล (Individual) อิงเกณฑ์ ไม่อิงกลุ่ม และการเลื่อนระดับชั้นเรียนพิจารณาตามศักยภาพของผู้เรียนรายบุคคลไม่ได้เลื่อนตามอายุ ดังนั้นเคยมีนักเรียนเรียนจบหลักสูตร เร็วที่สุด อายุเพียง 14 ปีเท่านั้น
5.การตั้งเป้าหมายและกิจกรรมการเรียน
6. ค่าเล่าเรียนและ จำนวนภาคเรียน
7.การสอบวัดระดับความรู้ความสามารถ ของนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เช่น IGCSE A-Level และ SAT โดยที่โรงเรียน Penang Home School EQ Development จะมีความสัมพันธ์กับการสอบ SAT( Scholastic Aptitude Test ) เป็นหลัก โดยนักเรียนจะได้สอบ SAT ตอนเรียน Year 11 เป็นต้นไป เมื่อสอบผ่านก็จะได้วุฒิการศึกษาที่มีคุณสมบัติครบที่จะเข้ามหาวิทยาลัย ปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยต่างๆได้ การสอบเอาวุฒิ IGCSE หรือ SAT ต้องดูความต้องการของแต่ละมหาวิทยาลัย ว่ากำหนดรับวุฒิที่จะใช้สมัครเข้าศึกษาต่อว่า เป็น IGCSE หรือ SAT จากนั้นนักเรียนก็เตรียมตัวสอบให้สอดคล้องกัน
Home School ในปีนังได้รับความนิยม นอกจากที่ Penang Home School EQ Development แล้วยังมีโรงเรียนอื่นๆใน ปีนัง อีกเช่น King’s Academy และ Lodge Paradise เป็นต้น จำนวนนักเรียนใน Home School ไม่ควรเกิน 100 คน ทั้งนี้เพราะโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนมากไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพดีเพราะจะดูแลนักเรียนไม่ทั่วถึง ครู มักจะเอาใจใส่ดูแลนักเรียนเก่งในห้องที่มีนักเรียนเก่งๆรวมกันที่เรียกว่าห้อง King ทั้งนี้เพราะหวังจะสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนนั่นเอง สำหรับในเมืองไทยก็มีโรงเรียนที่นำระบบการเรียนการสอนในลักษณะเหมือน ที่ Penang Home School EQ Development ก็มี เช่น โรงเรียนลิตเติ้ล แลมบ์ จังหวัดชุมพร เป็นต้น
ระบบ Home School ครู ต้องเข้าใจระบบนี้โดยเฉพาะ ดังนั้น ครูจะต้องได้รับการฝึกสอน ฝึกงานมาเป็นอย่างดี ครูอาจไม่จำเป็นต้อง Native English ขอเป็นครูไทยที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
ที่โรงเรียน Penang Home School EQ Development มีขีดจำกัดเรื่องการขอวีซ่านักเรียน (Student Visa) เนื่องจากเป็น Home School ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นโรงเรียน ดังนั้น นักเรียนต่างชาติที่มาศึกษาที่นี่ จะใช้วีซ่าติดตามพ่อ–แม่ที่ได้รับวีซ่าเข้าประเทศมาเลเซียแล้ว เช่นมาทำงานในมาเลเซีย หรือ อาจจะเป็นนักเรียนที่ ไปเรียนช่วงปิดเทอม ช่วงสั้นๆ 3 สัปดาห์ โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นต้น
กรณีตัวอย่างที่น่าสนใจ เคยมีนักเรียนที่เคยถูกให้พ้นสภาพการเป็นนักเรียนจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในปีนัง และได้มาศึกษาที่ Penang Home School EQ Development แล้วชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการเรียนและความรับผิดชอบ การเป็นผู้นำเพื่อส่วนรวม โดยได้เป็นประธานนักเรียน และได้แบ่งปันประสบการณ์ ว่าที่ผ่านมาเรียนไม่เข้าใจ และประพฤติตัว เกเร แต่พอได้มาเรียนที่ Penang Home School EQ Development มีครูเป็น Coach ที่ดีเลยปรับตัวได้
ท่านผู้ปกครอง นักเรียน และผู้สนใจ ที่ได้อ่านบทความ มาตั้งแต่ต้นและเข้าใจหลักการแนวคิดของPenang Home School EQ Development ซึ่งจัดกิจกรรมการเรียน การสอนตามศักยภาพ ความสามารถ ของเด็กเป็นรายบุคคล ไม่ได้แข่งขันกับใคร จึงไม่ต้องกังวล และถือได้ว่า Penang Home School EQ Development เป็นทางเลือกสำหรับผู้ปกครองยุคใหม่ ผมมีโอกาสได้ส่งนักเรียนไทย ไปเข้าร่วมโครงการ Summer Course ณ Penang Home School EQ Development ช่วงปิดเทอม เดือน ตุลาคม และ เดือน เมษายน ของปี เป็นโครงการที่ดีและน่าสนใจครับเพราะได้เรียนร่วมชั้น (Join Class )กับนักเรียนต่างชาติ เรียนรู้ ปรับตัวกับเพื่อนใหม่ หลากหลายวัฒนธรรม และได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่องตลอดโครงการ
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก : https://www.sjworldedu.com/th/country/malaysia/course-programs-my/pinang-summer-course-2022/
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียนและเรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
1. www.thesmarttutor.com/sat
2. www.facebook.com/pg/penang Home School -EQ Development
3.www.littlelambschool.com
4.คุณ บารนาบัส ประทุมรัตน์ ผู้ปกครองนักเรียน Penang Home School EQ Development
5.ผู้บริหาร Penang Home School EQ Development
ปัจจุบันการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อ ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซียได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจาก รัฐปีนัง ถือว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และ ภาษา ซึ่งภาษาราชการที่ใช้คือภาษาอังกฤษ และ ภาษาท้องถิ่นที่ใช้ ได้แก่ ภาษาจีน ภาษามลายู เป็นต้น รัฐปีนังถือเป็นเมืองการค้า การท่องเที่ยว และ เป็นศูนย์กลางการศึกษา อีกรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทย สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก จึงถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับให้นักเรียนได้ไปศึกษาเล่าเรียน
โรงเรียนในรัฐปีนัง อาจแบ่งประเภทตามภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนเป็นหลัก เช่น โรงเรียนจีน ใช้ภาษาจีนในการเรียนการสอนเป็นหลัก โรงเรียนมาเลเซีย ใช้ภาษามาเลเซียในการเรียนการสอนเป็นหลัก และโรงเรียนนานาชาติ (International School ) ใช้ภาษาอังกฤษล้วน นอกจากนั้นอาจแบ่งตามลักษณะของการบริหารโรงเรียน เช่น โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชนทั่วไป และ โรงเรียนนานาชาติ นั่นเอง จากประสบการณ์ในการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ แก่นักเรียน และ ผู้ปกครอง หลายปีต่อเนื่อง พบว่ามีการถามหาโรงเรียนนานาชาติ ของเมืองปีนัง ที่มีคุณภาพการเรียนการสอน หลักสูตรมาตรฐานสากล และค่าใช้จ่ายไม่สูงมากจนเกินไป
โรงเรียน Pelita International School เป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในปีนัง ผู้ปกครองจึงเลือกส่งบุตรหลานมาศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ ผมมีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียน และได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองให้เป็นผู้ดำเนินการ แนะแนวการศึกษา วางแผน และสมัครเรียนติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร แก่นักเรียน มาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นเพื่อประโยชน์แก่นักเรียน ผู้ปกครอง ที่กำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติในเมืองปีนังจะได้มีข้อมูลประกอบการเลือกโรงเรียนสำหรับนักเรียน จึงขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักโรงเรียนมากขึ้นดังนี้
โรงเรียน Pelita International School เดิมคือ โรงเรียน Sri Pelita ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2000 และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น Pelita International School ในปี ค.ศ.2012 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีความแตกต่าง มุ่งเน้นการพัฒนานักเรียนแบบองค์รวม หรือบูรณาการ ทางการศึกษานั่นเอง ซึ่งไม่เพียงแต่การมีความรู้ทางด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่โรงเรียนได้ใช้ปรัชญาการศึกษาของ Howard Gardner เพื่อให้นักเรียนได้รับการเรียนรู้หลายๆอย่าง ทั้งการเรียนรู้จากตำรา จากภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักเรียนสามารถ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ชีวิตการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยปรัชญาทางการศึกษาที่ทางโรงเรียนยึดถือ ทางโรงเรียนจึงกล่าวว่า เราเชื่อว่า “หัวใจทางการศึกษาคือการศึกษาจากหัวใจ” และยังเชื่ออีกว่าเด็กแต่ละคนนั้นล้วนแต่เป็นคนพิเศษและไม่ซ้ำกัน เราจึงเน้นการช่วยเหลือให้แต่ละบุคคลได้ค้นพบตนเองพร้อมทั้งช่วยเพิ่มความโดดเด่น ความสามารถ ทักษะของพวกเขาเหล่านั้นให้มีความเด่นชัดมากขึ้น เราสอนนักเรียนของเราไม่เพียงแต่จะเน้นให้เก่งทางวิชาการ แต่พวกเขายังจะได้ ความรู้สึกของการได้พบการสำรวจและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาให้มีทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล ความสามารถทางกายภาพ ดนตรี ซึ่งเขาอาจค้นพบพรสวรรค์ของเขาได้ ความสามารถทางด้านภาษาศาสตร์ และการมีจิตใจที่ดี โอบอ้อมต่อผู้อื่น คุณสามารถเห็นความรัก และ ความมุ่งมั่นในครูของเราและคุณจะประทับใจกับผลลัพธ์ นักเรียนของเราสนุกกับการเรียนรู้และพวกเขามาโรงเรียนด้วยความสุขที่แท้จริง จากบันทึกการติดตามของเราที่โดดเด่น เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าการพัฒนาแบบองค์รวม (บูรนาการศึกษา) ไม่จำเป็นต้องมาจากความเป็นเลิศทางวิชาการ เราเป็นผู้ผลิตนักเรียนที่ทำคะแนนได้ “A” ไม่เพียงเท่านั้นเรายังผลิตนักเรียนผู้ที่สามารถเข้าใจตนเองและผู้อื่นและเป็นนักเรียนที่มีความพร้อมสำหรับโลกแห่งความเป็นจริง เราเชื่อว่า Pelita International School จะสามารถทำให้บุตรหลานของท่านเริ่มต้นการเรียนรู้ที่ดี ควบคู่ไปกับการพัฒนาตนเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ เชิญมาเยี่ยมชมและค้นหาคำตอบได้ด้วยตัวคุณเอง กับสิ่งที่ทำให้โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปด้วยวิธีการสอนแบบบูรนาการศึกษา เราหวังว่าจะพบคุณและลูกของคุณ
หลักสูตรและระดับชั้นที่เปิดสอน
1.International Early Years อายุ 4-6 ปี ระยะเวลา 1-3 ปี
2.International Primary อายุ 5-12 ปี ระยะเวลา 6 ปี แบ่งออกเป็น Key Stage 1 (Years 1-2)
และ Key Stage 2 (Years 3-6) โดยวิชาเรียน Key Stage 1 เรียน 12 วิชา และ Key Stage 2
เรียน 12 วิชา เช่นกัน
3.International Secondary อายุ 13 -17 ปี ระยะเวลา 5 ปี แบ่งออกเป็น Key Stage 3 (Year7-9)
และ Key Stage 4 (Year 10-11) โดย Key Stage 3 เรียน 11 วิชา
ส่วน Key Stage 4 แบ่งออกเป็น IGCSE. Science Stream เรียน 10 วิชา , IGCSE. Art Stream เรียน 10 วิชา เช่นกัน แต่เนื้อหาและรายวิชาแตกต่างกันครับ (รายวิชาของแต่ละ Key Stage ผมไม่ได้ลง รายละเอียดไว้เกรงว่าเนื้อหาบทความจะมากเกินไป หากสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากผมได้ครับ) นอกจากนั้นยังมีวิชาแบบ Non-Examinable Subject จำนวน 2 วิชา คือ
1. Personal ,Social & health Education
2. Physical Education
เมื่อนักเรียนสมัครเรียน จะมีการสอบวัดระดับความรู้วิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เพื่อประเมินความเหมาะสมว่าจะเข้าศึกษาในระดับชั้นใด รวมถึงการพิจารณาความพร้อมด้านทักษะภาษาอังกฤษ และอาจต้องเรียนปรับพื้นภาษาอังกฤษ ถ้าผลการสอบภาษาอังกฤษไม่ได้ตามเกณฑ์ของทางโรงเรียน
หลักสูตรปรับพื้นภาษาอังกฤษ เช่น English Proficiency Program : EPP ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการสอบ และเรียนปรับพื้นฐานด้วย
ค่าใช้จ่ายต่อปี เป็นรายละเอียดที่ผู้ปกครองอยากรู้ เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเลือกโรงเรียนให้บุตรหลาน
ค่าใช้จ่ายต่อปี ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายแรกเข้า (ปีแรก) ค่าเรียนต่อภาคเรียน (3 ภาคเรียนต่อปี) ไม่รวมค่าที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัว สำหรับค่าแรกเข้าและค่าเรียน ในแต่ละช่วงชั้น ค่าใช้จ่ายจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ผมขอยกตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าเรียน ระดับ Year 7 (มัธยม 1) อ้างอิงราคาปี 2016/2017
รายละเอียดดังนี้
1.ค่าแรกเข้า (ปีแรก) : 11,400 RM
2.ค่าเรียนต่อปี = 7,300 RM* 3 เทอม : 21,900 RM
รวม = 33,300 RM ประมาณ 266,400 บาท (Rate RM : 8 Bath)
แผนภูมิแสดงระดับชั้นของการศึกษา
เริ่มต้นจากระดับประประถมศึกษา (Primary Education ) มัธยมศึกษา (Secondary School) Cambridge A Level จนถึงการศึกษาต่อในระดับ วิทยาลัย (College) หรือ มหาวิทยาลัย (University) ตามรูป
ภาคการศึกษา ประกอบด้วย 3 ภาคเรียน ต่อ ปีการศึกษา
ภาคเรียนที่ 1 : ต้นเดือน กันยายน
ภาคเรียนที่ 2 : ต้นเดือน มกราคม
ภาคเรียนที่ 3 : กลางเดือน เมษายน
การเยี่ยมชม Pelita International School
ผมมีโอกาสร่วมเดินทางเพื่อนำ นักเรียน และ ผู้ปกครอง เยี่ยมชมโรงเรียน Pelita International หลายครั้งเพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครอง ได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกสถานที่เรียนตรงตามความต้องการ
การพบปะนักเรียนและผู้ปกครอง
ผมได้รับความไว้วางใจ จากนักเรียน ผู้ปกครอง ให้แนะแนวการศึกษา การวางแผนที่เกี่ยวข้อง การสมัครเรียน และการติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร ขอขอบพระคุณในความไว้วางใจมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน และ เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
1. https://www.pelitaschool.edu.my
2. https://www.dek-d.com
3. Pelita International School Prospectus
เรียนอิโปห์ เที่ยวอิโปห์ ชีวิตที่เติมเต็ม ตอนที่ 1
นักเรียน ผู้ปกครอง หรือผู้สนใจเรื่องการศึกษาในเมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย อาจรู้จักผมผ่านทางบทความ “ Poi Lam High School เรียนมัธยมมาเลเซียในราคาประเทศไทย ” มาบ้างแล้ว จากการที่ได้รู้จักกันดังกล่าว ผมจึงมีโอกาสได้แนะแนวการศึกษา สมัครเรียน ตลอดจน ติดตามผลการเรียนตลอดหลักสูตร ของนักเรียนที่ศึกษาอยู่ที่ โรงเรียน Poi Lam High School
หลายครั้งที่พบว่า นักเรียน ผู้ปกครอง ที่เดินทางไปสมัครเรียนที่เมืองอิโปห์ รายงานตัว เข้าที่พัก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องการมีกิจกรรมร่วมกับครอบครัวโดยเดินทาง ท่องเที่ยวในเมืองอิโปห์ ในสถานที่ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมือง และสถาบันการศึกษามากนัก ดังนั้น ในบทความนี้ จะแนะนำให้ท่านได้รู้จักเมืองอิโปห์ และสถานที่ท่องเที่ยว เมืองอิโปห์ สัก 2-3 แห่งที่ผมมีโอกาสไปเยี่ยมชมด้วยตัวเองมาแล้ว โดยไม่ให้เนื้อหาของบทความมากเกินไป
เมืองอิโปห์ เป็นเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศมาเลเซีย มีฐานะเป็นเมืองหลวงของรัฐเปรัค (Perak) อยู่ห่างจากทางเหนือของของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประมาณ 200 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองปีนัง ประมาณ 130 กิโลเมตร มีฉายา อื่นๆ เช่น Paloh, The hill city และ The Bougainvillea City
ในศตวรรษ ที่ 19 เมืองอิโปห์ได้รับการพัฒนาอย่างมากในเรื่องการทำเหมืองแร่ดีบุก มีการติดต่อ ค้าขายกับชาติตะวันตกมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงทำให้เมืองแห่งนี้ ได้รับอิทธิพลของศิลปะในยุคโคโลเนียล มามากพอสมควร เราจึงได้เห็น บ้านเมือง ร้านค้า ที่พัก และ อาคารต่างๆในเมืองอิโปห์มีสไตล์ โคโลเนียล (Colonial Style) ผสมผสานกับศิลปะสไตล์จีนดั้งเดิมซึ่งมีลักษณะคล้ายกับบ้านเรือนใน จอร์จทาวน์ของเมืองปีนัง
ต่อมาในปี ค.ศ.1970 กิจการเหมืองแร่ได้ชะลอตัวลงจึงทำให้ความรุ่งเรืองต่างๆในเมืองอิโปห์เริ่มลดน้อยลง แต่สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือกลิ่นอายของความรุ่งเรืองที่ส่งผ่านออกมาจากอาคารบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลในเมืองนั่นเอง หลังจาก ปี ค.ศ. 1988 สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอัชลัน มูฮิบบุดดิน ชาห์ แห่งปารัค ( Sultan Azlan Shah) ได้ยกฐานะให้เมืองอิโปห์ มีฐานะเป็นเมือง และได้แยกเมืองอิโปห์ออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ เขตเมืองเก่า (Ipoh Old Town) และเขตเมืองใหม่ โดยใช้แม่น้ำคินตา (Kinta River) เป็นตัวแบ่งแยก ซึ่งปัจจุบันมีการวาดภาพฝาผนังสุดเก๋ไว้รอบๆเมือง กลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกไปแล้ว ส่วนเขตเมืองใหม่จะเป็นที่อยู่อาศัย และ ศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจ ปัจจุบัน อิโปห์มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหาร ชาวมาเลเซียต่างยกให้ที่นี่ เป็นศูนย์กลางความอร่อย มีร้านอาหารพื้นเมืองเจ้าดังมากมายที่คนมาเลเซียต่างต้องมาลิ้มลอง อาทิ ติ่มซำ ทาร์ดไข่ หรือ เผือกทอดสอดไส้ สาลาเปาแบบกวางตุ้ง หรือเข้าผัดสไตล์ฮ่องกง เป็นต้น
กล่าวโดยสรุปคือ เมืองอิโปห์ (Ipoh City) จะมีลักษณะดังนี้
ผมมีโอกาสไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งเมืองอิโปห์ มาแล้วบางแห่งจึงของแนะนำสัก 3 แห่ง รายละเอียดดังนี้ครับ
1.สวนนันทนาการ Gunung Lang เมืองอิโปห์ นอกจากย่านเมืองเก่าที่มีอาคารสวยๆ และสตรีทอาร์ตเก๋ๆแล้ว ที่เมืองอิโปห์ก็มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ไปนั่งเล่น ที่นี่เรียกว่า Gunung Lang หรือ Lang Mountain ที่นี่มีบริเวณกว้างขวาง มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และมีบริการล่องเรือนำเที่ยวระยะทางใกล้ๆไปที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งบนเกาะก็มีสวนและมุมเครื่องเล่นให้เด็กปืนป่ายได้ ถ้าไปตอนกลางวันอากาศค่อนข้างร้อน ไปช่วงเย็นๆอากาศจะดีกว่า สวนนันทนาการ Gunung Lang เปิดเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2000 ครอบคลุมพื้นที่ 30.35 ไร่ ประกอบด้วยทะเลสาบและสวนสาธารณะมีฉากหลังที่สวยงามของภูเขาหินปูน Gunung Land และ นุง Bilike สวนนันทนาการ Gunung Lang อยู่ห่างจากเมืองอิโปห์ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นบริเวณที่มีภูเขาหินปูนสูงใหญ่ สวยงาม ภายในสวนแห่งนี้ได้ถูกปรับแต่งให้เป็นสวนหย่อม มีทั้งสระน้ำขนาดใหญ่และสวน เพื่อให้เดินเล่นและออกกำลังกาย ที่นี่จึงกลายเป็นปอดให้กับคนเมือง และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองอิโปห์
สถานที่ตั้ง อยู่ที่ :
Taman Rekreasi Gunung Lang
Off Jalan Kualar Kangsar
30010 Ipoh, Perak
โทร.605-5063-088
โทรสาร 605-2537-396
เวลาเปิด :
วันจันทร์ ถึง วันพฤหัส :08.00-12 Noon /13.30-7.00 p.m.
วันศุกร์ : 08.00-12.00 Noon /2.45-16.00
วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ : 08.00 -06.30 p.m.
ค่าธรรมเนียมนั่งเรือ
ผู้ใหญ่ : 3.0 RM , เด็ก (3-12 ปี) 1.50 RM.พลเมืองอาวุโส (สูงกว่า 55 ปี) 1.50 RM.
2. ปราสาทเคลลี่ (Kellie’s Castle) สร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักในต่างแดนของ วิลเลี่ยม เคลลี่ สมิธ (William Kellie Smith) เจ้าของไร่ชาวสก็อต โดยสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาอย่างสง่างามมีการออกแบบให้อาคารมีลักษณะคล้ายกับปราสาทในประเทศสกอตแลนด์ เดิมทีปราสาทเคลลี สร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักในต่างแดนของวิลเลี่ยม เคลลี่ สมิธ เจ้าของไร่ชาวสก็อตในคริสตศวรรษที่ 20 เนื่องจากเขาต้องอยู่ห่างจากบ้านเกิด วิลเลี่ยมจึงต้องการให้บ้านหลังนี้มีกลิ่นอายของบ้านในสก็อตแลนด์ ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งเป็นสวนยางพารามาก่อน
วิลเลี่ยม เคลลี่ สมิธ เป็นบุคคลที่น่าสนใจ และได้รับการนับถือจากคนงานชาวอินเดีย ได้อย่างมาก เขาใจดีถึงขนาดที่ได้สร้างวัดฮินดู ให้คนงานของปราสาท ได้ประกอบพิธีเคารพบูชาพระเจ้าของตน เพื่อตอบแทนน้ำใจของเจ้านายผู้ใจดี คนงานเหล่านี้จึงได้สร้างรูปปั้นของ เคลลี่ สวมเสื้อสูท และหมวกสีขาว การก่อสร้างปราสาทที่สวบงามมีเอกลักษณ์หลังนี้เริ่มต้นในปี 1915 อย่างไรก็ตามการก่อสร้างหยุดชะงักลงเมื่อ เคลลี่ เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ในปี ค.ศ.1926 ปราสาทที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวแห่งนี้ดูเหมือนอยู่ในความฝันท่ามกลางพืชพันธ์ไม้ป่า ของรัฐเปรัค ให้ความรู้สึกถึงความลึกลับ และเป็นเอกลักษณ์ ที่โดดเด่น
ปัจจุบัน รัฐบาลของรัฐเปรัค พยายามฟื้นฟูปราสาทที่ถูกทำลายโดยบรรดาต้นไม้ วัชพืชต่างๆ นอกเหนือจากความลึกลับแล้วยังเชื่อกันว่า ยังมีห้องลับและอุโมงค์ใต้ดินซ่อนอยู่ในปราสาทอีกด้วยถนนทางเข้าปราสาท เคลลี่ ทอดยาวไปตามลักษณะพื้นดิน เวียนวนและชวนให้มึนงง ทำให้ปราสาทแห่งนี้ดรแมนติก และลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก ปราสาท ตั้งอยู่ระหว่างทางไปเมืองบาตูกายาห์ ในสวนยางคินตา เคอลาส ใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาที อยู่ห่างจากเมือง อิโปห์ประมาณ 14 กิโลเมตร
3. Ling Sen Tong Temple
วัด Ling Sen Tong เป็นวัดจีนแห่งหนึ่งของเมืองอิโปห์ ในบรรดาวัดจีนที่เป็นที่รู้จักในเมืองอิโปห์ ได้แก่ Ling Sen Tong , Tokong Nam Thean Tong และ Sam Poh Tong วัด Ling Sen Tong จะเป็นวัดที่เล็กสุดในบรรดา 3 วัดที่กล่าวข้างต้น จะมีเทพต่างๆไว้ให้สักการะอยู่หลายองค์ วัด Ling Sen Tong ตั้งอยู่ที่เลขที่ 31350 เมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ,มาเลเซีย
ถึงตอนนี้ผมคิดว่าทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านบทความตลอด คงได้รู้จัก เมือง อิโปห์ และแหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้มากขึ้น พบกันใหม่ตอนต่อไปครับ
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน และ เรียบเรียง
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
1. http://www.ipoh-city.com
2. https://travel.kapook.com/view137973.html
3. http://www.daopentor.com
4. https://www.wanteaw.com/2016/05/13/gunung-lang
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เข้าเยี่ยมติดตามผลนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ ณ โรงเรียนมัธยมศึกษา POI LAM HIGH SCHOOL เมืองอิโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นนักเรียนที่ท่านผู้ปกครองได้มอบความไว้วางใจให้ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เป็นผู้ดำเนินการแนะแนวการศึกษา สมัครเรียน และติดตามผลระหว่างการศึกษา การเยี่ยมติดตามครั้งนี้ได้มีโอกาส พบปะ พูดคุย ปรึกษา หารือประเด็นต่างๆที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียนไทย กับ คุณ GHO LIE LUAN Head of International Department , คุณ TOH YU CHI Head of Hostel Department และ พบปะ พูดคุย กับนักเรียนเพื่อเยี่ยมติดตามเรื่องการเรียน ความเป็นอยู่ การปรับตัว และเป็นกำลังใจแก่นักเรียนได้มีความขยัน อดทน เพื่อบรรลุผลสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายของนักเรียน และผู้ปกครองต่อไป
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 17-18 สิงหาคม 2560 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดย อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณพร้อมด้วย คุณธันยา เล้าธนะธรรม และ โรงเรียนนานาชาติวาดิโซเฟีย (Wadi Sofia International School )
จากประเทศมาเลเซีย โดยคุณ Liyana Leng Abdullahได้ร่วมออก Booth ในงานนิทรรศการตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ครั้งที่ 21 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ การร่วมงานในครั้งนี้ได้จัดกิจกรรมแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Lower Secondary) มัธยมศึกษาตอนปลาย ( Upper Secondary) รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนปรับพื้นฐานของนักเรียนต่างชาติ ก่อนเข้าเรียนในชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ หลักสูตร Junior Transition Class (JTC) และ Upper Transition Class (UTC) รวมทั้ง หลักสูตร Summer English Camp ตลอดจน แนะนำการเตรียมตัว วางแผนเพื่อประโยชน์ในการสมัครเรียน โดยได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากนักเรียน ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ที่เข้ามาเยี่ยมชมและรับการแนะแนวในครั้งนี้
โรงเรียนนานาชาติ วาดิโซเฟีย เป็นโรงเรียนระดับประถมและมัธยมแบบสหศึกษา รับรองวิทยฐานะโดยกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย จัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรของอังกฤษ การสอบแบบ IGCSE หรือ O-Level และ A-Level (Cambridge International Examination) บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เป็นตัวแทนของ โรงเรียนนานาชาติ วาดิโซเฟีย ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
สิงคโปร์ เกาะที่มีขนาดเล็ก มีเนื้อที่เพียง 697 ตร.กม. เทียบกับจังหวัดภูเก็ตของไทยซึ่งมีพื้นที่ 576 ตร.กม. สิงคโปร์มีพื้นที่ใหญ่กว่าจังหวัดภูเก็ตเพียงไม่มากนัก และสิงคโปร์ก็มีพื้นที่เล็กกว่า กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีพื้นที่ 1,569 ตร.กม. แต่สิงคโปร์มีความสามารถพัฒนาประเทศจนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ผู้นำ ผู้บริหารประเทศเขาเล็งเห็นว่า ทรัพยากรอย่างเดียวที่เกาะเล็กๆแห่งนี้มีก็คือ “มนุษย์” และการพัฒนามนุษย์ได้มีเพียงแต่ระบบการศึกษาเท่านั้น
การเรียนมัธยมศึกษาของนักเรียนต่างชาติในประเทศสิงคโปร์ มีทางเลือก 2 แนวทางคือ จะเลือกเรียนโรงเรียนรัฐบาลของสิงคโปร์ หรือจะเลือกเรียนโรงเรียนเอกชน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความพร้อม ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง ซึ่งทั้ง 2 ทางเลือกย่อมมีความแตกต่างทั้งในเรื่องขั้นตอน การเตรียมตัว และค่าใช้จ่าย ครับ การเรียนระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลของสิงคโปร์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้ปกครองจะส่งบุตรหลานไปเรียน เพราะค่าใช้จ่ายต่อปีของโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์จะถูกกว่าโรงเรียนเอกชนในสิงคโปร์เอง การศึกษายังประเทศสิงคโปร์นอกจากจะได้พัฒนาทักษะวิชาการแล้ว ยังได้ทักษะด้านภาษาอังกฤษอีกด้วยเพราะสิงคโปร์ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน รวมทั้งการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการอีกด้วย นักเรียนจึงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นเรื่องความปลอดภัย สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง อยู่ใกล้ประเทศไทย ทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะสำหรับที่จะให้บุตรหลานเริ่มต้นเรียนที่ต่างประเทศ แต่ที่สำคัญก็คือระบบการศึกษาของประเทศสิงคโปร์ เป็นที่ยอมรับทั่วโลก
จากการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA มีจำนวนประเทศที่ร่วมโครงการนี้มากกว่า 70 ประเทศโดยการสุ่มนักเรียนอายุ 15 ปีจากโรงเรียนทุกสังกัด มาประเมินผลการรู้เรื่องใน 3 ด้านคือ การรู้เรื่องการอ่าน (Reading Literacy) การรับรู้เรื่อง คณิตศาสตร์ (Mathematical Literacy) และการรับรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) นักเรียนจากประเทศสิงคโปร์ คว้าอันดับหนึ่งทุกด้าน (ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 57 , 54 , และ 54 ตามลำดับวิชา) ผลการทดสอบ PISA จัดขึ้นทุก 3 ปี ผลการทดสอบ PISA ที่จัดขึ้นในปี 2015 และเผยแพร่ผลออกมาแล้วพบว่านักเรียนจากประเทศสิงคโปร์ คว้าอันดับ หนึ่ง ทุกด้านตามที่กล่าวแล้วข้างต้น โดยมีผลคะแนนสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 556 คะแนน (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 493 คะแนน) วิชาคณิตศาสตร์ ได้ 564 คะแนน (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 490 คะแนน) ส่วนทักษะการอ่านทำได้ 535คะแนน (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 493 คะแนน)
หลายท่านคงมีความสนใจและอยากจะทราบว่าเส้นทางสู่การเรียนมัธยมศึกษาสิงคโปร์จะต้องกำเนินการอย่างไรบ้าง ดังนั้นผมจึงขอทำความเข้าใจ ทั้งทางเลือก เพื่อเรียนโรงเรียนของรัฐบาล และ โรงเรียนเอกชน โดยขอเริ่มที่ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางสู่การเรียนโรงเรียนรัฐบาลก่อนครับ
1.ความหมายและความสำคัญในการสอบ AEIS
AEIS ย่อมาจาก Admission Exercise for International Students ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการการของประเทศสิงคโปร์มีการปรับระเบียบในการรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลของสิงคโปร์ มาตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ปี 2008 โดยให้มีการสอบ AEIS นั่นเอง กล่าวคือ นักเรียนต่างชาติที่ต้องการเข้าเรียนต่อในโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์ทุกคนจะต้องเข้าสอบข้อสอบกลางนี้นั่นเอง (การเรียนมัธยมศึกษาโรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนนานาชาติ ที่ไม่ใช่ของรัฐบาลสิงคโปร์ไม่ต้องสอบ AEIS) ข้อสอบกลางนี้จะจัดโดยรัฐบาลสิงคโปร์เอง เดิมการสอบจะมีเพียง1 ครั้ง ต่อปีเท่านั้นในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี นักเรียนที่สอบไม่ผ่านก็กลับมาสอบใหม่ได้ในปีต่อไป ซึ่งอาจจะสอบเข้าระดับชั้นเดิมหรือการเลื่อนระดับชั้นซึ่งจะพิจารณาจากความสามารถ อายุ โดยใช้หลักฐานการเรียนระดับชั้นล่าสุดในการยื่นสมัครสอบ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา กระทรวงศึกษาธิการ สิงคโปร์ จัดให้มีการสอบ S-AEIS หรือ Supplementary AEIS ขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนที่พลาดจากการสอบ AEIS ได้สอบ S-AEIS อีกรอบหนึ่ง ซึ่งจะมีการจัดสอบในช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ ของปี
2. ระดับชั้นและวิชาที่สอบ
การสอบ AEIS สำหรับนักเรียนที่ต้องการเข้าศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึง 5 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 3 วิชาที่สอบจะสอบวิชาคณิตศาสตร์ และ วิชาภาษาอังกฤษ โดยข้อสอบมีโจทย์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
3. เงื่อนไขในการสอบ AEIS ดังนี้
หมายเหตุ: โรงเรียนในสิงคโปร์ เปิดเรียนประมาณวันที่ 2 มกราคม ของทุกปี หากนักเรียนมีอายุไม่ถึงเกณฑ์ในปีการศึกษานั้นๆก็ขอให้เลือกสอบเข้าในชั้นเรียนที่อายุผ่านเกณฑ์แล้วเท่านั้น
4.การสมัครสอบ AEIS
สมัครสอบแบบออนไลน์ ผ่านทาง Website ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยสมัครได้ที่ http://www.moe.go.sg/education/admission/international-students/
5.การประกาศผลสอบ AEIS
ผลการสอบ AEIS ของการสอบ เดือน ตุลาคม จะมีการประกาศผลประมาณเดือน ธันวาคม โดยผลสอบจะบอกผลเป็น ผ่าน (Successful) หรือไม่ผ่าน (Unsuccessful)จะไม่มีการประกาศคะแนนให้ทราบ กรณีที่นักเรียนสอบผ่าน ทางกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์จะแจ้งให้ทราบพร้อมระบุชื่อโรงเรียนที่ทางรัฐบาลเลือกให้ (นักเรียนไม่สามารถเลือกโรงเรียนเองได้) กรณีสอบไม่ผ่านสามารถสอบใหม่ปีถัดไป หรือ สอบ S-AEIS ได้ตามที่กล่าวแล้วข้างต้น เพื่อให้เข้าใจขั้นตอนของระบบการเรียนมัธยมศึกษาของประเทศสิงคโปร์มากยิ่งขึ้นจึงขอแสดงแผนภูมิประกอบทำความเข้าใจ กล่าวคือ นักเรียนที่จบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ,มัธยมศึกษาปีที่ 2 หรือ มัธยมศึกษาปีที่ 3 จากประเทศไทย ประสงค์จะเรียนมัธยมศึกษา ณ ประเทศสิงคโปร์ จะมีขั้นตอนตามแผนภูมิ ตามรูปที่ 1
รูปที่ 1 แผนภูมิแสดงขั้นตอนการเข้าเรียนมัธยมศึกษา ประเทศสิงคโปร์
6.ขั้นตอนการสมัคร สอบ AEIS รายละเอียดขั้นตอนการสมัครสอบ AEIS ตามรูปที่ 2
รูปที่ 2 ขั้นตอนการสมัครสอบ AEIS
7.ตารางกำหนดการสมัครสอบ กำหนดการสมัครสอบ AEIS ตามรูป 3
รูปที่ 3 ตารางกำหนดการสมัครสอบ AEIS
8.คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ AEIS รายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครสอบ AEIS ตามรูป 4
รูปที่ 4 รายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครสอบ AEIS
9.การเรียนติวเพื่อสอบ AEIS
นักเรียนไทยก่อนที่จะไปเรียนต่อมัธยมศึกษาในประเทศสิงคโปร์ สิ่งที่จะต้องพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับความพร้อมของตัวเราเองก็คือ ระดับความรู้ของตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาคณิตศาสตร์ หากคิดว่าตัวเองมีความรู้เพียงพอก็สอบ AEIS เพื่อเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมรัฐบาลสิงคโปร์ได้เลย แต่กรณีที่ไม่แน่ใจก็ควรเตรียมสอบ AEIS ก่อน แต่ถ้าจะเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาของเอกชน ก็ไม่ต้องสอบ AEIS แต่ก็อาจมีการทดสอบวัดระดับความรู้ เพื่อการเรียนปรับพื้นตามที่แต่ละโรงเรียนกำหนด ครับ
การเรียนติวเพื่อสอบ AEIS มีสถาบันติวหลายสถาบันที่สิงคโปร์ นักเรียนสามารถเลือกเรียนกับกับสถาบันต่างๆได้ ตั้งแต่จบชั้น ป.6 และใช้เวลาเรียนติวประมาณ 5 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อจะได้มีความพร้อมมากพอ ในการสอบ AEIS ค่าใช้จ่ายในการเรียนติว ระยะเวลา 20 Weeks – 25 Weeks รวมค่าสมัคร ค่าลงทะเบียน ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าสอบประเมินผล (ไม่รวม ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าครองชีพหรือใช้จ่ายส่วนตัว ) ประมาณ 170,000 – 220, 000 บาท ตามลำดับ
ผมมีโอกาสได้สำรวจเยี่ยมชมสถาบันติว AEIS หลายแห่งในสิงคโปร์ และได้รับการแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับนักเรียนไทย มากครับ
รูปที่ 5 การเยี่ยมชมสถาบันติว AEIS ในสิงคโปร์
10. ที่พักสำหรับนักเรียน
การหาที่พักสำหรับนักเรียน รวมทั้งผู้ปกครองดูแลนักเรียนระหว่างที่ศึกษาอยู่ในสิงคโปร์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นักเรียน ผู้ปกครอง ควรทราบและเตรียมการให้เหมาะสม ที่พักนักเรียนโดยทั่วไปก็จะเป็นประเภท หอพักนักเรียน (Student Hostel) และที่พักแบบพักอาศัยกับครอบครัวชาวสิงคโปร์ (Home Stay)
ผมมีโอกาสไปเยี่ยมชม สร้าง ความสัมพันธ์ กับครอบครัวชาวสิงคโปร์ ที่มีความพร้อมในการรับนักเรียนต่างชาติ สามารถปกครองดูแล และคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือ เรื่องการเรียน การเรียนติวเพื่อสอบ AEIS และการใช้ชีวิตระหว่างศึกษาอยู่ในประเทศสิงคโปร์ รวมทั้งการเลือกทำเลที่ตั้งของ Home Stay ที่สะดวก ปลอดภัย ไม่ไกลจากสถานที่เรียน และ มีบริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและมีประโยชน์ มากสำหรับนักเรียนไทยที่จะไปศึกษายังประเทศสิงคโปร์
รูปที่ 6 การเยี่ยมชมครอบครัว (Home Stay) ในสิงคโปร์
รูปที่ 7 การเลือกตำแหน่งที่ตั้งของ Home Stay ในสิงคโปร์
สำหรับนักเรียนที่พลาดโอกาสจากการสอบ AEIS เพื่อเข้าโรงเรียนรัฐบาลสิงคโปร์ไม่ผ่านเกณฑ์ ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งตามที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น คือการเลือกเรียนโรงเรียนมัธยมเอกชนของสิงคโปร์ได้เช่นกัน ซึ่งไม่ต้องสอบ AEIS สามารถสมัครกับทางโรงเรียนโดยตรง หรือเพื่อความสะดวกก็สามารถสมัครผ่านตัวแทนของโรงเรียนในเมืองไทยได้ครับ โรงเรียนเอกชนจะมีการสอบวัดระดับความรู้ทักษะภาษาอังกฤษ และทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ ถ้าผลการสอบยังไม่ผ่านเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนด ส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนจะมี Course เรียนปรับพื้นฐานก่อน ระยะเวลา อาจจะประมาณ 3 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าในการพัฒนาทักษะของนักเรียนเอง หลังจากผ่านการเรียนปรับพื้นฐานแล้วนักเรียนก็สามารถเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนเอกชนนั้น ๆ ได้เลย (ดูรายละเอียด รูปที่ 1 แผนภูมิแสดงขั้นตอนการเข้าเรียนมัธยมศึกษา ประเทศสิงคโปร์ ประกอบ)
ตัวอย่างโรงเรียนเอกชนในประเทศสิงคโปร์ ที่ผมขอแนะนำเช่น โรงเรียน Shelton College International College รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก : https://www.sjworldedu.com/country/singapore/shelton-college/
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วทม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
1.http://knowledgefarm.in.th
2. http://posttoday.com
3. https://www.intellectlearninghub.com
4. https://www.moe.gov.sg
5.Homestay & Partnership with AEIS ,Singapore
ออสเตรเลียเป็นประเทศยอดนิยม ที่นักเรียน ผู้ปกครอง ถามถึงกันมาก เพื่อนักเรียนหรือบุตรหลานได้มีโอกาสไปศึกษาต่อเพราะการสำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียนับเป็นคุณสมบัติที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก การเรียนการสอนที่มีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานในระดับนานาชาติ มีระบบการช่วยเหลือนักเรียนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก รวมทั้งเป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้นักเรียนต่างชาติกว่า 600,000 คน จาก 200 ประเทศทั่วโลกเดินทางมาเรียนที่ ออสเตรเลียในแต่ละปี และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วพวกเขาต่างก็มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียมีระดับการศึกษาตั้งแต่ อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ระดับการเรียนปรับพื้นเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย (Foundation) ระดับวิชาชีพ (Vocational Education and Training : VET or Technical And Further Education : TAFE ) รวมถึงระดับอุดมศึกษา ได้แก่ ระดับปริญญาตรี โท และ เอก นอกจากนั้นประเทศออสเตรเลียได้ให้ความสำคัญกับนักเรียนต่างชาติ โดยการจัดหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติ (English Language Intensive Course for Overseas Students : ELICOS ) หลักสูตรภาษาอังกฤษจะประกอบไปด้วย General English , IELTS Preparation ,Business English และ English for Academic : EAP เป็นต้น
สถิติจำนวนนักเรียนไทย ปี 2014 ที่ลงทะเบียนศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลียพบว่า อยู่ในอันดับ 5 รองจาก จีน บราซิล เกาหลี และ กัมพูชา ตามลำดับ โดยนักเรียนไทยลงทะเบียนเรียนหลักสูตร ELICOS อย่างเดียว 40.4 % เรียน ELICOS ควบคู่กับการเรียนในระดับการศึกษาขั้นอุดมศึกษา (Higher Education ) 19.5 % เรียน ELICOS ควบคู่กับ VET 41.8 % เรียน ELICOS ควบคู่กับระดับโรงเรียน 1.7 % และเรียน ELICOS ควบคู่กับ Non-Award 0.3 %
สถิติจำนวนนักเรียนไทย ปี 2015-2016 ที่ลงทะเบียนศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลียพบว่าภาพรวมทุกระดับชั้น ปี 2015 จำนวน 27,765 คน ปี 2016 จำนวน 30,451 คน อัตราเติมโต 9.7 % จำนวนนักเรียนไทยที่ลงทะเบียนเรียนในออสเตรเลียปี 2015-2016 อยู่ในอันดับ 4 รองจาก จีน อินเดีย เกาหลี ตามลำดับ นอกจากนั้นยังพบว่า ปี 2017 ช่วง เดือน มกราคม–มีนาคม สถิติจำนวนนักเรียนไทยที่ลงทะเบียนเรียนในออสเตรเลียทุกระดับชั้น จำนวน 17,903 คน อยู่ในอันดับ 7 รองจาก จีน อินเดีย มาเลเซีย เวียดนาม เนปาล และเกาหลีใต้ ตามลำดับ
ด้วยภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ไม่ค่อยดีนัก ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาการขอวีซ่านักเรียนเข้าประเทศออสเตรเลียที่เข้มงวดยิ่งขึ้นทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป สถานฑูตออสเตรเลียกำหนดให้ใช้การประเมินผลนักเรียนจากความเสี่ยงโดยใช้สัญชาติของผู้สมัครเรียน (Country Immigration Risk) และ ความเสี่ยงของสถาบันการศึกษา(Education Provider Immigration Risk) ที่ผู้เรียนสมัครเรียน เป็นเกณฑ์ โดยจะแบ่งมาตรฐานการพิจารณาออกเป็น 2 ประเภท ตามความเสี่ยงทั้ง 2 ความเสี่ยงที่กล่าวข้างต้น ซึ่งทางสถานทูตได้เก็บสถิติและประเมินความเสี่ยงของแต่ละสัญชาติ และแต่ละสถาบันการศึกษาไว้แล้ว (เช่นความเสี่ยง ระดับ 1,2 หรือ 3 ตัวเลขมากความเสี่ยงมาก ครับ) นั่นคือจะแบ่งมาตรฐานการพิจารณาออกเป็น 2 แบบ คือ แบบ Streamlined (S) และ แบบ Regular (R) รายละเอียดตามรูปที่ 1
รูปที่ 1 เกณฑ์การประเมินความเสี่ยงในการพิจาณาวีซ่านักเรียนเข้าศึกษาประเทศออสเตรเลีย
โดยทั่วไปแล้วนักเรียนที่ได้รับพิจารณาแบบ Streamlined (S) ไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานทางการเงินและผลคะแนนระดับภาษาอังกฤษ โดยสถานทูตจะปล่อยให้เป็นวิจารณญาณของสถาบันการศึกษา (อย่างไรก็ตามทางสถานฑูตก็สงวนสิทธิ์ ในการขอเอกสารเพิ่มเติมได้หากพิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยง) ส่วนนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาแบบ Regular ( R ) จำเป็นต้องยื่นเอกสารทางการเงิน ทุกกรณี และยื่นผลคะแนนระดับภาษาอังกฤษ หากผู้เรียนสมัครเรียนในหลักสูตรที่ระบุต้องการผลการสอบภาษาอังกฤษ
การยื่นขอวีซ่านักเรียนกำหนดให้ยื่นทาง Online เท่านั้น และจะต้องมีการเก็บข้อมูล อัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) ทุกคน รวมทั้งนักเรียนจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าตัวเองเป็น “Genuine Temporary Entrant”หรือ GTE.หมายถึงเป็นบุคคลที่มีความประสงค์ ต้องการเข้ามาเรียนที่ออสเตรเลียอย่างแท้จริง ซึ่งเกณฑ์นี้จะเป็นวัตถุประสงค์หลักที่ทาง Immigration จะใช้ในการพิจารณาอนุมัติวีซ่าแก่นักเรียนแต่ละรายหรือไม่นั่นเอง กล่าวคือ ในเรื่องเกี่ยวกับ GTE นักเรียนจะต้องให้เหตุผลชัดเจน ในประเด็นต่างๆเช่น ทำไมต้องมาเรียนที่ออสเตรเลีย จะเรียนสาขาอะไร ระดับไหน เกี่ยวข้องอะไรกับความรู้หรือคุณวุฒิการศึกษาเดิมของนักเรียน กลับมาประเทศของตนเองแล้วจะทำอะไร สอดคล้องกับทีเรียนมาหรือไม่ เหตุผลในประเด็นเหล่านี้ต้องมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ผู้พิจารณาอนุมัติวีซ่าแก่นักเรียน
หลักเกณฑ์เอกสารทางการเงิน เป็นอีกหลักเกณฑ์หนึ่งที่เป็นนัยสำคัญ กล่าวคือ ความเคลื่อนไหวทางการเงินย้อนหลัง 6 เดือน ดูจาก Bank Statement โดยมียอดเงินที่สามารถถอนได้ดังนี้
Student /Guardian = 19,830 AUD , Partner / Spouse = 6,940 AUD , Child = 2,970 AUD ตามที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าการยื่นขอวีซ่านักเรียนเพื่อเข้าศึกษายังประเทศออสเตรเลียมีความเข้มงวดรัดกุมทุกขั้นตอน หากขาดการวางแผนที่ดีไว้เป็นการล่วงหน้าระยะยาว ย่อมมีความเสี่ยงมากที่นักเรียนจะถูกปฏิเสธการอนุมัติวีซ่า และเป็นที่น่าเสียดายที่ทราบว่าขณะนี้นักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ถูกปฎิเสธการอนุมัติวีซ่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
อย่างไรก็ตามเพื่อเปิดโอกาสนักเรียนที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษ ตามมาตรฐานและหลักสูตรของออสเตรเลียโดยไม่ต้องเดินทางไปยังประเทศออสเตรเลีย สามารถเรียนกับสถาบันสอนภาษาจากออสเตรเลียที่มาเปิดสาขาที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีมาตรฐาน และ หลักสูตร เช่นเดียวกับที่ออสเตรเลียสอนโดยเจ้าของภาษา (Native English) เริ่มเรียนได้ทุกวันจันทร์ ประหยัด สะดวก และปลอดภัยด้วยครับ
โอกาสนี้ผมจึงขอแนะนำสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ คือสถาบันสอนภาษา English Language Company (ELC) ตั้งอยู่ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นสถาบันที่ได้รับรางวัลโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษยอดเยี่ยม ได้รับเลือกให้เป็นโรงเรียนสอนภาษาดีเด่นของซีกโลกใต้ ในปี 2009,2011,และ 2013 และได้รับเสนอชื่อในรางวัลเดียวกันในปี 2008 และ 2010 แสดงให้เห็นว่าคุณภาพของสถาบัน ELC เป็นหนึ่งในโรงเรียนสอนภาษาที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดในออสเตรเลีย
ผมมีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชม เข้าพบพูดคุยกับผู้บริหารของ ELC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผมคิดว่าโอกาสดีสำหรับนักเรียนไทย เพราะปัจจุบัน ELC ได้มาเปิดสาขาที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของไทย และเป็นประเทศสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เช่นเดียวกับประเทศไทย ผู้สนใจเรียนภาษาอังกฤษตามมาตรฐานและหลักสูตร ที่ตรงตามออสเตรเลียทุกอย่างก็สามารถสมัครเรียนได้ ไม่ยาก ระยะทางไม่ไกลจากประเทศไทย ผู้เรียนหลากหลายเชื้อชาติ มีโอกาสได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับนักเรียนต่างชาติได้ช่วยเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษได้อีกทางหนึ่งด้วย สถานที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวกของสถาบัน ELC ที่มาเลเซีย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงกัวลาลัมเปอร์ ใกล้ศูนย์กลางการขนส่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า และ ย่านบันเทิง ข้อดีของการเรียนที่ ELC มาเลเซีย คือ ไม่ไกลจากประเทศไทย ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงเกี่ยวกับการยื่นขอวีซ่า ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีที่พักสำหรับนักเรียนสะดวก ปลอดภัย ใกล้กับที่เรียน ใกล้กับศูนย์กลางการขนส่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าและย่านบันเทิง และมีมาตรฐานและหลักสูตรเช่นเดียวกับประเทศออสเตรเลียทุกอย่าง
รูปที่ 2 การเยี่ยมชม English Language Company( ELC ) of Malaysia
สถาบันสอนภาษา English Language Company (ELC) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้รับรางวัลโรงเรียนสอนภาษาดีที่สุดในประเทศมาเลเซีย ปี 2016 ( ELC Kuala Lumpur Awarded Best Language School in Malaysia 2016 ) ซึ่งได้รับมอบรางวัลจากอธิบดีกระทรวงศึกษาธิการของมาเลเซีย ELC กัวลาลัมเปอร์ มีการจัดการเรียนการสอนและนำเสนอ คอร์สโปรแกรมเดียวกับที่ ELC ซิดนีย์ ซึ่งนักเรียนสามารถเตรียมตัวเพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่มาเลเซียหรือทำงานที่บริษัทนานาชาติ ในภูมิภาคอาเซียนได้เช่นกัน
รูปที่ 3 สถาบัน ELC มาเลเซีย ได้รับรางวัลโรงเรียนสอนภาษาดีที่สุดในประเทศมาเลเซีย ปี 2016
สนใจ สมัครเรียนต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
1. Austrad Briefing Agent Training 4 June 2015
2.Austrade Briefing Agent Training Workshop 22 May 2017
3. E-News Letter English Language Company
4.www.elcmy.edu.my
5.www.studyinaustralia.gov.au
(คู่มือการเรียนต่อและใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลีย)
สถาบันสอนภาษา English Language Company (ELC) ก่อตั้งโดย David และ Lyn Scott ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2003 มีนักเรียนทั้งหมด 300 – 400 คน จากกว่า 45 ประเทศ ได้รับการรับรองโดย NEAS ซึ่งเป็นสมาชิกของ ACPET
ELC เป็นโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกโดยนิตยสาร Study Travel Star Award ให้เป็น “Star English Language School South Hemisphere” ในปี 2013 เป็น Superstar 7 ปีซ้อน (จาก 2007 – 2013) และยังได้รับเชิญให้เข้าร่วม IABC (International Association of Language Centers) เฉพาะโรงเรียนสอนภาษาชั้นนำของโลกเท่านั้นในปี 2009 หลังจากได้รับการยอมรับโดยการตรวจสอบและการอ้างอิงอย่างเข้มงวด ปัจจุบัน ELC มีด้วยกัน 2 แห่ง คือ ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียในฐานะที่เป็นโรงเรียนที่ได้รับการยอมรับ ELC Sydney มีข้อตกลงในการประสานงานกับ สถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย ได้แก่
ELC มาเลเซียจะสร้างพันธมิตรกับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซียโดยให้บริการสอนภาษาแก่นักเรียนที่มีความสามารถภาษาอังกฤษยังไม่สูงพอที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้เช่นกัน
ELC Malaysia
– วิธีการสอนและเนื้อหา
– หลักเกณฑ์หลักสูตรและเกณฑ์การประเมิน
– ซอฟต์แวร์การจัดการนักเรียน รวมถึงการตรวจสอบความคืบหน้าทุกวันและการตอบสนองความคิดเห็นของนักเรียน
– การสนับสนุนและพัฒนาบุคลากร
– การตรวจสอบระยะยาวของการพัฒนาของโรงเรียน
ทำไมถึงเลือกเรียนที่ ELC
นักเรียน ELC มาจากกว่า 40 ประเทศที่แตกต่างกัน ทำให้นักเรียนจะต้องพูดภาษาอังกฤษในการสื่อสารเพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนจากทั่วโลก
หลักสูตรที่เปิดสอน
Major Courses
Special Focus Modules (SFMs)
English Extra
ลักษณะการเรียนที่ ELC
นักเรียนจะได้เรียน
เรียนสัปดาห์ละ 5 วัน (จันทร์ – ศุกร์) รวมเป็น 25 ชั่วโมง ต่อ สัปดาห์
ELC Malaysia
บรรยากาศห้องเรียน
บรรยากาศห้องเรียน
กิจกรรมของ ELC
Malaysia Accommodation option
มีหลายที่ ให้นักเรียนได้เลือกพัก
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด และ คณะฯ ได้เดินทางไปดำเนินการสมัครเรียน และการเยี่ยมชมโรงเรียน ณ โรงเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์ (IPOH) รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โดยมี นักเรียนผู้ปกครอง จากประเทศไทย จำนวน 10 ครอบครัว จากหลายจังหวัด เกือบทุกภูมิภาค มอบความไว้วางใจให้บริษัทฯเป็นผู้ดำเนินการ กิจกรรมประกอบด้วย การสมัครเรียน การชำระค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก ซื้อตำรา และชุดนักเรียน ชุดพลศึกษา ตลอดจนการส่งนักเรียนเข้าหอพัก โดยสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันเดียวกันนี้ และมีนักเรียนผู้ปกครองบางส่วนที่ต้องการเตรียมการล่วงหน้าได้มาเยี่ยมชมโรงเรียน หาข้อมูล รวมทั้ง การสอบวัดระดับความรู้ของนักเรียน เพื่อประกอบการวางแผน เตรียมความพร้อมก่อนการสมัครเรียน อีกด้วย รวมทั้งได้สัมผัสบรรยากาศของโรงเรียนจากสถานที่จริง รับข้อมูลข่าวสารโดยตรง จากผู้บริหารของโรงเรียน และจากประสบการณ์ของนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาที่ POI LAM HIGH SCHOOL คณะผู้ปกครองยังได้มีโอกาสทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนทัศนคติ เพื่อประโยชน์ในการช่วยกันติดตามดูแลนักเรียนในโอกาสต่อไปด้วย
การดำเนินการครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง จาก ผู้บริหาร ของโรงเรียน ประกอบด้วย คุณ Leong Ping Chow , Principal และ คุณ GHO LIE LUAN , Head of International Department ให้เกียรติเปิดห้อง VIP ของโรงเรียน กล่าวต้อนรับ ให้คำแนะนำตลอดจนให้ความมั่นใจ และขอบพระคุณผู้ปกครองที่ไว้วางใจให้บุตรหลานมาเรียนที่ โรงเรียน Poi Lam High School บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น และเป็นกันเอง บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ขอขอบพระคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 18-19 มีนาคม 2560 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ร่วมกับ ผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตวิทยา ได้จัดกิจกรรมการแนะนำให้คำปรึกษา ทดสอบ และ ประเมินด้านความถนัด และบุคลิกภาพเพื่อเป็นแนวทางการวางแผนการศึกษาต่อและการทำงาน ตามโครงการค้นหาพรสวรรค์เพื่อการเลือกแนวทางการศึกษาต่อและการทำงาน ณ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้นำข้อมูลไปวางแผนการพัฒนาให้ถูกทาง กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจเข้าร่วมโครงการเกินเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับผู้สนใจที่พลาดโอกาสในการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ สามารถเข้าร่วมโครงการในครั้งต่อไปได้ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเข้าชมที่ https://www.sjworldedu.com/home-course/talent-discovery/
ประมวลภาพกิจกรรมของโครงการฯ ครั้งที่ 1 /2560
เมื่อกล่าวถึงโรงเรียนนานาชาติ หรือ International School หลายท่านก็รู้สึกได้ทันทีว่า หรูหรา ค่าใช้จ่ายสูง คงสู้ไม่ไหว อะไรประมาณนั้น ผมเองตอนแรกก็เป็นคนหนึ่งครับที่รู้สึกทำนองนี้ สาเหตุที่รู้สึกอย่างนั้นก็ไม่แปลกครับ ก่อนที่ผมจะเดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติยังประเทศมาเลเซีย ผมได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติที่ก่อตั้งหรือเปิดสอนอยู่ในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานความรู้ไว้ระดับหนึ่งรายละเอียดดังนี้ครับ
โรงเรียนนานาชาติเป็นความหวังของผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ต้องการให้บุตรหลานได้มีโอกาสเข้าศึกษาในสถานศึกษาที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับการเรียนภาคภาษาอังกฤษ เพราะไม่ว่าโลกปัจจุบันหรืออนาคตภาษาอังกฤษมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะภาษาอังกฤษจะเป็นประตูสู่โลกกว้าง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยมีจำนวนมากและมีโรงเรียนเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยโดยทั่วไปจะใช้หลักสูตรโรงเรียนนานาชาติระบบต่างๆ เช่น ระบบอังกฤษ ระบบอเมริกัน ระบบสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน หรือ ออสเตรเลีย ระบบสิงคโปร์ ตลอดทั้ง ระบบ International Baccalaureate : IB เป็นต้น
โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมลฑล ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งธุรกิจที่สำคัญ รวมทั้งในต่างจังหวัดเมืองใหญ่ ที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย หาดใหญ่ เป็นต้น ดังนั้นการแข่งขันของแต่ละโรงเรียนจึงไม่เพียงแต่เรื่องของหลักสูตรนานาชาติ หรือระดับคุณภาพในการเรียนการสอนเท่านั้น แต่จะมีเรื่องความทันสมัยของอาคารสถานที่สิ่งปลูกสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม และฐานะทางสังคม และต้องยอมรับความจริงว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยยอมจ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าจองสิทธิ์การเรียน ค่าแรกเข้า ค่าประกันความเสียหาย ค่าอาหาร ค่ากิจกรรม ค่าที่พัก ค่าสอบวัดระดับความรู้ ค่าเล่าเรียนทั้งตามหลักสูตร และค่าเรียนปรับพื้นฐานเพิ่มเติม ฯลฯ
ผมได้ทำการสำรวจค่าใช้จ่ายของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 19 โรงเรียนเท่าที่พอจะหาข้อมูลได้โดยเน้นที่ระดับมัธยมศึกษา ขอสรุปรายการค่าใช้จ่ายดังนี้
ตารางที่ 1 แสดงรายการค่าใช้จ่ายโรงเรียนนานาชาติ ระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปี 2015-2016
สำหรับ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ที่มีความพร้อมในเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็คงไม่มีปัญหาอะไรครับ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของนักเรียนกลุ่มนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ผมได้ทำหน้าที่แนะแนวการศึกษาต่างประเทศหลายปีต่อเนื่อง ได้รับการติดต่อขอคำแนะนำจากผู้ปกครองบ่อยครั้ง เช่นเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียน นานาชาติในต่างประเทศ เช่นในประเทศมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งการเดินทางไปมาสะดวก ความเป็นอยู่ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่นค่าครองชีพใกล้เคียงประเทศไทย อีกทั้งในบางช่วงเวลาค่าครองชีพจะถูกกว่าด้วยซ้ำ เพราะค่าเงินจากอัตราแลกเปลี่ยนของมาเลเซียนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองรู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลาเมื่อกล่าวถึงโรงเรียนนานาชาติ (International School) คือค่าใช้จ่ายต่อปี ซึ่งหลายท่านคงค้นหาข้อมูลค่าใช้จ่ายโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยไว้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบเช่นเดียวกับวิธีการที่ผมใช้อยู่ เช่นกันครับ
ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติหลายครั้ง แต่ที่ผมสนใจและขอแนะนำ ครั้งนี้คือ โรงเรียนนานาชาติวาดิโซเฟีย (Wadi Sofia International School ) ด้วยเหตุผลดังนี้
(1) โรงเรียนนานาชาติวาดิโซเฟีย (Wadi Sofia International School ) เป็นสถาบันในกลุ่มโรงเรียน ของ Wadi Sofia College ซึ่งในกลุ่มนี้ จะมีสถาบันที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษาหรือเตรียมอุดมศึกษา ตลอดจนหลักสูตรด้านการศึกษาและอบรมระยะสั้น รวบแล้ว จำนวน 5 โรงเรียน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sjworldedu.com/country/malaysia/wadi-sofia-international-school/)
(2) สถานที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนพฤกษชาติ ในเนื้อที่ 45 ไร่เศษ ห่างจากเมืองโกตาบารู เพียง 15 กิโลเมตรซึ่งเป็นเมืองหลวงที่สงบและสวยงามของรัฐกลันตัน โรงเรียนสะอาด ปลอดภัย มีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเดินทางได้ทั้งทาง รถยนต์ รถไฟ และทางเครื่องบิน
รูปที่ 1 สถานที่ตั้งของโรงเรียน Wadi Sofia International School
(3) ผู้บริหาร ของโรงเรียน ท่าน Datuk Hassan bin Harun ท่านเป็น Principal ของโรงเรียน ผู้ก่อตั้งโรงเรียน และอาจารย์ใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียงทางด้านการศึกษาภาคเอกชนของมาเลเซีย ผู้ให้การสนับสนุนการศึกษามาโดยตลอด เป็นสมาชิกที่ปรึกษาการศึกษาแห่งชาติของมาเลเซียตั้งแต่เริ่มอาชีพ ปี ค.ศ.1960 จนปัจจุบัน ท่านได้เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งและบริหารสถาบันเอกชนต่างๆหลายระดับในมาเลเซีย ผมได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนและรับฟังการบรรยายสรุป แนะนำโรงเรียนจากท่าน Datuk Hassan bin Harun โดยตรง รวมทั้งทีมงานบริหารของท่านด้วยความเป็นกันเอง และท่านได้สอดแทรกแง่มุมความคิดที่มีประโยชน์มาก ทำให้ผมได้เห็นความตั้งใจจริงของท่านในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ สำหรับนักเรียนในมาเลเซียและนักเรียนจากนานาชาติ
รูปที่ 2 เข้าพบผู้บริหาร และทีมงาน ของ Wadi Sofia International School
(4) มีชั้นเรียนพิเศษสำหรับนักเรียนที่ไม่ชำนาญภาษาอังกฤษ (หรือการเรียนปรับพื้นฐาน) ทางโรงเรียน Wadi Sofia International School โดย Wadi Sofia Center of Languages มีโปรแกรมหลักสูตรพิเศษสำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่มีความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษยังไม่เพียงพอแต่มีความต้องการที่จะศึกษาในโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในมาเลเซีย จะต้องเข้าศึกษาหลักสูตรนี้ เพื่อยกระดับความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษ เป็นการปรับพื้นก่อนเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ ปีที่ 4 ต่อไป โปรแกรมหลักสูตรพิเศษจะประกอบไปด้วย Junior Transition Class (JTC) และ Upper Transition Class (UTC) เพื่อให้มีความเข้าใจยิ่งขึ้นผมขอเขียนแผนภูมิ (Diagram) ประกอบการอธิบายดังนี้
4.1 กรณีจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
รูปที่ 3 แผนการเรียนหลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
จากรูปที่ 3 จะเห็นว่านักเรียนไทยที่ต้องการจะศึกษาในโปรแกรม Junior Transition Class (JTC) จะต้องสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อายุประมาณ 11 ปี การเรียน JTC จะมีสาระสำคัญที่เข้มข้น (Intensive Program) เน้นในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมตัวสำหรับเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง การเรียน JTC ใช้ระยะเวลาของหลักสูตร 8 เดือน จึงจะจบหลักสูตรนี้ จากนั้นนักเรียนจะต้องเข้าศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ซึ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาปีที่ 4-5 มัธยมศึกษาตอนปลาย จนกระทั่งจบ IGCSE หรือ “O” Level โดย การเรียน JTC จะเริ่มเรียนในช่วงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ของทุกปี วิชาที่ทำการสอนของโปรแกรมการเรียน JTC ประกอบด้วย
ก.ภาษาอังกฤษประกอบด้วย ทักษะการสื่อสาร หลักไวยากรณ์และการเขียน ทักษะการฟัง การอ่านและทำความเข้าใจ
ข.วิชามาเลเซีย
ค.มาเลเซียนคดีศึกษา (สอนเป็นภาษาอังกฤษ)
4.2 กรณีจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
รูปที่ 4 แผนการเรียนหลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3
จากรูปที่ 4 นักเรียนที่ต้องการศึกษาในโปรแกรมนี้ จะต้องจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี (ม.3) และมีอายุประมาณ 15 ปี UTC จะมีสาระสำคัญที่เข้มข้น
(Intensive Program) ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เรียนมีความสามารถในการเตรียมตัวที่จะเรียนในระดับมัธยมปลายสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมดใช้ระยะเวลาเรียน 8 เดือน จากนั้นนักเรียนจะได้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และปีที่ 5 ต่อเนื่องไปสู่ IGCSE หรือ “O” Level โปรแกรม UTC จะเริ่มเรียนในช่วงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ของทุกปี วิชาที่ทำการสอนของโปรแกรมการเรียน UTC มีวิชาที่เปิดสอนคือ
ก.ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา
ข.ภาษาอังกฤษเพื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค.วรรณคดีอังกฤษ
ง.ภาษามาเลเซีย
จ.มาเลเซียนคดีศึกษา (สอนเป็นภาษาอังกฤษ)
( JTC และ UTC เป็นหลักสูตรที่สอนโดย Wadi Sofia Center of Languages :WaSCOL )
(5) สะดวกสบายและมีความยืดหยุ่น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมให้ความสนใจ เช่น
5.1 สามารถแบ่งจ่ายค่าเล่าเรียน เป็นรายเทอมได้ แทนที่จะจ่ายครั้งเดียวเป็นรายปีทำให้ไม่ เป็นภาระหนักสำหรับผู้ปกครองมากเกินไป อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่อปี ก็ไม่สูงเลยครับ รวมเบ็ดเสร็จ แล้วทั้งค่ามัดจำ ค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียมแรกเข้าต่างๆ ค่าเล่าเรียน และค่าที่พัก รวมอาหาร ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประมาณปีละ 230,000 บาทเศษ ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประมาณปีละ 240,000 บาทเศษ เป็นราคาปี 2016 คิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 RM : 8.50 บาท ค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นหากเทียบกับโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยบางโรง ยังไม่พอสำหรับ การจ่ายค่าจองสิทธิ์ (แปะเจี๊ย) เลยครับ
5.2 มีความชัดเจนในเรื่องชั้นเรียนพิเศษสำหรับนักเรียนที่ไม่ชำนาญด้านภาษาอังกฤษ หรือการเรียนปรับพื้นฐาน ตามโปรแกรมการเรียน JTC และ UTC ตามที่กล่าวข้างต้นนั่นเอง
5.3 หอพักจะแยกอาคาร ชาย – หญิง และ นักเรียนจะพักรวมกันห้องละ 2 คน เท่านั้นทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด และง่ายต่อการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน สะอาด สะดวก มี อาจารย์ควบคุมตลอด24 ชั่วโมง
รูปที่ 5 หอพัก (Hostel) ภายในโรงเรียน แยก ชาย–หญิง และพักห้องละ 2 คน
5.4 มีความอบอุ่น เนื่องจาก ครู และผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนทำให้มีความใกล้ชิด และดูแลนักเรียนเสมือนลูกหลานตนเอง
5.5 ขนาดของห้องเรียน มีนักเรียนไม่เกินห้องละ 20 คน ห้องเรียนมีระบบปรับอากาศ
รูปที่ 6 ห้องเรียน (Class Room)
5.6 มีห้องปฏิบัติการ ทดลองวิทยาศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องปฏิบัติการทางภาษา เป็นสัดส่วน
รูปที่ 7 ห้องปฏิบัติการทดลองวิทยาศาสตร์
5.7 มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพราะมีนักเรียนจากหลายประเทศ ทั้งจากยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง จีน และ เกาหลี
5.8 ส่งเสริมด้าน กีฬา หลากหลายชนิด อาทิ ฟุตบอล บาสเก็ตบอล เนตบอล วอลเล่ย์บอลแบดมินตัน ปิงปอง กรีฑา และ เทควันโด
รูปที่ 8 ส่งเสริมด้านการกีฬา
5.9 บริการอื่นๆ เช่นบริการซักรีด
รูปที่ 9 บริการซักรีด
5.9 ความมีชื่อเสียงและได้รับการยกย่อง กล่าวคือ โรงเรียนวาดิโซเฟียได้รับคัดเลือกจาก มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ลงบันทึกในหนังสือ “คู่มือสู่ความเป็นเลิศ” เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน
ฉบับปี 2556 : สวรรค์แห่งการเรียนรู้ ฉบับปี 2557 : หนังสือสำหรับเพิ่มเติมความรู้
ฉบับปี 2558 : หนังสือเกี่ยวกับความเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ และ นวัตกรรมการ เปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ
มาถึงตอนนี้ หลายท่านอาจมีความสนใจและต้องการทราบกำหนด เปิด–ปิดภาคเรียน และจำนวนภาคเรียนต่อปี ผมขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ ตามปฏิทินการศึกษาของโรงเรียน กำหนด 2 ภาคเรียนต่อปี ภาคเรียนที่ 1 และ 2 รายละเอียดตามตารางที่ 2 และ 3 ตามลำดับครับ อย่างไรก็ตามนักเรียนสามารถเข้าเรียนปรับพื้นตามโปรแกรม JTC สำหรับมัธยมศึกษาตอนต้น และ UTC สำหรับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ตั้งแต่ เดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ครับ
ตารางที่ 2 กำหนดเปิด–ปิด ภาคเรียนที่ 1
ตารางที่ 3 กำหนดเปิด–ปิด ภาคเรียนที่ 2
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน :
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วทม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
http://www.bankumka.com
http://www.pantip.com
http://www.wadisofia.edu.my
Photo albums of Wadi Sofia International School
Wadi Sofia International School Prospectus
Wadi Sofia College เป็นสถาบันให้การศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ชั้นประถมศึกษา ชั้นเตรียมอุดมศึกษา และเชี่ยวชาญทางด้านการศึกษาและอบรมระยะสั้น โดยกระจายออกไปตามกลุ่มโรงเรียนต่าง ๆ ดังนี้
วิทยาลัยได้จัดตั้งเป็นรูปบริษัทเอกชนจำกัดภายใต้กฎหมายการจัดตั้งบริษัทของประเทศมาเลเซียทางโรงเรียนได้ขึ้นทะเบียนทั้งกับกระทรวงศึกษาธิการหรือกับกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของประเทศมาเลเซีย โรงเรียนของเราเป็นแบบสหศึกษาทั้งหมด
รูปที่ 1 Wadi Sofia College and Resource Centre
ประวัติ
วิทยาลัยเริ่มก่อตั้งเมือปี ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) โดย Datuk Hassan bin Harun ผู้มีชื่อเสียงด้านการศึกษาภาคเอกชนของมาเลเซียเป็นผู้ให้การสนับสนุนการศึกษาตลอดชีวิต ปัจจุบันท่านเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาการศึกษาแห่งชาติของมาเลเซียนับแต่ท่านได้เริ่มอาชีพนี้ในช่วงปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) ท่านได้เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งและบริหารสถาบันเอกชนต่าง ๆ หลายระดับในมาเลเซียและท่านได้ก่อตั้งสถาบันเทคโนโลยี ตน อับดุล ราซัค Institut Teknologi Tun Abdul Rezak (ITTAR) วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ตนอับดุล ราซัค University Tun Abdul Rezak (UNITAR) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางแห่งแรกในภูมิภาคนี้ โดยทั้งสองสถาบันนี้ได้รับการรับรองการกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย ปัจจุบันท่านเป็นทั้งผู้ก่อตั้งและอาจารย์ใหญ่ของวิทยาลัย Wadi Sofia College
รูปที่ 2 Administration block
สถานที่ตั้ง
วิทยาลัยตั้งอยู่ท่ามกลางสวนพฤกษาชาติในเนื้อที่ 18 เอเคอร์ ในหมู่บ้านห่างจากเมืองโกตาบารู 15 กิโลเมตร (ประชากร 450,000 คน) เป็นเมืองหลวงที่สงบและสวยงามของรัฐกลันตัน ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนืออันเก่าแก่และสวยงามของแหลมมาลายู บริเวณของวิทยาลัยทั้งสะอาดและปลอดภัย โดยมีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง การเดินทางสะดวกทั้งทางบกได้แก่ ทางหลวงและทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังเมืองต่าง ๆ และทางอากาศ มีด้วยกัน 4 สายการบินแห่งชาติที่มีเที่ยวบินมากกว่า 42 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งนักเรียนสามารถบินตรงไปสู่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ใช้เวลาเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์บินสู่โคตาบาฮ์รูเพียง 50 นาที และเดินทางไปยังโรงเรียนอีกประมาณ 30 นาที จากสนามบิน
รูปที่ 3 Landscape and A view from the campus
Wadi Sofia International School (WaSIS)
เป็นโรงเรียนที่ได้รับการอนุมัติและรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการของมาเลเซีย ให้นำเสนอหลักสูตรแบบอังกฤษที่เรียกว่า IGCSE หรือ ‘O’ Level และ ‘A’ Level (Cambridge International Examinations) ใช้ในการเรียนการสอน ระหว่างก่อนการเข้าเรียนหลักสูตร IGCESE หรือ ‘O’ Level นั้น นักเรียนจะต้องผ่านการประเมินพื้นฐานเพื่อสอดคล้องกับหลักสูตรอังกฤษ โรงเรียน WaSIS ได้รับการยอมรับและได้ลงทะเบียนกับ Cambridge International Centre ด้วยคุณสมบัติของหลักสูตร IGCSE นักเรียนอาจจะยังคงศึกษาที่ ‘A’ Level ซึ่งเป็นวุฒิการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติเพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
ศูนย์ภาษาเวอดี โซเฟีย (Wadi Sofia Centre of Language:WaSCOL) เสนอหลักสูตรภาษาสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ไม่มีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษและต้องการจะเข้าเรียนต่อที่มาเลเซีย จึงต้องเรียนหลักสูตรการสนทนาภาษาอังกฤษ ที่นี่รับนักเรียนต่างชาติ 2 ระดับได้แก่ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 (อายุ 12 ปี) และ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 (อายุ 15 ปี) หลักสูตร Transition Program เรียกว่า Junior Transition Class (JTC) และ Upper Transition Class (UTC) วัตถุประสงค์ของหลักสูตรเพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับเริ่มเรียนในระดับมัธยมศึกษา เป็นภาษาอังกฤษ และ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมมาเลเซียได้ เพื่อให้ได้ภาษาอังกฤษที่แข็งแรง WaSIS เสนอหลักสูตรภาษาอังกฤษของ Cambridge ที่เรียกว่า ESOL (English for Speakers of Other Languages) เพื่อนักเรียนทุกคนทุกชาติทั้งนักเรียนในประเทศมาเลเซียและ นักเรียนนานาชาติ
นักเรียนที่จะสมัครเรียนในโปรแกรมนี้จะต้องจบการศึกษาขึ้นพื้นฐาน 6 ปี (ระดับประถมศึกษา) ในประเทศตนเองและจะต้องมีอายุประมาณ 11 ปี หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเข้มข้นที่จะเตรียมภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนสำหรับเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 8 เดือนหลังจากจบหลักสูตรนี้นักเรียนจะได้เข้าเรียนในระดับ Secondary 1 (ม.1) และ เรียนจนจบ ‘O’ Level รวมทั้งสิ้น 5 ปี 8 เดือน คือ JTC เรียน 8 เดือน มัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี และ มัธยมศึกษาตอนปลาย 2 ปี (IGCSE or ‘O’ Level) หลักสูตรนี้เริ่มเรียนในเดือนเมษายน หรือพฤษภาคมของทุกปี สำหรับนักเรียนที่ต้องการจะสมัครเข้าเรียน Secondary 1 โดยตรงจะต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ
วิชาที่นักเรียนจะได้เรียน JTC
นักเรียนที่ต้องการสมัครเรียนในหลักสูตรนี้จะต้องสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี และอยู่ในกลุ่มอายุ 15 ปี หลักสูตร UTC เป็นหลักสูตรเข้มข้นมากเพื่อให้มั่นใจได้ว่านักเรียนมีการเตรียมความพร้อมเพียงพอต่อการเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาอังกฤษ หลักสูตรนี้เสนอให้เรียน 8 เดือน เมื่อจบหลักสูตรนักเรียนจะได้เข้าเรียนในระดับชั้น Secondary 4 และต่อด้วย Secondary 5 นำไปสู่ IGCSE หรือ ‘O’ Level นักเรียนที่เลือกเรียนสายนี้จะใช้เวลาทั้งหมด 3 ปี โดยสายนี้ การเรียนรู้ของนักเรียนด้านภาษาอังกฤษจะเหมาะแก่การเข้าเรียนในหลักสูตร Pre –University และภาษาในระดับอุดมศึกษา นักเรียนสามารถเข้าร่วมโปรแกรมนี้ได้ในเดือนเมษายนหรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี
รายวิชาที่เรียนในโปรแกรมนี้
กิจกรรมพิเศษ
โรงเรียน Wadi Sofia International School ประสงค์จะให้การศึกษาที่ดีแก่นักเรียน กิจกรรมพิเศษนี้มีการจัดระบบให้เลือกหลายแบบ เช่น ชมรมต่าง ๆ การเข้าสังคม ฯลฯ ทางโรงเรียนมีพื้นที่กิจกรรมให้นักเรียนมากมาย
รูปที่ 4 กิจกรรมนักเรียนเกาหลี
รูปที่ 5 กิจกรรม Cultural Performance
รูปที่ 6 กิจกรรม International day
รูปที่ 7 กิจกรรม Fruit season on campus
รูปที่ 8 กิจกรรมนอกสถานที่
สิ่งอำนวยความสะดวก
รูปที่ 9 หอพักชาย (Boy’s Hostel)
รูปที่ 10 หอพักหญิง (Girls’s Hostel)
รูปที่ 11 ลักษณะห้องพักสำหรับ 2 คน
รูปที่ 12 ห้องเรียน (Class room)
รูปที่ 13 ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ (Science Lab)
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email :[email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com
เมื่อวันที่ 3-4 มกราคม 2560 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด นำทีมบริหารเพื่อให้บริการเยี่ยมชม สมัครเรียนและติดตามประสานงานนอกสถานที่
ณ โรงเรียน Poi Lam High School เมืองอิโปห์ (IPOH) รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย โดยมี นักเรียนผู้ปกครองที่เข้าร่วมโครงการ ได้สัมผัสบรรยากาศของโรงเรียนจากสถานที่จริง รับข้อมูลข่าวสารโดยตรง จากผู้บริหารของโรงเรียน และจากประสบการณ์ของนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาที่ POI LAM HIGH SCHOOL โดยได้รับการต้อนรับจาก คุณ GHO LIE LUAN Head of International Department เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังได้เดินทางเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตในเมืองอิโปห์ และ Cameron Highlands รัฐปาหัง ตลอดจนรับฟังการแนะแนวระบบการศึกษาของประเทศ มาเลเซียอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
โรงเรียน POI LAM HIGH SCHOOLเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา (High School) แบบอยู่ประจำ มีหอพัก (Hostel) ภายในโรงเรียน รับนักเรียนทั้งนักเรียนต่างชาติและนักเรียนมาเลเซีย เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา หรือ High School ระดับชั้น Junior 1 – Junior 3 และ Senior 1- Senior 2 ใช้หนังสือประกอบการสอน และสอน ด้วยภาษาอังกฤษ และนักเรียนจะได้เรียนเสริมวิชาภาษาจีนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย นักเรียนไทยสามารถสมัครเข้าเรียนได้ตั้งแต่ จบการศึกษาชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นต้นไป
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
สถาบัน RGIT หนึ่งในผู้นำการศึกษา ด้านอาชีวศึกษาและ วิทยาลัยการฝึกอบรม ประเทศออสเตรเลีย มีหลักสูตรการศึกษามากมายให้กับนักเรียนทั้งในท้องถิ่นและต่างประเทศ จากการฝึกงาน และหลักสูตรระยะสั้นเพื่อให้ได้ใบรับรองอนุปริญญาและประกาศนียบัตรขั้นสูง
วิทยาเขต
RGIT มีด้วยกัน 3 วิทยาเขตตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองเมลเบิร์นและโฮบาร์ต เพื่อให้ความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับนักเรียน RGIT
ปี 2014 เรา ได้เปิดวิทยาเขตใหม่ในโฮบาร์ต รัฐทัสมาเนีย (Tasmania)
ปี 2015 เราเปิดวิทยาเขตที่ 2 ในเมลเบิร์น เพื่อรองรับนักเรียนที่เพิ่มขึ้น
ในฐานะที่เป็นนักเรียนของ RGIT คุณจะได้รับการฝึกอบรมที่มีคุณภาพและความรู้หรือประสบการณ์ในอุตสาหกรรม สถาบันจะจัดให้คุณมีทักษะที่จำเป็นในการเริ่มดำเนินการในสายอาชีพที่คุณต้องการ เมื่อจบการศึกษาจาก RGIT ประเทศออสเตรเลีย แล้ว คุณอาจจะมีโอกาสได้ลงพื้นที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายที่เรียนมาหรือเข้ารับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษากับสถาบันที่เป็นพันธมิตรกับสถาบัน
หลักสูตรที่เปิดสอน
1. General English Course
2. VET Courses
3. Short Course
เหตุผลในการเลือก RGIT
การให้บริการนักเรียนระหว่างเรียน
สิ่งอำนวยความสะดวกใน College
บรรยากาศในห้องเรียน และ การเรียนนอกสถานที่
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 อ.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย คุณขจรศักดิ์ ชุมนาค กรรมการบริหาร บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เดินทางไปเยี่ยมชม สถาบันสอนภาษา English Language Company (ELC) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อประสานความร่วมมือในการส่งนักเรียนไทย ไปเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งทางสถาบันฯ มีหลักสูตรภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ อาทิ หลักสูตร General English , Academic English with IELTS และ General Business English ซึ่งสถาบันแห่งนี้ได้ใช้หลักสูตร การบริหารจัดการ และบุคลากร ตามมาตรฐานของสถาบันสอนภาษาในประเทศออสเตรเลีย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจารย์ผู้สอนทุกคนมีคุณวุฒิทางเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ และมาจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ( Native English ) จึงมั่นใจในเรื่องคุณภาพ การเรียนการสอน และสำเนียงการออกเสียงทางภาษาอังกฤษ ได้อย่างถูกต้อง ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคุณ Lau Wai Cheng , Managing Director และ คุณ Janice Lau, General Manager เป็นอย่างดี
สนใจรับการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 อ.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย คุณขจรศักดิ์ ชุมนาค กรรมการบริหาร บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติ Wadi Sofia International School ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อประสานความร่วมมือในการส่งนักเรียนไทย เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนานาชาติ ที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพทางการศึกษา ในประเทศมาเลเซีย และระดับสากล เนื่องจากโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรของอังกฤษ โดยใช้การสอบแบบ IGCSE หรือ O-Level และ A-Level (Cambridge International Examination) นักเรียนจากหลากหลายประเทศรวมถึงนักเรียนไทยมาศึกษา ณ สถาบันแห่งนี้ ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับจากท่าน Datuk Hassan Harun Principal of Wadi Sofia College และMrs.Liyana Leng Abdullah บรรยากาศการต้อนรับที่เป็นกันเอง ด้วยความอบอุ่น เป็นอย่างดียิ่ง
สนใจรับการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 อ.สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย คุณขจรศักดิ์ ชุมนาค กรรมการบริหาร บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เดินทางไปเยี่ยมพบปะ นักศึกษา ณ มหาวิทยาลัย Berjaya University กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อรับทราบ ติดตามผลการศึกษา ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย อย่างใกล้ชิด ตลอดจนแนะนำ วางแผนการศึกษา เป็นกำลังใจในการศึกษาของนักศึกษา ทางบริษัทฯได้ให้ความสำคัญในการติดตามประสานงานตลอดหลักสูตร การดำเนินการดังกล่าว นักศึกษา และ ผู้ปกครอง มีความมั่นใจ และมอบความไว้วางใจ บริษัทฯด้วยดีเสมอมา ในการเยี่ยม พบปะ นักศึกษาครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ และให้การต้อนรับ จาก MR.Jerry Lee Chee Hooi Director Sales & Marketing Berjaya University College of Hospitality เป็นอย่างดี
สนใจรับการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
นักเรียนไทยที่กำลังจะไปศึกษาต่อ ประเทศสิงคโปร์ และ กำลังมองหาที่พัก แบบโฮมสเตย์ ขอแนะนำครอบครัวที่ให้บริการ โฮมสเตย์ ดังนี้
1. Host Family Homestay
เป็นเจ้าของบริการที่พักแก่นักเรียนต่างชาติ โดยเธอจะเป็นผู้ดูแลนักเรียนทั้งเรื่องของที่พัก อาหาร และความเป็นอยู่ของนักเรียนที่เข้าพักในโฮมสเตย์ของเธอ
2. การให้บริการ
ให้บริการที่พัก รับเป็นผู้ปกครองให้นักเรียน และดูแลให้คำแนะนำกับนักเรียนเกี่ยวกับการเดินทาง การใช้ชีวิตในสิงคโปร์
3. สถานที่ตั้ง Homestay
ตั้งอยู่บนถนน Changi ที่พักเป็นแบบบ้าน 4 ชั้นครึ่ง ขนาด 8 ห้องนอน มีที่พักสำหรับนักเรียนหญิง 2 ห้องนอน และนักเรียนชาย 2 ห้องนอน อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า Kembangan โดยเดินทางเท้าจากบ้านแค่ 5 นาที เดินทางโดยรถบัส 10 นาที สำหรับไปสระว่ายน้ำ หรือ ไปที่ Bedok Town Centre ศูนย์การค้าสำหรับใช้จ่ายสิ่งของต่าง ๆ และ ห่างจากตัวเมืองสิงคโปร์เพียง 20 นาที เดินทางโดยรถบัสเช่นกัน
โรงเรียนที่ใกล้กับที่พักมีด้วยกันหลายโรงเรียนทั้งระดับวิทยาลัย ระดับประถม และ ระดับมัธยม เช่น Academies Australasia College, SSTC Institute และ DIMENSIONS International College เป็นต้น
4. สิ่งอำนวยความสะดวก
ที่พักสำหรับนักเรียนหญิง มี 2 ห้องนอน พักห้องละ 2 – 3 คน ห้องน้ำในตัว ภายในห้องมีเตียงพร้อมที่นอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเก้าอี้ส่วนตัว ชั้นวางหนังสือ เครื่องปรับอากาศ และโต๊ะเครื่องแป้งให้
ส่วนที่พักสำหรับนักเรียนชายมี 2 ห้องนอน พักห้องละ 3 คน มีห้องน้ำรวม ภายในห้องมีเตียงพร้อมที่นอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเก้าอี้ส่วนตัว ชั้นวางหนังสือ เครื่องปรับอากาศ และโต๊ะเครื่องแป้ง เช่นกัน
บริการอื่น ๆ มีบริการอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง บริการอาหาร 2 มื้อวันธรรมดาที่มีเรียน และ วันหยุด 3 มื้อ บริการซักรีด และ บริการทำความสะอาดห้องพัก
รูปที่ 1 ห้องรับแขก
รูปที่ 2 ห้องครัว
รูปที่ 3 ห้องรับประทานอาหาร
รูปที่ 4 ห้องนอน และอ่านหนังสือ
รูปที่ 5 มุมพักผ่อน
สนใจติดต่อ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โทร.0 7728 7111 , 08 5791 9111
E-mail : [email protected]
ปัจจุบันเป็นที่น่ายินดีที่โรงเรียนมัธยมศึกษาในประเทศไทยได้เปิดสอนหลักสูตร MLP กันอย่างแพร่หลาย สืบเนื่องจาก พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2551 ระบุให้สถานศึกษาจัดทำหลักสูตรที่สนองตอบต่อความต้องการของชุมชน สังคม และผู้เรียน นอกจากนั้นเมื่อได้เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว ยิ่งเพิ่มความจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และ การทำงานมากขึ้น เพราะกฎบัตรอาเซียนกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทำงาน (Working Language) และยังมีภาษาต่าง ๆ ที่ใช้ในกลุ่มประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และนอกอาเซียนอีกหลายภาษาที่น่าสนใจ
ระบบการศึกษาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาที่มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีหลักสูตร EP ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนทั้งของรัฐบาลและเอกชนได้เห็นความสำคัญด้านภาษาจึงมีการจัดโปรแกรมการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับหลักสูตร MLP และ EP กันก่อนครับ
MLP. ย่อมาจาก Multi Language Program หรืออาจจะเรียกชื่อเป็น ภาษาไทยว่า หลักสูตรพหุภาษา โดยทั่วไปหลักสูตร MLP จะมีการสอนภาษา 3-4 ภาษา เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน หรือ ภาษากัมพูชา เป็นต้น มีหลายสถานศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรในรูปแบบหลักสูตรห้องเรียนพิเศษสามภาษา Multi Language Program : MLP การศึกษาตามหลักสูตร MLP จึงเหมาะที่จะรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการค้าใน ASEAN และเป็นทางเลือกสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถ ความถนัดทางด้านภาษา จะทำให้นักเรียนที่เรียนจบตามหลักสูตร MLP ได้นำทักษะความรู้ ประสบการณ์เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน การทำงาน รวมทั้งการเรียนในระดับที่สูงขึ้น สร้างโอกาสในการแข่งขันในระดับนานาชาติต่อไปด้วย
EP ย่อมาจาก English Program เป็นการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ โดยกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้กำหนดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านความรู้ ความสามารถและทักษะทางด้านภาษาของผู้เรียน หลักสูตร EP อาจเรียกได้ว่าโรงเรียนสองภาษา ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบที่มีความแตกต่างกัน ดังนี้
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ในต่างประเทศ การเรียนภาษา และเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย หากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน อาจมีขีดจำกัดในการจำลอง สถานการณ์ให้เสมือนจริง ดังนั้นการแก้ไขขีดจำกัดดังกล่าว ทางโรงเรียนจึงควรจัดโครงการค่าย (Camp) ต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งเป็นการเติมเต็มประสบการณ์ในต่างประเทศ สร้างโอกาสให้นักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการใช้ภาษา เรียนรู้วัฒนธรรมจากกิจกรรมในห้องเรียนต่างประเทศ และการเดินทางในโครงการอีกทั้งการฝึกการมีระเบียบวินัยต่อตนเอง และผู้อื่น รวมทั้งการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกส่วนหนึ่งด้วย โครงการค่ายภาษาต่างประทศเป็นโครงการที่ได้รับความนิยมในการใช้เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในต่างประเทศของผู้เรียนหลักสูตร MLP และ EP แต่น่าเสียดายที่สถานศึกษาจำนวนไม่น้อยยังขาดประสบการณ์ในการจัดกิจกรรม Camp ต่างประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียน เช่นขาดกิจกรรมในห้องเรียนต่างประเทศ สถานที่เยี่ยมชมที่ไม่สอดคล้องกับการเสริมสร้างประสบการณ์เชิงวิชาการ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ประวัติศาสตร์ มากพอ ในที่สุดก็เพียงแต่เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทั่วๆไปตามการเสนอของธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อให้ได้พักโรงแรมหรู กินอาหารแพงๆ เดิน Shopping สินค้า Brand name ย่านธุรกิจ แวะไปเยี่ยมโรงเรียนช่วงสั้นๆถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แล้วก็เดินทางกลับ
ตลอดระยะเวลาที่ผมได้แนะแนวการศึกษาต่างประเทศต่อเนื่องหลายปี มักจะได้รับการสอบถามข้อมูลจาก ครู – อาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษารวมไปถึงกลุ่มผู้ปกครอง ผู้ปกครองเครือข่ายอยู่เสมอ เกี่ยวกับการจัดโครงการเพื่อเสริมกิจกรรมในหลักสูตรหรือเติมเต็มประสบการณ์ในต่างประเทศให้กับนักเรียน ผมได้มีโอกาสเป็นผู้ดำเนินการโครงการค่ายภาษาต่างประเทศมาหลายครั้งโดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาจึงขอแบ่งปันประสบการณ์ไว้เป็นกรณีศึกษาอาจจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับ ครู–อาจารย์ ผู้เกี่ยวข้องที่มีความสนใจในการจัดโครงการดังกล่าว รายละเอียดดังนี้
1. การจัดทำและนำเสนอโครงการ
ด้วยภาระงานในหน้าที่ความรับผิดชอบของครู – อาจารย์ ในยุคนี้มีมากมายในฐานะที่ผมเคยผ่านประสบการณ์มาก่อนย่อมทราบดี ดังนั้นการวางแผนจัดทำและนำเสนอโครงการให้สอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตรและนโยบายของโรงเรียน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาจึงเป็นสิ่งแรกที่ผมได้ดำเนินการ ทั้งนี้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครู–อาจารย์ ให้มีเวลามากพอที่จะได้ทุ่มเทให้กับการสอน การอบรมดูแลนักเรียน อีกทั้งสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบพิจารณาที่สมบูรณ์มากขึ้น
รูปที่ 1 ตัวอย่างการนำเสนอโครงการ
2. การชี้แจงทำความเข้าใจแก่ผู้ปกครองนักเรียน
เมื่อได้นำเสนอโครงการและปรับปรุงโดยการให้เหมาะสมและได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากทางโรงเรียนแล้ว มาถึงขั้นตอนที่ต้องชี้แจงและทำความเข้าใจแก่นักเรียน ผู้ปกครองเกี่ยวกับรายละเอียด และ กิจกรรมทางโครงการ
รูปที่ 2 ตัวอย่างประชุมชี้แจง
3. การปฐมนิเทศแก่นักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ
เมื่อการเตรียมการด้านต่าง ๆ รวมทั้งร่วมประชุมกับทางโรงเรียนมาตามลำดับแล้ว เมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลาในการเดินทาง จึงมีการปฐมนิเทศแก่นักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการเป็นการซักซ้อมความเข้าใจ การเตรียมตัวและการปฏิบัติตัวของนักเรียนตลอดระยะเวลาของโครงการ
รูปที่ 3 การปฐมนิเทศ
4. กิจกรรมและประมวลภาพกิจกรรมของโครงการ
หลังจากมีการปฐมนิเทศก่อนการเดินทางเป็นที่เข้าใจร่วมกันตามที่กล่าวข้างต้นผู้เข้าร่วมโครงการเจอกัน ณ จุดนัดหมาย เพื่อเดินทางโดยพร้อมเพรียงกัน โดยมี ครู–อาจารย์ เจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย กิจกรรมของโครงการก็จะประกอบไปด้วยการเรียนในชั้นเรียน กิจกรรมกลุ่ม และศึกษาดูงานนอกสถานที่ เยี่ยมชมสถานที่ที่สำคัญ เรียนรู้วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่หลากหลาย การกล่าวความรู้สึก ความประทับใจ กล่าวขอบคุณ หรือกล่าวถึงสิ่งที่ได้รับในการเข้าร่วมโครงการซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความกระตือรือร้นในการใช้ภาษาอังกฤษ และมีประสบการณ์ในการพูดภาษาอังกฤษในที่ชุมชน กิจกรรมการรับประกาศนียบัตร และ เดินทางกลับโดยสวัสดิ์ภาพ และมีความประทับใจ
รูปที่ 4 ผู้เข้าร่วมโครงการพร้อมกันที่จุดนัดหมาย
รูปที่ 5 กิจกรรมห้องเรียน
รูปที่ 6 กิจกรรมฟังบรรยายสรุปจากสถานที่เยี่ยมชม
รูปที่ 7 กิจกรรมเยี่ยมชม สถานที่ต่างๆในโครงการ
รูปที่ 8 กิจกรรมกลุ่ม มิตรภาพต่างแดน
กิจกรรมการเยี่ยมชมเป็นการยกมาเป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้นครับ ยังมีอีกหลายสถานที่ ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงในโอกาสนี้
5. รับประกาศนียบัตร
เพื่อให้นักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการมีความภาคภูมิใจและมีประกาศนียบัตร เพื่อใช้ประกอบการทำแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) เมื่อจบโครงการแล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับประกาศนียบัตรทุกคน
รูปที่ 9 การมอบประกาศนียบัตร
6. การประเมินผลการจัดโครงการ
เมื่อดำเนินการโครงการลุล่วงสำเร็จแล้ว ก็มีการประเมินผลเพื่อจะได้ทราบถึงผลการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป
รูปที่ 10 ผลการประเมินโครงการ
กิจกรรม Camp ต่างประเทศ จะมีประโยชน์ ในการให้ความรู้ทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์จริง เข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลาย สร้างความประทับใจและทัศนคติที่ดีต่อผู้เข้าร่วมโครงการ ผ่านทางกิจกรรมของโครงการ หากสามารถบริหารจัดการให้มีกิจกรรมที่ครบถ้วน ทั้งกิจกรรมการเดินทาง การเยี่ยมชมสถานที่ที่เหมาะสม การได้เข้าห้องเรียน หรือร่วมชั้นเรียนกับนักเรียนต่างชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้รับผิดชอบโครงการ ต้องให้ความสำคัญ ตั้งใจจริงในการจัดทำโครงการ การตั้งงบประมาณที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง สอดคล้องกับคุณภาพ และ เป้าหมายของโครงการ จากประสบการณ์ในการจัดโครงการ Camp ต่างประเทศทุกครั้งที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณ ผู้บริหาร ครู–อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ที่มีความตั้งใจจริง ยึดถือประโยชน์ของนักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการเป็นสำคัญ ทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี
ผู้เขียน
นายสมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
แหล่งข้อมูล :
http://salubsri.blogspot.com : การพัฒนาหลักสูตรห้องเรียนพิเศษสามภาษา (Multi Language Program-MLP)
http://www.manager.co.th : เลือกโรงเรียนมัธยมสองภาษาที่ไหนดี
http://www.poungkrams.ac.th :หลักสูตรพหุภาษา (MLP)
ข้อมูลจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน :
ขอขอบคุณ
เมื่อวันที่ 2-3 กันยายน 2559 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย นักเรียน ผู้ปกครอง จาก กรุงเทพฯ ได้เข้าเยี่ยมชม โรงเรียน POI LAM HIGH SCHOOLณ เมืองอิโป (IPOH) ประเทศมาเลเซีย ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ทำให้นักเรียน ผู้ปกครองได้สัมผัสบรรยากาศของโรงเรียนจากสถานที่จริง รับข้อมูลข่าวสารโดยตรง จากผู้บริหารของโรงเรียน และจากประสบการณ์ของนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาที่ POI LAM HIGH SCHOOL โดยได้รับการต้อนรับจาก คุณ GHO LIE LUAN Head of International Department เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังได้เดินทางเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตในเมืองอิโป และCameron Highlands ตลอดจนรับฟังการบรรยายแนะแนวระบบการศึกษาของประเทศ มาเลเซียอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
โรงเรียน POI LAM HIGH SCHOOLเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา (High School) แบบอยู่ประจำ มีหอพักภายในโรงเรียน รับนักเรียนทั้งนักเรียนต่างชาติและนักเรียนมาเลเซีย เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา หรือ High School ระดับชั้น Junior 1 – Junior 3 และ Senior 1- Senior 2 ใช้หนังสือประกอบการสอน และสอน ด้วยภาษาอังกฤษ และนักเรียนจะได้เรียนเสริมวิชาภาษาจีนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย นักเรียนไทยสามารถสมัครเข้าเรียนได้ตั้งแต่ จบการศึกษาชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นต้นไป
สนใจเยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
นักเรียนไทยที่กำลังจะไปศึกษาต่อ ประเทศสิงคโปร์ และ กำลังมองหาที่พัก แบบโฮมสเตย์
ขอแนะนำครอบครัวที่ให้บริการ โฮมสเตย์ ดังนี้
1. Host Family Homestay
ประกอบอาชีพ ครูสอนภาษาอังกฤษ ในโรงเรียนมัธยมศึกษาทั้งโรงเรียนภาครัฐ และเอกชนระยะเวลา 15 ปี
2. การให้บริการ
ให้บริการที่พัก รับเป็นผู้ปกครองให้นักเรียน และการอบรมสำหรับนักเรียนที่มาจากประเทศไทย พร้อมวางแผนการศึกษาต่อในโรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ ของสิงคโปร์ หรือ ผู้ที่มีความประสงค์ เตรียมความพร้อมสำหรับการสอบ AEIS. เพื่อเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลของสิงคโปร์
3. สถานที่ตั้ง Homestay
3.1 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสิงคโปร์ ที่พักเป็นแบบคอนโดมิเนียม มีห้องสำหรับนักเรียนหญิง 2 ห้องนอน รองรับนักเรียนได้ไม่เกิน 4 คน อยู่ใกล้โรงเรียน AEIS 3 แห่ง และ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ 4 แห่ง เดินทางโดยรถบัส 5-8 นาที อีกทั้งยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สาย East west Line และ Circle Line
3.2 สำหรับนักเรียนชายจะมีที่พักแยกต่างหากอีกแห่งหนึ่งใกล้กัน (ห่างกัน 3 ป้ายรถเมล์) โดยมีคุณพ่อ คุณแม่ของ Host Family เป็นผู้ปกครองดูแลเรื่องอาหาร และ บริการซักรีด Host Family ทั้งสองสามีภรรยา เป็นครูทั้งคู่ จึงสามารถให้การอบรม แนะนำ และ ให้คำปรึกษาได้ทั้งนักเรียนชาย และ นักเรียนหญิง
4. สิ่งอำนวยความสะดวก
ที่พักสำหรับนักเรียนหญิง มีห้องนอนจำนวน 2 ห้องนอน เป็นห้องส่วนตัวมีห้องน้ำในตัว ดังนั้นจึงต้องจองล่วงหน้า มีพื้นที่ใช้งานส่วนรวม (Commence Area) เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น สระว่ายน้ำ ยิมสำหรับออกกำลังกาย และ พื้นที่จัดบาร์บีคิว มีบริการอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักสำหรับนักเรียนชายมีห้องพักให้เลือก 2 แบบ คือห้องนอนและห้องน้ำรวม กับ ห้องเดี่ยว ห้องน้ำในตัว สามารถพักได้ 2 -4 คน ที่พักทั้งชาย และ หญิง มีบริการอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง เครื่องซักผ้าและไม้แขวนเสื้อ ภายในห้องมีโต๊ะเขียนหนังสือ ที่นอนผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม (ใหม่) ปลอกหมอน และ หมอนข้างให้ มีเครื่องปรับอากาศ พร้อมรีโมต และในทุกเช้าจะมีอาหารเช้า คอยให้บริการนักเรียนอีกด้วย
สนใจติดต่อ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โทร.0 7728 7111 , 08 5791 9111
E-mail : [email protected]
น้องหยก นายสุวิชา สิทธิเชนทร์ ได้เข้าร่วมโครงการ Holiday English Course in Melbourne Australia ในปี 2015 หลังจากจบโครงการแล้ว ได้เขียนคำนิยมในการเข้าร่วมโครงการ ตอนหนึ่งว่า “ประสบการณ์ไปเรียนซัมเมอร์ที่ออสเตรเลียที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต เพราะนอกจากจะได้เรียนภาษาอังกฤษแล้ว ยังได้พบเจอผู้คนจากหลากหลายประเทศ หลากหลายวัฒนธรรม ได้ท่องเที่ยวทั้งที่แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และทั้งได้ไปยังแหล่งธรรมชาติที่งดงามซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย”
จากประสบการณ์ตรงของน้องหยกตามที่กล่าวแล้ว ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องประกอบกับการได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ปกครองทำให้น้องหยกได้รับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O-Net) ชั้นม.6 ปีการศึกษา 2558 ได้ลำดับที่ 1 วิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียนสุราษฎร์ธานี และ ทางโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสุราษฎร์ธานีได้มอบเกียรติบัตรแก่น้องหยกแล้วเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2559
และน้องหยก ได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะศิลปะศาสตร์ สาขาอังกฤษและอเมริกันศึกษา หลักสูตรนานาชาติ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ขอแสดงความยินดีกับน้องหยกและผู้ปกครองมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
น้องๆนักเรียนหลายคนอาจจะมีความตั้งใจที่จะเรียนทางด้านธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างมาเลเซีย แต่ยังไม่มั่นใจ หรือไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ผู้เขียนในฐานะที่มีประสบการณ์ตรงในการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ จึงได้เขียนเป็นบทความ “น้องเมย การเข้าเรียน Berjaya University” เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
น้องเมยพร้อมด้วย คุณพ่อ คุณแม่ ได้เข้ามาพูดคุยวางแผนการเรียนต่อต่างประเทศ ที่ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ความตั้งใจตอนแรก ครอบครัวประสงค์ที่จะให้น้องเมยไปศึกษาที่ประเทศจีนโดยได้ศึกษาหาข้อมูลมาแล้วในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองในการที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซียไว้ประกอบการตัดสินใจเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งด้วย
รูปที่ 1 แนะแนว วางแผน การศึกษาต่างประเทศ
หลังจากน้องเมย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา (High School) จากประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ก็ได้เดินทางกลับยังประเทศไทยเพื่อเตรียมตัวศึกษาต่อยังประเทศที่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก เพื่อสะดวกในการเดินทาง ประหยัดค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และบรรยากาศการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อีกด้วย น้องเมยจึงตัดสินใจเลือกเรียนที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ณ มหาวิทยาลัยเบอร์จายา (BERJAYA University College of Hospitality :BERJAYA UCH ) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของมาเลเซีย ทางด้านการโรงแรม , การท่องเที่ยวและบริการ โดยน้องเมยได้เลือกเรียนในระดับและสาขา Diploma in Hospitality Management ซึ่งเป็นสาขาที่ได้รับความนิยมสูงและที่สำคัญคือสอดคล้องกับธุรกิจของครอบครัว เนื่องจากมีกิจการบริการด้านหอพัก อยู่แล้วด้วย การเรียนระดับ Diploma หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วหากประสงค์จะศึกษาต่อในระดับ Bachelor Degree ก็มีโอกาสได้เลือกสถาบัน หรือประเทศที่สนใจเพื่อแสวงหาโอกาส ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อีกด้วย
รูปที่ 2 น้องเมย หลังจบการศึกษาระดับ High School
โดยปกติแล้วเงื่อนไขการรับเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาต่างประเทศจะกำหนดเรื่องทักษะด้านภาษาอังกฤษ (English Requirement ) เช่น ผลการสอบ IELTS ,TOEFL เป็นต้น กรณีน้องเมย จบการศึกษา High School จากต่างประเทศจึงสามารถเข้าศึกษาต่อได้โดยไม่ต้องผ่านการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ
ขั้นตอนต่อไป หลังจากสมัครเรียน ชำระค่าเล่าเรียน จองที่พัก และส่งเอกสารเรื่องการจัดทำวีซ่านักเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอการอนุมัติวีซ่าจากสถานทูตมาเลเซีย เพื่อเดินทางไปศึกษาตามกำหนดเวลาของมหาวิทยาลัย
รูปที่ 3 จุดนัดหมาย และเยี่ยมชม
ก่อนเดินทาง โดยสายการบิน Air Asia บินตรงจาก สุราษฎร์ธานี–กรุงกัวลาลัมเปอร์ น้องเมย พร้อมด้วย ผู้ปกครอง ได้มาเยี่ยมชม และใช้เป็นจุดนัดหมายในการเดินทางที่บ้าน อ.สมนึก ซึ่งร่วมเดินทางไปส่งน้องเมยในครั้งนี้ด้วย เมื่อเดินทางไปถึง สนามบินกัวลาลัมเปอร์ จะมีเจ้าหน้าที่ตัวแทนของมหาวิทยาลัยรอให้การต้อนรับและเดินทางอย่างสะดวกสบาย ระเบียบการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศมาเลเซีย กรณีถือวีซ่านักเรียนเข้าประเทศเพื่อศึกษาต่อ จะต้องมี เจ้าหน้าที่ ตัวแทน ของสถาบัน มารับนักศึกษาและดำเนินการเรื่องเอกสารการตรวจคนเข้าเมืองให้เท่านั้น
รูปที่ 4 เจ้าหน้าที่ ตัวแทนมหาวิทยาลัย รอรับที่สนามบิน
จากนั้นได้เดินทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ไปยังที่พักนักศึกษา (Hostel ) บริเวณมหาวิทยาลัย ย่าน Time Square ใจกลางเมือง ย่านธุรกิจ ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีเจ้าที่ของมหาวิทยาลัย ให้การต้อนรับและแนะนำเรื่องการเข้าพักใน Hostel ซึ่งมีความสะดวก และปลอดภัย
รูปที่ 5 บริการรถ รับ ส่ง ของมหาวิทยาลัย
รูปที่ 6 การเข้าพัก Hostel ของมหาวิทยาลัย
เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดรายงานตัวและปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ประมาณ 1 สัปดาห์ ดังนั้น นักเรียน ผู้ปกครอง จึงมีโอกาสเข้าเยี่ยมชม มหาวิทยาลัย เพื่อให้รู้จัก คุ้นเคยกับสถานที่ รวบถึงสำรวจเส้นทางการเดินทาง ไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการใช้ชีวิตในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียด้วย โดยได้รับการแนะนำอย่างดีจากฝ่าย International Student ของมหาวิทยลัย
รูปที่ 7 การเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย
รูปที่ 8 เดินทางสำรวจสถานที่ต่างทางโดยใช้บริการรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชน
รูปที่ 9 Shopping ศูนย์การค้าบริเวณเดียวกับที่ตั้งของมหาวิทยาลัย
เมื่อถึงเวลาเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัย น้องเมย ก็เข้ารับการศึกษาตามหลักสูตร นับว่าเป็นโอกาสดีของนักศึกษาไทยคนหนึ่งที่ได้มาศึกษาที่ BERJAYA University เพราะที่นี่มีสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ที่ตอบสนองธุรกิจโรงแรม อุตสาหกรรม การต้อนรับ การท่องเที่ยวและบริการได้เรียนรู้จากประสบการณ์ การฝึกงาน การเยี่ยมชมบริษัท เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับอุตสาหกรรมดังกล่าว
รูปที่ 10 ชุดนักศึกษา
รูปที่ 11 ชุดนักศึกษาภาคปฏิบัติ
รูปที่ 12 บรรยากาศการเรียนภาคปฏิบัติ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเรียนต่อ : โทร.08 5791 9111 , 0 7728 7111 (อ.สมนึก ชูสุวรรณ) Line ID : somnoek
ชื่อโครงการ : หลักสูตรเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนมัธยมศึกษาประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์
ผู้รับผิดชอบโครงการ : บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ร่วมกับ โรงเรียนกวดวิชาและสอนภาษาต่างประเทศ
สถานที่ : โรงเรียนกวดวิชาและสอนภาษาพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ในโครงการความร่วมมือ
ระยะเวลา : 160 ชั่วโมง
หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อ ระดับมัธยมศึกษา (High School ) ในต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจาก เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และ ภาษา ประเทศดังกล่าว เป็นเมืองการค้า การท่องเที่ยว และ เป็นศูนย์กลางการศึกษาที่คุณภาพสูงเป็นที่ยอมรับ ระยะทางไม่ไกลจากประเทศไทย ความเป็นอยู่มีความปลอดภัยสูง สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก จึงถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับให้นักเรียนได้ไปศึกษาเล่าเรียน สถานศึกษาในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับมัธยมศึกษา (High School ) เป็นที่สนใจของ นักเรียน ผู้ปกครอง แต่ในขั้นตอนการสมัคร และการพิจารณารับเข้าเรียนจะต้องผ่านการสอบวัดระดับความรู้ (Placement Test) ตามเกณฑ์ที่แต่ละสถาบันกำหนด ซึ่งจะมีการสอบวัดระดับความรู้ เช่น วิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ภาคภาษาอังกฤษ) และภาษาจีน หากนักเรียนไม่ได้เตรียมความพร้อมทักษะความรู้ในรายวิชาดังกล่าวมักจะประสบปัญหาการสอบไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ทางโรงเรียนอาจไม่รับเข้าเรียนหรือ รับเข้าเรียนโดยมีเงื่อนไขต้องเรียนปรับพื้นก่อนแล้วพิจารณารับในภายหลัง ซึ่งจะทำให้ นักเรียนอาจเสียโอกาสในการเข้าเรียนหรือเสียเวลา และ ค่าใช้จ่าย ในการเรียนปรับพื้นในช่วงที่ควรจะเป็นเวลาเรียนตามระดับชั้นปกติ
ดังนั้น บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อ เตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนที่มีเป้าหมายไปศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาต่างประเทศ รวมไปถึงนักเรียนที่ต้องการเพิ่มทักษะในรายวิชาดังกล่าวเพื่อเรียนหลักสูตร นานาชาติ ในประเทศไทยด้วย
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ นักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการ
1.มีความรู้และทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งทางด้าน การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน
2.มีความรู้และทักษะการใช้ภาษาจีน ทั้งทางด้าน การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน
3.สามารถเรียนรู้ และเข้าใจ เนื้อหาวิชา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ โดยใช้ภาษาอังกฤษ
4.สามารถใช้ความรู้ เพื่อการสอบวัดความรู้ ก่อนเข้าศึกษาต่อตามที่สถาบันกำหนด
เป้าหมาย
1.ผู้เข้าร่วมโครงการ กลุ่มละ จำนวน 10 คน
2.นักเรียน กำลังศึกษาขั้นต่ำ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
รายละเอียดโครงการ : เรียนหลักสูตรเตรียมความพร้อมเพื่อศึกษาต่อมัธยมศึกษาต่างประเทศ เริ่มเรียน เดือน สิงหาคม 2559 เรียน วันเสาร์–อาทิตย์ สัปดาห์ละ 5 ชั่งโมง (กรณีผู้เข้าร่วมโครงการ ต่ำกว่า 10 คน ขอสงวนสิทธิ ยกเลิกโครงการ)
ผลที่คาดว่าจะได้รับ นักเรียน ผู้เข้าร่วมโครงการ
1. มีความรู้ ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียนภาษาอังกฤษ
2. มีความรู้ ทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียนภาษาจีน
3. สามารถใช้ภาษาอังกฤษ ในการเรียน เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์
4. มีความมั่นใจ ในการสอบวัดระดับความรู้ และการเรียน การใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ
สนใจเข้าร่วมโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
99/370 ม.1 ถ. กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทร.0 7728 7111, 08 5791 9111 E-Mail : [email protected] , Line ID : somnoek
Poi Lam High School : เรียนมัธยม มาเลเซีย ในราคาประเทศไทย
จากประสบการณ์ในการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศหลายปีต่อเนื่องของผม ทำให้มีโอกาสได้พบปะนักเรียน ผู้ปกครองที่มีความสนใจจะส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศอยู่เสมอและบ่อยครั้งที่ผมได้รับคำถามจากผู้ปกครองว่าอยากให้บุตรหลานที่จบการศึกษาระดับประถมศึกษาในประเทศไทยแล้วให้ไปศึกษายังต่างประเทศโดยให้มีระยะเวลาการเดินทางไม่ไกลจากประเทศไทย สามารถเดินทางไปเยี่ยมบุตรหลานได้โดยไม่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากนัก สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพขอให้ใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายในประเทศไทยและมีความมั่นใจในความปลอดภัยและการดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ดังนั้นผมจึงพยายามค้นหาคำตอบโดยการศึกษาข้อมูล และการเดินทางไปเยี่ยมชมสถาบันการศึกษาที่จะตอบโจทย์แก่ผู้ปกครอง และสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยได้เข้าถึงระบบการศึกษาต่างประเทศในราคาที่ใกล้เคียงกับประเทศไทยมากที่สุดให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและการเป็นพลเมืองอาเซียนของนักเรียนไทยด้วย จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นทำให้ผมทราบว่าจุดสนใจในการส่งบุตรหลานไปเรียนต่างประเทศโดยเฉพาะนักเรียน (ป.5 – ป.6) ที่กำลังจะจบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากประเทศไทย ผู้ปกครองจำนวนมากต้องการให้ไปเรียนที่ประเทศมาเลเซีย ด้วยเหตุผลเพราะนักเรียนมีโอกาสได้เรียนรู้วิชาการ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนกลาง มีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับประเทศไทยความปลอดภัยในชีวิตค่อนข้างสูงรวมถึงต้องการให้บุตรหลานได้ฝึกฝนความอดทนและการพึ่งพาตนเอง
Poi Lam High School
ผมคิดว่าที่นี่คือคำตอบของการเรียนมัธยมมาเลเซียในราคาไทยทั้งค่าใช้จ่ายและระยะทางใกล้เคียงประเทศไทยเพราะโรงเรียนอยู่ที่เมืองอีโปห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทยนั่นเอง ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักเมืองอีโปห์ เป็นการเบื้องต้นไว้ก่อน เมืองอีโปห์ (Ipoh) เป็นเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศมาเลเซีย มีฐานะเป็นเมืองหลวงของรัฐเปรัค (Perak) อยู่ห่างจากทางเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 200 กิโลเมตร และ อยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองปีนังประมาณ 130 กิโลเมตร มีฉายาอื่น ๆ เช่น Paloh, The hill city และ The Bougainvillea city (ที่มา : https://th.wikipedia)
ผมได้มีโอกาสเดินทางพร้อมด้วยนักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อเข้าเยี่ยมชม สมัครเรียนให้นักเรียน และ เข้าพบพูดคุยกับผู้บริหาร โรงเรียน Poi Lam High School เมืองอีโปห์ (Ipoh) รัฐเปรัค (Perak) เป็นโรงเรียนประจำ กล่าวคือมีที่พักอยู่ในโรงเรียน (Hostel) จำนวนนักเรียนไทยไม่มากประมาณ 20 – 30 คน เมื่อเทียบกับจำนวนนักเรียนทั้งหมดประมาณ 2000 คน นับเป็นโอกาสดีที่นักเรียนไทยจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ จีน และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพไม่สูง ใกล้เคียงมาก ๆ กับประเทศไทย ตัวอย่างเช่น นักเรียนที่จบระดับประถมศึกษา (ป.5 หรือ ป. 6 ) จากไทยสามารถสมัครเข้าเรียนระดับชั้น Junior 1 (มัธยมศึกษาปีที่ 1) ค่าใช้จ่ายทั้งปีประมาณ หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทเศษ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวประกอบด้วย ค่าเล่าเรียน + ค่าที่พัก อาหาร ซักรีด ไฟฟ้า ประปา ต่อปี (ไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวแต่ละเดือนของนักเรียนแต่ละคนซึ่งสามารถฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ Hostel จะควบคุมค่าใช้จ่ายให้เบิกใช้ตามความจำเป็นประมาณ 500 – 600 RM / เดือน)
รูปที่ 1 Head of International Department ให้การต้อนรับในการเยี่ยมชม Poi Lam High School เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการสมัครเรียนให้แก่นักเรียนและทำให้นักเรียน ผู้ปกครอง ได้มาเห็นสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และนักเรียนไทยก็ได้สมัครเรียนในวันเดียวกันด้วย ระดับชั้นการศึกษาของ Poi Lam High School
ที่มา : Poi Lam School Prospectus
รูปที่ 2 ระดับชั้นการศึกษา
ระดับชั้นการศึกษา ประกอบด้วย Junior 1 – 3 และ Senior 1-2 โดยนักเรียนไทยจะเริ่มต้นเข้าศึกษาที่ Poi Lam High School ตั้งแต่เพิ่งจบชั้นป. 5 หรือจะรอให้จบ ป.6 ก่อน แล้วแต่มุมมอง และการตัดสินใจของนักเรียนและผู้ปกครอง แต่อายุขั้นต่ำของนักเรียนคือ 11 ปี โดยเมื่อจบระดับ Senior ก็สามารถสอบ Cambridge IGCSE หรือ GCE ‘o’ Level แล้วจะเลือกเรียน A Level / Pre –University Program หรือเลือกเรียน Senior 3 เพื่อจะเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในประเทศต่าง ๆ ทางยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย New Zealand จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ หรือ มหาวิทยาลัยเอกชนต่าง ๆ ในท้องถิ่นได้
รูปที่ 3 การเรียนปรับพื้นฐาน
ก่อนปี 2016 นักเรียนต่างชาติ หรือ นักเรียนไทยที่จบ ป.5 ป.6 สมัครเข้าเรียนระดับ Senior 1 ต้องเรียนปรับพื้น (ER. Class Room) ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไปทางโรงเรียนยกเลิกการเรียนปรับพื้นแล้ว
รูปที่ 4 การเข้าเรียน Junior 1
ดังนั้นนักเรียนไทยที่จบ ป.5 และป.6 ต่างก็สมัครเข้าเรียน Junior 1 ได้โดยไม่ต้องเรียนปรับพื้น (ER) จากการพูดคุยกับผู้บริหารของโรงเรียนทำให้ทราบว่าห้องเรียนของ Junior 1 ของนักเรียนที่จบชั้น ป. 5 กับ นักเรียนที่จบชั้น ป. 6 เป็นหลักสูตรเดียวกัน ต่างกันที่ ห้องเรียน Junior 1 ของนักเรียนที่จบ ป.6 จะสอนเข้มข้นและรวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตามนักเรียนสามารถย้ายห้องเรียนได้โดยทางโรงเรียนจะปรับตามความสามารถ ศักยภาพของผู้เรียนเป็นหลักเมื่อนักเรียนอยู่ในระดับชั้น Junior 2 ต้องเตรียมตัวเพื่อเลือกเรียนในระดับ Junior 3 ว่าต้องการเรียนทางสาย Science หรือ Accounting
รูปที่ 5 Science , Accounting in Junior 3
นักเรียนไทยจำนวนมากเมื่อเรียนจบระดับ Junior 3 แล้วมีความคิดว่ามีทักษะด้านภาษาอังกฤษและการใช้ชีวิตในต่างประเทศมากพอแล้ว จะกลับมาประเทศไทย เพื่อเตรียมเรียนติวเพื่อสอบเทียบวุฒิ มัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศไทยตามหลักสูตรของสหรัฐอเมริกา (General Education Development : GED) รายละเอียด GED จะได้กล่าวในโอกาสต่อไป ซึ่งหากนักเรียนสามารถสอบผ่าน GED 5 วิชา ภายใน 1 ปี ก็ได้วุฒิเทียบเท่ามัธยมปลายซึ่งผ่านการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการก็จะย่นระยะเวลาเรียน การจบม.6 นี้ สมัครเข้าศึกษาวิทยาลัยนานาชาติต่าง ๆ ได้ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น
ภาคเรียนของระบบการศึกษามาเลเซีย
รูปที่ 6 ภาคเรียนของระบบการศึกษามาเลเซีย
ภาคเรียนของ Poi Lam High School เป็นไปตามภาคเรียนของระบบการศึกษามาเลเซีย นักเรียนไทยส่วนใหญ่สะดวกที่จะสมัครเรียนในภาคเรียนที่ 2 ซึ่งเปิดเรียนในเดือนเมษายน เนื่องจากต้องรอผลการสอบและรับเอกสารการจบการศึกษา ป.5 หรือ ป.6 จากไทย ซึ่งจะได้รับประมาณปลายเดือน มีนาคม ของปีที่จบ (สมัครเรียนได้ทุกภาคเรียนแต่ต้องจ่ายค่าเรียนทั้งปีของปีที่สมัคร) บรรยากาศการเยี่ยมชม Poi Lam High School
รูปที่ 7 อาคารสำนักงาน
รูปที่ 8 นักเรียน ผู้ปกครอง เยี่ยมชม
รูปที่ 9 สมัครเรียน ห้องทะเบียนและการเงิน
รูปที่ 10 นักเรียนไทย รุ่นพี่คอยช่วยเหลือแนะนำนักเรียนใหม่
รูปที่ 11 อาคารเรียนและบริเวณ
รูปที่ 12 สภาพหน้าอาคาร
รูปที่ 13 โรงอาหารของ Hostel
รูปที่ 14 ห้องพัก และ Hostel
ตารางเรียนและกิจกรรม
ตอนเช้าเวลา 07.45 น. นักเรียนจะต้องเข้าแถวนักเรียนใหม่ เข้าแถวของหอพัก ส่วนการเข้าแถวของโรงเรียน ทั้งนักเรียนใหม่และนักเรียนเก่าเข้าแถว เช้าวันจันทร์ อาจจะทุกวันจันทร์หรือไม่ก็จันทร์ เว้น จันทร์ การเข้าห้องเรียนคาบละ 40 นาที เรียนวันละ 10 คาบ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 15.45 น. เวลาท้องถิ่นมาเลเซีย มีพักย่อยและพักเที่ยง คาบสุดท้าย เวลา 15. 45 น. เลิกเรียน ยกเว้น วันศุกร์จะเลิกเร็วกว่า 1 คาบ คือเลิกเรียนเวลา 15.05 น.
กิจกรรมหลังเลิกเรียน
ผู้ปกครองอาจมีความกังวลในเรื่องของความรับผิดชอบของบุตรหลาน เรื่องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อย่ากังวลเลยครับ เพราะกิจกรรมหลังเลิกเรียนที่ทางโรงเรียนโดยหอพักมีกิจกรรมหลังเลิกเรียนให้กับนักเรียน ดังนี้
จันทร์ – ศุกร์ เวลา 19.30 – 21.30 น. อ่านหนังสือในห้องเรียน สำหรับนักเรียนใหม่โดยมีผู้ควบคุมแนะนำ
การออกนอกบริเวณโรงเรียน ออกได้เฉพาะนักเรียนเก่าเท่านั้น และออกนอกบริเวณได้ตามที่ทางโรงเรียนกำหนด เฉพาะวันอาทิตย์เวลา 10.00 – 17.00 น. ยกเว้นช่วงสอบห้ามออกนอกบริเวณโรงเรียน กิจกรรมอื่น ๆ เช่น วิชาพละศึกษาซึ่งเรียนตามตารางเวลาเรียน นอกจากนั้นยังมีชมรมศึกษา ให้นักเรียนเป็นสมาชิกตามความสนใจ เช่น แบดมินตัน ปิงปอง บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล เป็นต้น และยังมีชมรมวิชาการ เช่น ชมรมภาษาอังกฤษ เป็นต้น
มาตรการเรื่องการใช้โทรศัพท์ของนักเรียน
ปัญหาการใช้โทรศัพท์ อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ปกครองเป็นห่วงและถามถึงการป้องกันอยู่เสมอเพราะโทรศัพท์ยุคปัจจุบันไม่เพียงแต่การสนมนาพูดคุยทางเสียงอย่างเดียวแต่สามารถใช้ application ต่าง ๆ เช่น line facebook ส่งรูปภาพ เล่นเกม เป็นต้น จากการเยี่ยมโรงเรียนในครั้งนี้ ผมจึงทราบว่ามาตรการป้องกันควบคุมปัญหาการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนมีดังนี้
1. ห้ามใช้โทรศัพท์ทุกชนิดในช่วงเวลาเรียน จันทร์ – ศุกร์ (ทางหอพักจะเก็บไว้ไม่ให้พาไปโรงเรียน)
2. หลังเลิกเรียนใช้โทรศัพท์ได้แต่ต้องเป็นแบบไม่มีกล้องถ่ายรูป
3. โทรศัพท์แบบ smart phone หากพบเห็นการใช้งานจะถูกริบเก็บไว้นานหลายเดือน
ความเป็นระเบียบในหอพัก
การไปเรียนหนังสือในต่างประเทศซึ่งอยู่ห่างไกลพ่อแม่ ผู้ปกครอง การฝึกความมีระเบียบวินัย การพึ่งพาตนเองและความอดทนก็เป็นเรื่องสำคัญและเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองก็คาดหวัง เช่นกัน ทางหอพักก็มีกฎความเป็นระเบียบในหอพักเช่นกัน เช่น
1. เก็บของใช้ไม่เป็นระเบียบถูกที่ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า จะโดนริบ เมื่อมาขอคืน จะมีค่าปรับเป็นเงิน เพื่อให้นักเรียนเคร่งครัดในการเป็นระเบียบและสร้างบรรยากาศที่ดีในการอยู่ร่วมกัน
2. การส่งซักรีด เสื้อผ้า
– เสื้อ – กางเกง ชุดนักเรียนและชุดใส่ทั่วไป ส่งซักได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (รวมอยู่ในค่าหอพักแล้ว)
– ผ้าปูที่นอน ส่งซักได้ แต่ต้องจ่ายค่าซักรีด
– ถุงเท้า ชุดชั้นใน ผ้าเช็ดตัวนักเรียนจะต้องซักเอง
ขอขอบคุณ ผู้บริหารและนักเรียนไทยในโรงเรียน Poi Lam High School ดร.ไชยวัฒน์ เผือกคงและคณะ ฯ อ.วิสัย พัฒนพงศ์ เอื้อเฟื้อภาพถ่ายและข้อมูล
สนใจเยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงาน ติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลากกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
เมื่อวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2559 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด พร้อมด้วย คณะนักเรียน และผู้ปกครองได้เข้าเยี่ยมชม โรงเรียน ระดับ High School ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วย โรงเรียน Penang Chiness Girls’Private High School ,Chung Ling High School ,Pelita International School และ Penang Home School EQ Development นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชม Host Family ซึ่งเป็นที่พักและเป็นผู้ปกครองให้นักเรียนระหว่างศึกษาในปีนัง ตลอดจนศึกษาวิถีชีวิต ค่าครองชีพ ในปีนังโดยการเยี่ยมชมสถานที่ทางศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งธุรกิจ ของปีนังด้วย
ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจาก ผู้บริหาร ของแต่ละสถาบันเป็นอย่างดี ทำให้นักเรียน ผู้ปกครองได้รับข้อมูลด้านต่างๆจากทางโรงเรียนโดยตรงอย่างละเอียด เกิดความมั่นใจ และมีการสมัครสอบเข้าศึกษาต่อในครั้งนี้ด้วย
สนใจเข้าร่วมโครงการครั้งต่อไป ติดต่อ 08 5791 9111 , 077 287111 (อ.สมนึก)0 Line ID : somnoek
การศึกษาในสหรัฐอเมริกาแต่ละรัฐจะควบคุมคุณภาพ การเรียนการสอน และวางแผนการศึกษาของตนเอง โดยไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลาง ทุกรัฐจะมีหน่วยงานการศึกษาคล้ายกระทรวงศึกษาธิการ คอยกำหนดมาตรฐานต่าง ๆ และนำเงินงบประมาณอุดหนุนให้โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย จากเงินภาษีที่เก็บได้จากประชาชนในแต่ละรัฐ
การศึกษาภาคบังคับ นักเรียนอเมริกันทุกคนจะเรียนฟรีไม่ว่าจะอยู่ที่รัฐใด จนจบชั้นมัธยมศึกษา หรือGrade 12 สำหรับนักเรียนจากประเทศไทย ที่ต้องการเรียนในระดับประถมและมัธยมศึกษาที่อเมริกา จะสมัครเข้าเรียนได้ในโรงเรียนเอกชนเท่านั้น เพราะสหรัฐอเมริกาจะไม่ออกวีซ่าให้นักเรียนไทยที่ได้ I-20 จากโรงเรียน ระดับประถมและมัธยมศึกษา จากโรงเรียนของรัฐที่เรียกว่า Public School การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยจะมีข้อแตกต่าง กล่าวคือ ถ้านักเรียนที่มีถิ่นฐานในรัฐหนึ่ง จะข้ามมาศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยอีกรัฐหนึ่ง จะต้องเสียค่าเล่าเรียนแพงขึ้น ที่เรียกว่า Out of States Tuition และถ้านักศึกษามาจากประเทศอื่น จะต้องเสียค่าเล่าเรียนเพิ่มขึ้นไปอีก
มาตรฐานการศึกษาและการทดสอบระดับมาตรฐานการศึกษาจะทำโดยรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา ความต้องการการศึกษาภาคบังคับโดยทั่วไป เป็นที่น่าพอใจ โดยการให้ความรู้กับเด็กในโรงเรียนของรัฐในอเมริกา ได้รับการรับรองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนเอกชนหรือ ที่ได้รับอนุมัติ Home School โปรแกรม โรงเรียนส่วนใหญ่ในภาครัฐและเอกชน การศึกษาจะแบ่งออกเป็นสามระดับ : ประถม , middle school (บางครั้งเรียกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้น) และ high school (บางครั้งเรียกว่าการศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย) ในเกือบทุกโรงเรียนในระดับนี้เด็กจะถูกแบ่งออกตามกลุ่มอายุเป็นเกรดตั้งแต่อนุบาล ช่วงอายุของนักเรียนในระดับชั้นต่าง ๆ ไม่แน่นอนจะแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับพื้นที่ กำหนดเกณฑ์อายุของนักเรียน การศึกษาหลังมัธยมศึกษาที่รู้จักกันดีว่าเป็น “วิทยาลัย” ในสหรัฐอเมริกามีการควบคุม โดยทั่วไปแยกต่างหากจากระบบโรงเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และ ตอนปลาย
ปีการศึกษา
ปีการศึกษาในสหรัฐอเมริกา (Academic Year) จะเริ่ม ประมาณเดือนกันยายนถึงพฤษภาคม ซึ่งมีกำหนดภาคเรียน แตกต่างกันออกไปดังนี้
ระบบ Semester
เป็นระบบที่นิยมใช้มากที่สุด ในระยะเวลาหนึ่งปีจะประกอบด้วย 2 Semesters และ 1-2 Summer Sessions แต่ละ Semester ยาวประมาณ 16 สัปดาห์ ดังนี้
Fall Semester เปิดประมาณปลายสิงหาคม – กลางธันวาคม
Spring Semester เปิดประมาณต้นมกราคม – เมษายน (บางครั้ง Summer Session จะแบ่งครึ่งเป็น 2 ช่วงสั้น ๆ)
Summer Session เปิดประมาณกลางพฤษภาคม – สิงหาคม
ระบบ Quarter
ในหนึ่งปีแบ่งออกเป็น 4 Quarter แต่ละ Quarter ใช้เวลาเรียนประมาณ 10 สัปดาห์ ดังนี้
Fall Quarter เปิดประมาณกลางกันยายน – ธันวาคม
Winter Quarter เปิดประมาณมกราคม – กลางมีนาคม
Spring Quarter เปิดประมาณต้นเมษายน – กลางมิถุนายน
Summer Quarter เปิดประมาณกลางมิถุนายน– สิงหาคม
ระบบ Trimester
ใน 1 ปี แบ่งภาคการศึกษาดังนี้
First Trimester เปิดประมาณกันยายน – ธันวาคม
Second Trimester เปิดประมาณมกราคม – เมษายน
Third Trimester เปิดประมาณพฤษภาคม – สิงหาคม
ระบบ 4-1-4
เป็นระบบใหม่ที่ใช้ในสถานศึกษาราว 8% ในสหรัฐอเมริกาแบ่งปีการศึกษาออกเป็น 2 ภาคใหญ่ คั่นด้วยภาคเรียนสั้นๆ ที่เรียกว่าInterim เพื่อให้นักศึกษาไปทำการค้นคว้าด้วยตนเองหรือออก Field Trip แบ่งภาคเรียน ดังนี้
Fall Semester เปิดประมาณปลายสิงหาคม – ธันวาคม
Interim เปิดประมาณเดือนมกราคม (1 เดือน)
Spring Semester เปิดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม
แผนผังระบบการศึกษาประเทศสหรัฐอเมริกา
Credit : https://en.wikipedia.org/wiki/Education_in_the_United_States
SENTRAL COLLEGE PENANG (เดิมชื่อ SENTRAL TECHNOLOGY COLLEGE PENANG) เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2002 วิทยาลัย ได้รับการอนุมัติและการลงทะเบียน – KP (JPS) / 5195/1227 (20) จากกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2002 และได้รับการอนุมัติสถานะเป็นวิทยาลัยในปี 2006 โดยกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศมาเลเซีย
ความมุ่งมั่น
ควบคู่ไปกับสถาบันอื่น ๆ ของการเรียนรู้ที่สูงขึ้น SENTRAL จะเน้นไปทางที่เอื้อต่อการปณิธานแห่งชาติของมาเลเซียทำให้ศูนย์การศึกษาในภูมิภาคและในโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนังSENTRAL ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท SENTRAL EDUCATION SDN Bhd. ซึ่งเป็นบริษัท ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ บริษัท ปี 1967 เพื่อให้การจัดการที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีการศึกษาและการฝึกอบรมในภูมิภาคเช่นเดียวกับการพัฒนาและให้ทักษะวิชาชีพที่ตอบสนองความต้องการของประเทศ
SENTRAL Education มีการลงทะเบียนกับกองทุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRDF) เป็นผู้ให้การฝึกอบรมภายใต้ SBL และแผนการ SBL-Khas
SENTRAL COLLEGE กับอุดมคติที่เป็นแรงบันดาลใจที่ผู้ก่อตั้ง บริษัท ยังคงมุ่งมั่นที่จะ แสวงหาความเป็นเลิศการศึกษาในบริบทของการเคารพ, ความเอาใจใส่และความยุติธรรมไว้ โดย National Ideology (Rukun Negara) และความแข็งแรงทางปัญญา ปรัชญาการศึกษา แห่งชาติ
ที่ตั้ง
วิทยาลัยตั้งอยู่ที่ Menara SENTRAL และตั้งอยู่ภายในมรดกโลกของจอร์จทาวน์ ปีนัง ตั้งอยู่ใจกลางธุรกิจชุมชนของปีนัง มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้ การเดินทางสะดวก ใกล้คลินิกพยาบาล สถาบันการเงินต่าง ๆ ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะอื่น ๆ
หลักสูตรที่เปิดสอน
Certificate Programes
1. English Language
2. Tourist Guide (Level 3)
3. Certificate in Tourism Operations
4. Certificate in Business IT
Diploma Programes
1. Diploma in Business Studies
2. Diploma in Computer System Technology
3. Diploma in Accounting
4. Diploma in Tourism Management
Undergraduate Programes
1. BSc (Hons) Business & Management
2.BSc (Hons) Business Information Technology
3. BSc (Hons) Accounting & Finance
Professional Programes
1. Certified Accounting Technician (CAT)
2. Association of Chartered Certified Accountants (ACCA)
คุณสมบัติผู้สมัครเรียน:
นักเรียนจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า (ผลการเรียนต้องผ่าน 50% ขึ้นไป)
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถาบัน
Hostel: ที่พักสำหรับนักเรียน
สิ่งอำนวยความสะดวกใน Hostel
การศึกษาประเทศนิวซีแลนด์เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เป็นแหล่งการศึกษาที่มีคุณภาพ และมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนการสอน หลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละโรงเรียนจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแล และอนุมัติหลักสูตรจากกระทรวงศึกษาธิการ และได้รับการรับรองคุณภาพจาก New Zealand Qualification Authority (NZQA) ความแตกต่างกับระบบการศึกษาของประเทศไทย คือประเทศนิวซีแลนด์นักเรียนจะต้องเรียนมัธยมเป็นระยะเวลา 7 ปีการศึกษา (Year 7 – Year 13) มีทั้งที่เป็นของรัฐบาล และ ของเอกชน นักเรียนไทย และ ต่างชาติสามารถเข้าเรียนได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 11 ปีขึ้นไป สำหรับ Year 7 และ ช่วงอายุ 13 ปีขึ้นไป สำหรับ Year 9 ทุกโรงเรียนในประเทศนิวซีแลนด์จะมีมาตรฐานเหมือนกันทั้งประเทศ
ระดับมัธยมศึกษา
มีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในนิวซีแลนด์ประมาณ 400 แห่ง ทั้งโรงเรียนของรัฐบาล กึ่งรัฐบาลและเอกชน โรงเรียนแต่ละแห่ง สามารถจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเอง แต่ต้องได้รับการ รับรองคุณภาพจาก New Zealand Qualification Authority (NZQA) หลักสูตรและมาตรฐาน การศึกษาจึงคล้ายคลึงกัน และมีจุดประสงค์เดียวกันคือ เตรียมความพร้อมให้นักเรียน เพื่อสอบให้ได้ประกาศนียบัตร ระดับมัธยมศึกษาที่รัฐบาลกำหนด นักเรียนทุกคนเมื่อจบระดับฟอร์ม 5 (ม. 5) จะต้องสอบไล่ข้อสอบกลางของประเทศเพื่อรับประกาศนียบัตร เรียกว่า School Certificate และเมื่อเรียนจบฟอร์ม 6 (ม. 6) ต้องสอบข้อสอบที่โรงเรียนเป็นผู้จัดสอบเพื่อรับ Sixth Form Certificate ดังนั้นการเลือกโรงเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
โรงเรียนมัธยมส่วนใหญ่จะรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนในYear 9 (ม.3 อายุ 13 ปี) บางโรงเรียนรับตั้งแต่Year 7 (ม.1) นักเรียนระดับ Year 9 –Year 10 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น นักเรียนจะเรียนวิชาบังคับพื้นฐาน อาทิ ภาษาอังกฤษ สังคม– ศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาพลศึกษา ดนตรี ศิลปะ ส่วนวิชาเลือกอาจจะมีคหกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ เป็นต้น
นักเรียนระดับ Year 11 – 12 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะมีวิชาเลือกตามความถนัดมากขึ้น และมีวิชาบังคับน้อยลง วิชาบังคับคือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์Year 11 นักเรียนต้องเรียนให้ผ่านวิชาระดับพื้นฐานซึ่งจะอยู่ในระบบ National Certificate Education Academic (NECA) ใน NCEA-Level 1 ประกอบด้วย วิชาภาษาอังกฤษ วิชาคณิตศาสตร์ วิชา ทยาศาสตร์และ วิชาอื่นๆ นักเรียนจะต้องเรียนวิชาทั้งหมดประมาณ 6 วิชา Year 12 ของโรงเรียน นิวซีแลนด์ นักเรียนจะเรียนในวิชา NCEA-Level 2 เรียน 6 วิชา และมีวิชาเลือกอื่นๆ ให้นักเรียนลงเรียนได้นอกจากวิชาพื้นฐานทั่วไป นักเรียนไทยที่ต้องการกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ต้องเรียนจบ Year 12 และสอบผ่าน NCEA-Level 2 Year 13 ของโรงเรียน นิวซีแลนด์ นักเรียนจะเรียนในวิชา NCEA-Level 3 เรียน 6 วิชา ซึ่งนักเรียนควรเลือกวิชาที่สอดคล้อง กับสาขาวิชาที่สนใจศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
นักเรียนในYear 11 – 12 – 13 ควรเลือกวิชาที่จะเป็นพื้นฐานของ การเรียนในระดับปริญญาตรีที่ตนสนใจ เช่น สนใจเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจ ก็ควรเลือกเรียนวิชาคณิตศาสตร์สถิติ การบัญชี เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ส่วนนักเรียนที่จะเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ก็ควรเลือก เรียนวิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา เป็นต้น
ข้อควรระวัง
นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ต้องปฏิบัติตนตามกฎข้อบังคับของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด และต้องไม่ขาดเรียนโดยไม่มีเหตุผล เพราะโรงเรียนมีสิทธิ์ส่งตัวนักเรียนกลับประเทศไทย ทันที
การเทียบวุฒิ
สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีความประสงค์ต้องการกลับมาเทียบวุฒิ กับกระทรวงศึกษาธิการในประเทศไทย ต้องมีผลการเรียนนิวซีแลนด์Year 11 Year 12 และ Year 13 หรือเทียบเท่าและต้องสอบผ่านครบทั้ง 5 วิชา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการนิวซีแลนด์กำหนดไว้ และจะต้องมีใบประกาศนียบัตรของ NZQA มาแสดง
การสมัครเรียน
สมัครเข้าเรียนต่อจากชั้นสูงสุดที่จบจากประเทศไทยได้เลย และสามารถสมัครเข้าเรียนได้ทุกเทอม นักเรียนที่ต้องการเลื่อนชั้นต้องเข้าเรียนต้นเทอม 2 ทางโรงเรียนจะพิจารณารับนักเรียนเข้าเรียนจากผลการเรียน อายุ และพื้นฐานภาษาอังกฤษ แต่การรับนักเรียนขึ้นอยู่กับ การตัดสินใจของแต่ละโรงเรียน
ภาคการศึกษา
ภาคเรียนแบ่งเป็น 4 เทอม คือ ระหว่างเทอมจะปิดให้นักเรียน พัก 2 สัปดาห์ โรงเรียน มัธยมถูกกำหนดให้มีการสอนไม่น้อยกว่า 190 วันต่อปีการศึกษา
เทอม 1: กุมภาพันธ์ – เมษายน
เทอม 2: เมษายน – มิถุนายน
เทอม 3: กรกฎาคม – กันยายน
เทอม 4: 9 ตุลาคม – 8 ธันวาคม
สถาบันโพลีเทคนิค (Polytechnic)
คือสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เปิดให้การศึกษาอบรมสายวิชาชีพ เน้น ด้านอุตสาหกรรม ธุรกิจ และ การพาณิชย์ มีสาขาวิชาให้เลือกมากถึง 150 สาขา มีหลักสูตร ตั้งแต่ประกาศนียบัตร อนุปริญญา จนถึงปริญญาตรี และสามารถโอนหน่วยกิตเพื่อเรียนต่อระดับปริญญาโทใน มหาวิทยาลัยได้ โพลีเทคนิคประเทศนิวซีแลนด์ทั้งหมดมี 25 แห่ง กระจายอยู่ 18 แห่งในเกาะเหนือ และ 7 แห่งในเกาะใต้ นอกจากนี้โพลีเทคนิคยังมีการ อบรมหลักสูตรระยะสั้น (Short Courses) และหลักสูตรสอน ภาษาอังกฤษอีกด้วย
คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย
ภาคการศึกษา
เปิดสอนเดือนกุมภาพันธ์–ธันวาคม โดยมีวันหยุดในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม ส่วนใหญ่เปิด รับนักศึกษาใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ และ กรกฎาคม
สถาบันสอนภาษานิวซีแลนด์ (English Language Institutions)
ปัจจุบันมีสถาบันสอนภาษาอังกฤษในนิวซีแลนด์ทั้งหมดกว่า 70 แห่ง โดยอยู่ในสังกัดของมหาวิทยาลัย โพลีเทคนิค และสถาบันสอนภาษาอังกฤษของเอกชนภายใต้การดูแลของ NZQA โดยเปิดสอนหลักสูตรที่มีความหลากหลายทั้งระยะสั้น ต่ำกว่า 12 สัปดาห์ และระยะยาวคือ 1 ปี มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ทันสมัย สามารถเปิดรับนักศึกษาใหม่ได้ตลอดทั้งปี หลักสูตรที่มีให้เลือกเรียนด้วยกันดังนี้
– General English/ Intensive English Course
– English for Academic Purposes: EAP
– Business English Course
– English plus Activities Course
ระดับมหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์(University)
มหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์มีด้วยกันทั้งหมด 8 มหาวิทยาลัย และเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ทั้งสิ้น มหาวิทยาลัยเหล่านี้กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศโดยอยู่ที่เกาะเหนือ 5 มหาวิทยาลัย อันได้แก่
University of Canterbury อยู่ที่เมือง Christchurch
University of Otago อยู่ที่เมือง Dunedin
มหาวิทยาลัยเหล่านี้ มีหลักสูตรตั้งแต่ ระดับปริญญาตรี ถึงปริญญาเอก บางมหาวิทยาลัยมีหลักสูตร ประกาศนียบัตร และอนุปริญญาด้วย
คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย
ระดับปริญญาตรี
นักศึกษาจบชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรอง จากทางมหาวิทยาลัยของประเทศไทย สามารถสมัครเข้าเรียน ต่อในระดับปริญญาตรี(แต่ถ้านักศึกษามีวุฒิจบชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 จะต้อง เข้าเรียนหลักสูตร Foundation Studies Pro- gramme ก่อน หรือมิฉะนั้นก็เข้าเรียนต่อในโรงเรียน มัธยมศึกษา ใน Form 7 หรือเลือกเรียนหลักสูตรอนุปริญญาในวิทยาลัย อาชีวศึกษา 2 ปี เกรดเฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า2.5 แล้วจึงสมัครเรียนต่อ ปริญญาตรี) คะแนน TOEFL อย่างต่ำ 550 หรือ IELTS 5.5
ระดับปริญญาโท/เอก
– สำเร็จปริญญาตรี/โท
– คะแนน TOEFL 600 หรือ IELTS 6.0-6.5
– บางสาขาวิชาจะต้องมีประสบการณ์การทำงานด้วย
– เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5 – 3
ภาคการศึกษา
วันหยุดภาคฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ และมีวันหยุด ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในระหว่างเทอม หรือ ระหว่างภาค โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาใหม่ช่วงต้นปีการศึกษาในเดือนมีนาคม มีบางมหาวิทยาลัยที่เปิดรับนักศึกษาใหม่กลางปีคือ ในเดือนกรกฎาคม แต่รับเฉพาะบางสาขาเท่านั้น
ค่าใช่จ่ายในการศึกษา
แผนผังระบบการศึกษาประเทศนิวซีแลนด์
New Zealand Education System
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้เยี่ยมชม สถาบัน Sentral College ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย และลงนามข้อตกลงเป็นตัวแทนของสถาบันในประเทศไทยเพื่อรับสมัครและส่งนักศึกษาไปศึกษาที่ Sentral College ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงและเปิดสอนสาขาต่างๆ เช่น English Language Program ,Tourism,Accounting,Computer System Technology,Business Information Technology , Business & Management มีทั้งระดับ Certificate,Diploma, and Bachelor Degree โดย Sentral College ได้ร่วมมือ กับ University of Salford Manchelter จากประเทศอังกฤษด้วย การเยี่ยมชมและลงนามข้อตกลงในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก MR.Johnny Goh,Marketing Manager.
เมื่อวันที่ 30-31 มกราคม 2559 บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดยความร่วมมือจาก คุณธนพงษ์ ขวัญคง ผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตวิทยา ได้เปิดบริการให้คำปรึกษา ทดสอบ และประเมินด้านความถนัด และบุคลิกภาพเพื่อเป็นแนวทางการวางแผนการศึกษาต่อและการทำงาน ตามโครงการค้นหาพรสวรรค์เพื่อการเลือกแนวทางการศึกษาต่อและการทำงาน โดยจัดโครงการ ณ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด การดำเนินการในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 เพื่อตอบสนองความต้องการของ นักเรียน ผู้ปกครอง ที่สนใจ เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง
สนใจเข้าร่วมโครงการครั้งต่อไป โทร.077 287111 , 08 5791 9111
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sjworldedu.com/home-course/talent-discovery/
ผู้รับผิดชอบโครงการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
ระยะเวลาดำเนินการ เรียนภาษาอังกฤษ หรือ วิชาชีพ เริ่มต้นที่ 24 Weeks
หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันการเรียนภาษาอังกฤษ และ วิชาชีพ ด้านต่าง ๆ ในต่างประเทศ กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และ มีการกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทำงาน (Working Language) ของประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การเรียนภาษาอังกฤษและวิชาชีพด้านต่าง ๆ ในต่างประเทศจะทำให้ผู้เรียนได้เรียนกับผู้สอนซึ่งเป็นเจ้าของภาษา ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันในสถานการณ์จริง รวมทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายควบคู่ไปด้วย ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเสริมให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนทั้งสิ้น
ประเทศออสเตรเลียมีคุณภาพการจัดการศึกษาสูง เป็นประเทศที่มีความปลอดภัย และเป็นเมืองน่าอยู่ในระดับต้น ๆ ของโลกจากผลการสำรวจหลายปีต่อเนื่อง นักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียน (Student Visa) ที่เข้าไปศึกษายังประเทศออสเตรเลีย ได้สิทธิ์ในการใช้เวลาว่างจากการเรียนเพื่อทำงาน part time อย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย โดยเฉลี่ยแล้ว 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งการทำงานจะทำให้มีรายได้ส่วนหนึ่งมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการครองชีพในระหว่างการศึกษา และได้ฝึกความขยัน อดทน และ ความมีวินัย จากประสบการณ์ในการทำงานอีกทางหนึ่งด้วย อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถทำงาน Part time ได้เนื่องจากเวลาว่างจากการเรียนมีไม่เพียงพอ เพราะจำนวนวันที่เรียนต่อสัปดาห์ ไม่เอื้ออำนวย
ดังนั้น บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด จึงได้จัดทำโครงการ Study and Work in Australia ขึ้นโดยความร่วมมือกับ Queens College ในการจัดหลักสูตรและตารางเวลาการเรียนให้มีเวลาว่างมากพอที่จะทำงาน Part time ได้และมี Promotion ค่าเรียนสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ
วัตถุประสงค์
ผู้เข้าร่วมโครงการ
ผู้สนใจร่วมโครงการอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีทักษะภาษาอังกฤษและ คุณวุฒิสอดคล้องตามที่หลักสูตรและสถาบัน ฯ ในโครงการกำหนด
ระยะเวลาการดำเนินโครงการ
เริ่มต้นที่ 24 สัปดาห์ กำหนดวันเปิด – ปิดของแต่ละ หลักสูตร เป็นไปตามที่สถาบัน ฯ ในโครงการกำหนด
สถาบันการศึกษาในโครงการ
หมายเหตุ การเลือกสถาบันขึ้นอยู่กับเมืองที่นักเรียนต้องการไปเรียน
รายละเอียดของโครงการ
ภาษาอังกฤษ : General English เรียน 4 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์ – พฤหัสบดี)
วิชาชีพ : Certificate, Diploma, Advanced Diploma เรียน 1วัน ต่อสัปดาห์
รายละเอียด ค่าใช้จ่าย ระยะเวลาเรียนกำหนดวันเริ่มเรียน – วันจบหลักสูตร การสมัครยื่นขอวีซ่านักเรียน การรับที่สนามบิน ที่พัก และ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง บริษัท ฯ จะนำเสนอเป็นแต่ละกรณีหลังจากผู้สนใจติดต่อสอบถามและให้ข้อมูลประกอบแล้ว
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
สนใจติดต่อ
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
โทร 077 287 111, 08 5791 9111
E-mail: [email protected]
Line ID: Somnoek
เมื่อคุณเรียนภาษาอังกฤษที่ Columbia West College คุณไม่ได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนเท่านั้น แต่คุณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา Columbia West College ได้ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนให้นักเรียนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของพวกเขาเป็นเวลาเกือบ 20 ปีมาแล้ว
ทางสถาบันของเราได้รับการรับรองโดย Accrediting Council For Continuing Education & Training (ACCET) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการรับรองวิทยฐานะระดับประเทศ ได้รับการยอมรับจากองค์กรการศึกษา The California Bureau for Private Postsecondary Education (BPPE) และได้รับการรับรองจาก SEVIS ทางสถาบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม ผู้สอนที่ทรงคุณวุฒิ เจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเสมอ การบริการนักเรียนที่ดีเยี่ยม มีสถาบันการศึกษาต่อที่เป็นพันธมิตรกับเรามากมาย มีนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติและมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณกำลังมองหาในโรงเรียนสอนภาษา
นอกจากนี้ทางสถาบันของเรายังตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางไปยังสถานทีสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็น Hollywood ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาที 20 นาทีจาก Beverly Hills สามารถไปเที่ยวชมวิวทะเลที่ Santa Monica ภายใน 30 นาทีและสามารถไปเล่นสกีหรือ สโนว์บอร์ดที่ Big Bear โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง สิ่งที่ Columbia West College แตกต่างจากสถาบันอื่น ๆ คือความรับผิดชอบต่อความสำเร็จของคุณ ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นการได้ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้น เข้ามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาหรือแค่เพื่อพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วก็ตาม พวกเราต้องการช่วยเหลือคุณในทุกย่างก้าวจนไปถึงเป้าหมายที่คุณได้ตั้งเอาไว้ เดินทางมาสัมผัสลอสเองเจริส แคลิฟอร์เนียเมืองแห่งแสงแดด มาเรียนที่ Columbia West College สถาบันที่เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่งของคุณ
Why Choose CWC ?
Program
Activities
Columbia West College มีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมายเตรียมไว้ให้นักเรียนทุกเดือน โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน กิจกรรมที่ผ่านมาประกอบด้วย การโยนโบว์ลิ่ง ไปเที่ยวทะเล เล่นสเก็ตน้ำแข็ง ดูภาพยนตร์ ไปชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ The natural History Museum, The Museum of Tolerance, Olvera Street, Downtown LA’s Artwalk กิจกรรมรับประทานอาหารร่วมกันทุกเดือนและไปเที่ยวที่ Yosemite และ San Francisco
Student Services
Columbia West College มีบริการสำหรับนักเรียนดังต่อไปนี้
หลักสูตรระยะยาว
ศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยโดยหลักสูตรระยะยาวจาก CWC ด้วยคุณภาพการเรียนการสอนของ CWC นักเรียนจะสามารถเลือกเข้าเรียนกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรหลังจากสำเร็จการศึกษา โดยไม่ต้องอาศัยคะแนน TOELE/IELTS
หลักสูตร 4 ปี นักเรียนสามารถเข้าศึกษาในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลังจากสำเร็จการศึกษาจาก CWC ในระดับ 5 หรือ 6
หลักสูตร 2 ปี นักเรียนสามารถเข้าศึกษาในวิทยาลัยหลังจากสำเร็จการศึกษาจาก CWC ในระดับ 5 หรือ 6
ESL + Hospitality and Tourism Management
Certificate + Paid Internship Program
เรียนภาษาอังกฤษพร้อมได้ใบรับรองในหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ และ ประสบการณ์ในการฝึกงาน 12 เดือน
อย่าพลาดกับโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อความก้าวหน้าในสาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ นักเรียนสามารถเข้าเรียนคอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน (ELS) ที่ Columbia West College ในมหานครลอสแองเจอลิสและศึกษาต่อในสาขาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ (Hospitality and Tourism Management) ที่ Vatel/CIBU ที่เมืองซานดิเอโก ทั้งยังได้ฝึกงานในสาขาอาชีพในฝันอีกด้วย
*สำหรับใบรับรองคอร์ส ESL และใบรับรองสาขา Hospitality and Tourism Management จะได้รับเมื่อสำเร็จการศึกษาจากสถาบันนั้น ๆ เท่านั้น
ตารางเรียน
ค่าธรรมเนียม CWC
ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเรียนสามารถดูรายละเอียดได้ในตารางค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียม Vatel/CIBU : $11,750
วันเริ่มต้นหลักสูตรในปี 2558 และ 2559
เกี่ยวกับ CWC
CWC ตั้งอยู่ในนครลอจแองเจลิส มีความโดดเด่นในด้านการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมีคุณครูที่มีประสบการณ์และความทุ่มเท มีบุคลากรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน มีนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ CWC มีความร่วมมือที่ดีกับสถาบันการศึกษาขั้นสูงหลายแห่ง และ มีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่คุณกำลังมองหาในโรงเรียนสอนภาษา ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอย่างไร เรามีความยินดีที่จะสนับสนุนเพื่อให้คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จ
เกี่ยวกับ Vatel/CIBU
Vatel เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำในสาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการกับอีก 30 โรงเรียนทั่วโลก CIBU เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยธุรกิจเอกชนไม่กี่แห่งที่ได้รับการรับรองระดับชาติในสหรัฐอเมริกา เป้าหมายของมหาวิทยาลัยคือการสร้างบัณฑิตด้านการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Vatel/CIBU มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในด้านการเรียนการสอน มีความร่วมมือที่ดีกับผู้นำในอุตสาหกรรมการบริการ สั่งสมประสบการณ์มากมายเพื่อเป็นที่ประจักษ์ในนานาชาติ
ผลประโยชน์จากโครงการ
ขั้นตอน การเข้าร่วมโครงการเรียนภาษาอังกฤษพร้อมได้ใบรับรองในหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ และได้รับประสบการณ์ในการฝึกงานนั้นไม่ยากเพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
บรรยากาศห้องเรียน และ กิจกรรม
คลิปนักเรียนไทยที่เรียน ณ สถาบัน Columbia West College
การลงนามข้อตกลงความร่วมมือ
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com
ข่าว การสัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุ อสมท.
อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ ทางสถานีวิทยุ อสมท.สุราษฎร์ธานี (MCOT RADIO 102 MHz ) ในรายการ “ CEO Talk ” เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2559 เวลา 13.15-14.15 น. เกี่ยวกับการดำเนินงาน โครงการค้นหาพรสวรรค์เพื่อการเลือกแนวทางการศึกษาต่อและการทำงาน และโครงการค่ายวิชาการประเทศสิงคโปร์ 2016 โดยคุณธัชมาศ ทิพย์ทอง เป็นผู้ดำเนินรายการ
(ฟังรายการสัมภาษณ์ย้อนหลัง คลิกที่นี่)
เมื่อวันที่ 19-20 ธันวาคม 2558 อาจารย์สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดยความร่วมมือจาก คุณธนพงษ์ ขวัญคง ผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตวิทยา ได้เปิดบริการให้คำปรึกษา ทดสอบ และประเมินด้านความถนัด และบุคลิกภาพเพื่อเป็นแนวทางการวางแผนการศึกษาต่อและการทำงาน ตามโครงการค้นหาพรสวรรค์เพื่อการเลือกแนวทางการศึกษาต่อและการทำงาน
ทั้งนี้เพราะการศึกษาเป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ ไม่เฉพาะการลงทุนเรื่องการเงินเท่านั้นแต่รวมถึงการลงทุนด้วยเวลาในชีวิตซึ่งหากผิดพลาดแล้วไม่สามารถชดเชยหรือทดแทนได้ และข้อมูลจากการวิจัยทั่วโลกยืนยันตรงกันว่าการศึกษาและการทำงานที่ดีที่สุดคือการทำในสิ่งที่ตรงกับตัวตนของตนเอง ไม่ใช่การทำในสิ่งที่ได้รับความนิยมสูง บริษัทฯจึงเห็นว่าการสำรวจตัวเองอย่างถี่ถ้วนเป็นสิ่งที่ควรกระทำก่อนการเลือกเป้าหมายทางการศึกษาหรือการทำงาน ในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากนักเรียน และ ผู้ปกครอง เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก
สนใจเข้าร่วมโครงการครั้งต่อไป โทร.077 287111 , 08 5791 9111
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sjworldedu.com/home-course/talent-discovery/
สิงคโปร์ เกาะที่มีขนาดเล็กกว่า กรุงเทพมหานคร ใหญ่กว่าจังหวัดภูเก็ตเล็กน้อย แต่ประเทศสิงคโปร์เขาสามารถสร้างตัวจนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ได้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และที่สำคัญสิงคโปร์ครองแชมป์อันดับ 1 ด้านการศึกษาในอาเซียน โดยการจัดอันดับคุณภาพการศึกษาของ World Economic Forum (WEF) The Global Information Technology Report 2013 นอกจากนั้น เครือข่ายมหาวิทยาลัยโลก ( Universitas 21 ) เผยผลการจัดอันดับประเทศที่มีการจัดคุณภาพการศึกษาชั้นสูงได้ดีทั้ง 48 ประเทศ ซึ่งวัดจากหลายด้านทั้งการวิจัย บรรยากาศในการเรียนการสอน ผลผลิตทางการศึกษา และ ครอบคลุมถึงความแตกต่างด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยอันดับ 1 ของเอเชียคือ สิงคโปร์ และ ติดอันดับที่ 11 จากจำนวนการจัดอันดับทั้งหมด 48 ประเทศ
ผมได้มีโอกาสจัดโครงการค่ายวิทยาศาสตร์ ณ ประเทศสิงคโปร์ (Singapore Science Camp) เพื่อสร้างโอกาสที่ดีให้กับนักเรียนไทยในระดับมัธยมศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้รับประสบการณ์ตรงจากห้องเรียน ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์แบบร่วมชั้นเรียน (Join Class) กับนักเรียนในประเทศสิงคโปร์ ตามหลักสูตรและการจัดการศึกษาของสิงคโปร์ เรียนรู้วิชาการ การใช้ภาษาอังกฤษทั้งในการเรียนการสอน และ ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายจากการเรียนและการทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอดระยะเวลาของโครงการ โดยในการจัดโครงการครั้งนี้ ผมได้เลือกสถาบันการศึกษาในประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ Shelton College International รายละเอียดของสถาบันชมได้ที่ https://www.sjworldedu.com/country/singapore/shelton-college/)
ดังนั้นเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการจัดโครงการครั้งนี้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง และ ผู้ที่สนใจ ทั้งผู้ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ และผู้ที่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการ ได้มองเห็นโอกาส ประโยชน์ และภาพรวมของการเรียนและกิจกรรมของโครงการผ่านทางประมวลภาพกิจกรรม ดังต่อไปนี้
รูปที่ 1 ผู้ปกครองและนักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ
กล่าวได้ว่าทุกขั้นตอนคือการเรียนรู้ กว่าจะถึงวันเดินทาง ออกจากเมืองไทย ไปยังประเทศสิงคโปร์ ผู้เข้าร่วมโครงการย่อมจะศึกษารายละเอียดของโครงการ การเตรียมตัวก่อนเดินทาง การวางแผน การใช้เงิน การจัดกระเป๋า และเอกสารต่าง ๆ รวมไปถึงเริ่มคำนึงถึง ภาษาอังกฤษที่ตัวเองจะต้องใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในระหว่างเดินทาง
รูปที่ 2 การกรอกข้อมูลในใบตรวจคนเข้าเมือง
เรียนรู้ และ ฝึกทักษะจากสถานการณ์จริงในการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ เพราะทุกคนจะต้องอ่านและเขียนข้อมูลด้วยตัวเองทั้งด้านประเทศไทย และ ประเทศสิงคโปร์โดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งสิ้น
รูปที่ 3 บริการรับส่งสนามบิน (Airport Pickup)
เมื่อเดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติชางฮี (Changi International Airport) ผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่านเข้าสู่ขั้นตอนของพิธีศุลกากรและการตรวจคนเข้าเมือง ในขั้นตอนนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักเรียนจะได้ฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษโดยการอ่าน การเขียน แบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง ของประเทศสิงคโปร์ รวมไปถึงทักษะการฟัง การพูด เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น มาจากไหน พักที่ไหน มาทำไม กลับเมื่อไร เหล่านี้เป็นต้น ในสถานการณ์เช่นนี้เอง นักเรียนจะมีโอกาสดึงศักยภาพ หรือ ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองออกมาใช้งาน และให้ประสบการณ์ตรงทำให้นักเรียนเห็นประโยชน์และความจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษ และง่ายต่อการจดจำ เพราะเป็นทักษะที่เกิดจากสถานการณ์จริง จะแตกต่างไปจาก การเรียนแบบสถานการณ์จำลองในห้องเรียน จากนั้นนักเรียนก็จะหาช่องทางเพื่อเดินทางไปยังจุดนัดพบเพื่อรอการบริการรับส่งที่สนามบิน (Airport Pickup)
รูปที่ 4 ปฐมนิเทศ (Orientation)
เมื่อเดินทางไปถึง Shelton College International เข้าสู่ขั้นตอนการปฐมนิเทศโดยเจ้าหน้าที่ของ Shelton College International เป็นผู้บรรยาย ต้อนรับ และแนะนำรายละเอียด การปฏิบัติตน การนัดหมาย กิจกรรมต่าง ๆ ในการเข้าพักในที่พักและกิจกรรมของโครงการ หลังจากฟังการบรรยายแล้ว นักเรียนก็ได้อ่านเอกสารเพื่อทำความเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัว ลงนามรับทราบเงื่อนไข วิธีปฏิบัติตนตามระเบียบปฏิบัติของสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ดังนั้นประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษจากากรเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นตามลำดับ
รูปที่ 5 ผู้เข้าร่วมโครงการเยี่ยมชมสถานที่เรียน Shelton College International
รูปที่ 6 เปลี่ยน SIM Card โทรศัพท์ และ สำรวจตลาด
ผ่านขั้นตอนการปฐมนิเทศ การเยี่ยมชม ทำความรู้จักสถานที่เรียน ห้องพัก เก็บสัมภาระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่จะเรียนรู้วิถีชีวิตภายนอกสถาบันการศึกษาบ้างแล้ว เริ่มต้นจากการเดินสำรวจตลาดที่อยู่ใกล้ที่พักมากที่สุดก่อน วัตถุประสงค์ก็คือการเปลี่ยน SIM Card โทรศัพท์ เพื่อใช้เลขหมายโทรศัพท์ที่เปิดใช้ หรือลงทะเบียนเลขหมายในประเทศสิงคโปร์ จะได้ติดต่อกลับประเทศไทยได้สะดวก และราคาค่าโทรศัพท์ไม่สูง จากนั้นก็ซื้อ MRT Card สำหรับใช้เป็นค่าโดยสารสำหรับบริการขนส่งมวลชน ไปยังแหล่งท่องเที่ยว แหล่งช๊อปปิ้ง จุดต่าง ๆ ของสิงคโปร์ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ร้านสะดวกซื้อ และศูนย์อาหาร เพื่อซื้อหาอาหารและของใช้ส่วนตัว และนี่แหละครับที่บอกว่า การเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม ภาษา จากการเดินทาง
รูปที่ 7 เตรียมพร้อมก่อนการเรียนร่วมชั้นกับนักเรียนสิงคโปร์
วันแรกของการเรียน ซึ่งจะมีการร่วมชั้นกับนักเรียนสิงคโปร์ ผม จึงได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนักเรียนในการปรับตัว ความรับผิดชอบต่อตัวเอง การมีวินัย การตรงต่อเวลา และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของห้องเรียน แนะนำให้นักเรียนให้ความสำคัญและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการร่วมชั้นเรียนกับเพื่อนร่วมห้องเรียน ซึ่งจะเป็นโอกาสทองของนักเรียนได้เรียนรู้ระบบกาเรียนการสอน ใช้ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ และเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายในการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ที่สำคัญนักเรียนต้องตระหนัก พวกเราคือนักเรียนไทยต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของเราไว้ด้วยเพื่อชื่อเสียงของประเทศและเป็นประโยชน์ต่อการจัดโครงการลักษณะนี้ในรุ่นต่อไปด้วย
รูปที่ 8 บรรยากาศการเรียนร่วมชั้นในวิชาภาค ทฤษฏี
รูปที่ 9 บรรยกาศการเรียนร่วมชั้น ห้องทดลองวิทยาศาสตร์
รูปที่ 10 การเยี่ยมชมห้องเรียนวิชาฟิสิกส์
จากการเยี่ยมชมห้องเรียนร่วมกันระหว่างนักเรียนไทยในโครงการค่ายวิทยาศาสตร์กับนักเรียนประจำสิงคโปร์ ของ Shelton College International ทราบว่ามีการปรับตัวช่วยเหลือกันดี อาจารย์ผู้สอนได้จัดให้นักเรียนไทยและสิงคโปร์จับคู่บัดดี้กัน บรรยากาศในห้องเรียนจึงเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน นักเรียนไทยได้รับการชื่นชมในความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ส่งการบ้านตามที่ผู้สอนมอบหมายเป้นอย่างดี
อีกอย่างหนึ่งที่ผมประทับใจมากคือ Shelton College International จัดให้มี Night Class คือห้องเรียนกลางคืน โดยใช้เวลาช่วง หลังเลิกเรียนวันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 19.00 น. – 21.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มาทบทวนบทเรียนด้วยกัน ทำการบ้านด้วยกัน มีอาจารย์มาให้คำแนะนำ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สอดคล้องกับคำขวัญของโรงเรียน “At Shelton nobody get leave behind” หมายถึง “ที่เชลตัล ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
รูปที่ 11 พักผ่อน ออกกำลังกาย Henderson Waves Bridge
รูปที่ 12 ปิคนิกที่ Henderson Waves Bridge
รูปที่ 13 เดินทาง City Tour China town and Bugis
รูปที่ 14 (14 .1-14.2) ลิ้มรสบัคกุ๊ดเต๋ อาหารอร่อยของสิงคโปร์
รูปที่ 15 Shopping ย่าน Bugis
รูปที่ 16 เยี่ยมชม Newater
รูปที่ 17 กิจกรรมที่ Newater
รูปที่ 18 เยี่ยมชม Science Center
รูปที่ 19 กิจกรรม Science Center
รูปที่ 20 (20.1-20.3 ) เที่ยวสวนสนุก Universal Studio
รูปที่ 21 ก่อนกลับจาก Universal Studio
รูปที่ 22 ชม Wings of time Show at Sentosa
รูปที่ 23 สนุกสนานกับ Wings of time Show at Sentosa
รูปที่ 24 (24.1-24.7 ) บรรยากาศ Thank you Party
รูปที่ 25 (25.1-25.6) นักเรียนกล่าวความรู้สึก
รูปที่ 26 (26.1-26.3) อาจารย์ผู้สอน กล่าวความรู้สึก
รูปที่ 27 (27 .1- 27.4) ผู้เข้าร่วมโครงการรับ Certificate
รูปที่ 28 (28.1-28.6) จบโครงการ ด้วยรักและผูกพัน
Clip VDO 1 จบโครงการ ด้วยรักและผูกพัน
Clip VDO 2 ความประทับใจของผู้เข้าร่วมโครงการ Singapore Science Camp
การเข้าร่วมโครงการ Singapore Science Camp หรือค่ายวิทยาศาสตร์ สิงคโปร์แบบร่วมชั้นเรียนถือเป็นโอกาสทองของนักเรียนไทย เพราะได้ประสบการณ์การเรียนวิทยาศาสตร์ และเสริมด้วยวิชาการอื่นเช่นภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และ บัญชี เป็นการ เรียนด้วยภาษาอังกฤษ ในห้องเรียนและห้องทดลองวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนนานาชาติ Shelton College International ผู้สอนจากชาวต่างชาติ กับนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ อีกทั้งได้ศึกษาดูงานนอกสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์โดยตรง เช่น Singapore Science Center (ศูนย์วิทยาศาสตร์) Newater (โรงงานผลิตน้ำรีไซร์เคิล) การเดินทางยังแหล่งท่องเที่ยว แหล่ง Shopping ที่สำคัญของสิงคโปร์ ได้รับประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในต่างประเทศเรียนรู้วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และเทคโนโลยีที่หลากหลายของประเทศสิงคโปร์ มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมทั้งการมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันในสถานการณ์จริง การมีเครือข่ายทางการศึกษากับสถาบันการศึกษาต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับอนาคตทางการศึกษาของนักเรียนในโอกาสต่อไปด้วย
ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
นักเรียน ครู อาสาสมัคร หรือนักท่องเที่ยว จากนานาชาติ ที่กำลังหาที่พักในระหว่างมาศึกษา ทำงาน หรือ ท่องเที่ยว ในประเทศไทย พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอแนะนำครอบครัวที่ให้บริการโฮมสเตย์ ดังนี้
Host Family Homestay : คุณสมนึก ชูสุวรรณ นักธุรกิจ ผู้เป็นเจ้าของ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่างประเทศและเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท มีประสบการณ์การทำงานมากมายไม่ว่าจะเป็น รับราชการ และ เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นอาจารย์ สอนในระดับ วิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย เป็นวิศวกรด้านโทรคมนาคม และเป็นผู้บริหาร ส่วนภรรยาของคุณสมนึก ชูสุวรรณ คือ คุณจุรีรัตน์ ชูสุวรรณ ทำงาน รับราชการ ตำแหน่งพยาบาล
สถานที่ตั้ง : อยู่พื้นที่ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทาง จากสถานีขนส่ง (ตลาดเกษตร) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที การเดินทางสะดวกโดยรถประจำทาง รถแท็กซี่ หรือ รถส่วนตัว สถานที่ใกล้เคียงที่สำคัญ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ห้างสรรพสินค้าสหไทย ตลาดสด (ตลาดหน้าศูนย์) โรงเรียนเทพมิตรศึกษา โรงเรียนธิดาแม่พระ โรงเรียนวมินทร์วิทยา วิทยาลัยเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ศูนย์วิทยบริการสุราษฎร์ธานี และสามารถเดินทางไปยัง สนามบินนานาชาติสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยตาปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี โดยใช้เส้นทางบายพาสเพื่อหลีกเลี่ยง ความคับคั่งของการจราจร และโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงได้แก่ โรงพยาบาลทักษิณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางกุ้ง
สิ่งอำนวยความสะดวก : SJ Homestay เป็นครอบครัวขนาดกลาง เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่พักจะเป็นห้องส่วนตัว รับเฉพาะสุภาพสตรี อายุ 18 ปี ขึ้นไป มีพื้นที่ใช้งานร่วม (Common Area) เช่น ห้องนั่งเล่น มุมพักผ่อน ห้องฟิตเนส ห้องครัว ห้องรับแขก และบริการอินเทอร์เน็ต (ฟรี) อยู่ด้วยความอบอุ่นเสมือนญาติ มีบริเวณบ้าน บรรยากาศร่มรื่นสไตล์รีสอร์ท
สนใจติดต่อ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
โทร.0 7728 7111 , 08 5791 9111
Email : [email protected]
บริการอื่น ๆ
นอกจากบริการที่พักแบบโฮมสเตย์แล้ว SJ-Homestay ยังบริการรับ–ส่งที่สนามบิน หรือ ท่าเรือ รวมทั้งการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ การไปศึกษาวิถีชีวิต และวัฒนธรรม ของชุมชน การไป ช็อปปิ้ง หรือ การรับประทานอาหารตามร้านอาหาร ตามที่ผู้เข้าพักสนใจ เป็นต้น
ภาพกิจกรรม บริการอื่นๆ
บริการรับ–ส่ง ที่สนามบิน และท่าเรือ
ชมวิถีชีวิตชาวสวนยาง
ชมการทำเครื่องแกง
ชมเขื่อนรัชประภา
อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา (Phang Nga National Park)
สระมรกต (EMERALD POOL)
เมืองกระบี่
สนามฟุตบอลน้ำ (Foating Fottbal)
ทัวร์ช้าง (Elephant Trekking)
รีสอร์ท อำเภอ ขนอม
เกาะแรต
ร้านอาหารครัวนางกำ
สนใจติดต่อ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
โทร.0 7728 7111 , 08 5791 9111
Email : [email protected]
ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษมีการพัฒนามากกว่าร้อยปีเพื่อให้ได้มาตรฐานที่ดี การศึกษาภาคบังคับในประเทศอังกฤษเริ่มตั้งแต่อายุ 5 – 16 ปี ระบบการศึกษาแบ่งออกเป็น 4 ระดับด้วยกันดังนี้
1. ระดับประถม เริ่มตั้งแต่อายุ 5 – 13 ปี โดยการเรียนการสอนในระดับนี้จะเน้นของเรื่องทักษะทางด้านการเขียน และทักษะด้านตัวเลข เพื่อพัฒนาเด็กให้มีความรู้ ความสามารถตามวัย โดยระดับประถมจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือ
1.1 เตรียมประถม (Pre –Preparatory School) รับนักเรียนตั้งแต่อายุ 5 – 7 ปี
1.2 ประถมศึกษา ( Preparatory School) รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 8 – 13 ปี
2. ระดับมัธยมศึกษา เริ่มตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 18 – 19 ปี รวมระยะเวลาศึกษา 5 ปี เรียกว่า Year 9 –Year 13 หรือ Form 3 – Form 6 (สำหรับโรงเรียนที่เรียกระดับชั้นเป็น Form) สำหรับนักเรียนชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์เรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมของเอกชนเท่านั้น นักเรียนทุกคนจะต้องทำการสอบวัดผลความรู้ และ ความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการสมัครเข้าระดับอุดมศึกษาต่อไป ทังนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ และวิทยาศาสตร์ของอังกฤษเป็นผู้กำหนด โดยการสอบจะจัดโดยคณะกรรมาธิการอิสระซึ่งมี 5 คณะ แบ่งการสอบเป็น 2 ประเภทคือ
2.1 GCSE (General Certificate of Secondary Education) การสอบระดับนี้ จะสอบเมื่อนักเรียนมีอายุประมาณ 6 ปีขึ้นไป นักเรียนเลือกสอบประมาณ 6 – 10 วิชาเช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ศิลปะ ฯลฯ และผลการสอบจะแบ่งออกเป็น 7 ระดับ คือ A, B, C, D, E, F, G ผู้ที่สอบได้ เกรด C ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน นักเรียนที่สอบ GCSE ได้แล้ว (อย่างน้อย 5 วิชา) จะต้องเรียนต่ออีก 2 ปีในระดับ A Level (Advanced Level) หรือ The International Baccalaureate (IB) Diploma จึงจะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้
2.2 GCE A Level (GCE Advanced) หรือที่รู้จักในนาม Sixth Form Colleges โดยการสอบระดับนี้จะต้องเรียนก่อนประมาณ 2 ปีและมีการสอบปลายปีในแต่ละปีการศึกษา A Level เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถทางวิชาการของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีวิชาให้เลือก 50 กว่าวิชา ส่วนใหญ่นักเรียนจะเลือกเพียง 2 – 4 วิชา ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร หรือ สาขาที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี โดยผลสอบ A Level จะมีด้วยกัน 5 ระดับ คือ A, B, C, D, E เกรดที่ได้ทั้ง 5 ระดับ ถือว่าผ่านหมด แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่พิจารณารับผู้ที่มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป บางแห่งอาจรับเฉพาะผู้ที่ได้เกรด A และ B
2.3 IB (The International of Baccalaureate (IB) Diploma) เป็นประกาศนียบัตรทางด้านวิชาการระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอายุระหว่าง 16 – 19 ปี ให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในทุกประเทศ หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเข้มข้นใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี จะประกอบไปด้วย 6 วิชาหลัก ๆ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาที่สอง(อาจเลือกเรียนภาษาตนเองก็ได้) วิทยาศาสตร์เชิงทดลอง ศิลปะ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน กิจกรรมกีฬา และงานสร้างสรรค์ทางศิลปะอีกด้วย แก่นของหลักสูตรนี้สามารถแบ่งออกได้ 3 องค์ประกอบใหญ่ ๆ ได้แก่
2.3.1 การเขียนเรียงความอย่างมีประสิทธิภาพ – จะมีการสอยเขียนเรียงความมากถึง 4,000 คำต่อ หนึ่งเรื่อง ในหัวข้อที่นักเรียนสนใจ
2.3.2 ทฤษฎีการเรียนรู้ –ประยุกต์ใช้ปรัชญาความเข้าใจ และธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียนเข้าไปในหลักสูตรและบทเรียน
2.3.3 ความคิดสร้างสรรค์ การลงมือทำ และการให้บริการ – ได้ถูกบรรจุอยู่ในชั้นเรียนต่าง ๆ ในหลักสูตร อาทิเช่น ศิลปะ กีฬา และอาสาพัฒนาชุมชน
นักเรียนจะเลือกเรียนหนึ่งวิชาจากแต่ละกลุ่มวิชา รวมเป็น 6 วิชา โดยปกติ 3 วิชาจะอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่าอีก 3 วิชา ซึ่งจะเรียนในระดับมาตรฐาน หลักการเรียนรู้ทั้ง 3 ส่วน เป็นภาคบังคับของหลักสูตร และเป็นหลักปรัชญาของหลักสูตรนี้
3. ระดับอาชีวศึกษา(Further Education)
เป็นการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งไม่ประสงค์จะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา หรือผู้ที่ไม่มีคุณวุฒิ GCSE แต่ประสงค์จะมีคุณวุฒิทางวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ สถาบันการศึกษาด้านอาชีวศึกษานี้มีทั้งของรัฐบาลและของเอกชน
3.1 สถาบันอาชีวศึกษาของรัฐบาล
มีประมาณ 500 แห่ง เปิดสอนหลักสูตรต่าง ๆ ได้แก่ บริหารธุรกิจ การโรงแรม การเกษตร วิศวกรรม ช่างเทคนิค ฯลฯ
3.1.1 Higher National Certificate / Diploma (HNC/HND) เป็นการศึกษาในระดับสูงสุดของอาชีวศึกษา หลักสูตร 2 ปี ซึ่งถือว่าระดับนี้เป็นการศึกษาในระดับอุดมศึกษาด้วยเช่นกัน ผู้ที่จบหลักสูตรนี้ถือว่าได้มีคุณวุฒิสูงกว่าอนุปริญญาของไทย แต่ต่ำกว่าปริญญาตรี 1 ชั้น นอกจากนี้หากประสงค์จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีก็สามารถทำได้โดยใช้เวลาศึกษาต่ออีก 2 ปี แต่ทังนี้ผลการเรียนต้องอยู่ในระดับดี
3.1.2 National Vocational Qualification (NVQ) หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรสายอาชีพ เป็นการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติร่วมกัน แต่เน้นภาคปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้รับการฝึกฝนและมีความพร้อมก่อนที่จะออกไปประกอบอาชีพจริง
3.2 สถาบันอาชีวศึกษาของเอกชน
ควรเลือกสถานศึกษาเอกชนที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจาก The British Accredition council for Further and Higher Education (BAC) ซึ่งเป็นหลักประกันว่าเป็นสถาบันที่มีการเรียนการสอนที่เชื่อถือได้ สำหรับวุฒิการศึกษาที่ได้รับ จะได้เพียงประกาศนียบัตรเท่านั้นและยังมีหลักสูตร Foundation degree เป็นหลักสูตรการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อเตรียมความรู้ในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียน 1 ปี
4.ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)
การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรมีประมาณ 96 แห่ง เป็นของรัฐเกือบทั้งหมด ยกเว้น University of Buckingham ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียว แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ
Undergraduate
BTEC HNC/HND หรือ Diploma of Higher Education (Dip. HE)
เป็นหลักสูตร 2 ปี ส่วนใหญ่จะเปิดสอนอยู่ใน College of Higher Education โดยมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับเปิดรับผู้สอบ “A” Level อย่างน้อย 1 วิชา หรือสำเร็จการศึกษาระดับ National Diploma การสมัครเข้าศึกษาต่อนั้นต้องสมัครผ่าน UCAS เช่นเดียวกับในระดับปริญญาตรี
First Degree (Bachelor Degree)
เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี) ทันตแพทย์ (5 ปี) สัตวแพทย์ (5 ปี) แพทย์ (6 ปี)
Post – Graduate
Post – Graduate Certificate Diploma
หลักสูตรการศึกษา 9 เดือนถึง 1 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเข้าศึกษาต่อ
Master Degree
หลักสูตรการศึกษา 1-2 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนดี
Doctoral Degree
หลักสูตรการทำวิจัย ใช้เวลาในการศึกษา 3 ปี มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร M. Phil
การศึกษาระดับปริญญาโท
การศึกษาระดับปริญญาโทในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) มุ่งให้ความสำคัญกับการทำวิจัยเป็นหลัก และเตรียมความพร้อมของนักศึกษาให้พร้อมสำหรับการทำงาน หรือศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก โดยมีสาขาวิชาต่างๆ ให้เลือกหลากหลาย
นักศึกษาจะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี
ใช้ระยะเวลาศึกษา 1 ปี
หลักสูตรระดับปริญญาโทที่เปิดสอนได้แก่ ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (Master’s of Arts), วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (Master’s of Science) และบริหารธุรกิจ (Master of Business Administration)
หลักสูตรระดับปริญญาโทที่เน้นการวิจัย ได้แก่ การวิจัย (Master of Research), ปรัชญา (Master of Philosophy)
กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของการศึกษาในระดับนี้คือการเตรียมพร้อมที่ดีก่อนเข้าศึกษา ด้วยหลักสูตรเตรียมความพร้อม MBA และปริญญาโท
การศึกษาระดับปริญญาเอก
การศึกษาระดับปริญญาเอกให้ความสำคัญกับการทำวิจัยเป็นหลัก
จบการศึกษาขั้นต่ำในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท
ใช้ระยะเวลาศึกษาอย่างน้อย 3 ปี
นักศึกษาจะต้องทำโครงการวิจัย 1 โครงการ หรือปริญญานิพนธ์
คุณวุฒิที่ได้คือ ดุษฎีบัณฑิต (Phd, Dphil)
ระบบการศึกษาในสหราชอาณาจักรแบ่งได้เป็น 2 ระบบ คือ
ระบบที่ใช้ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในประเทศอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสหราชอาณาจักร เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ มุ่งเน้นเนื้อหาที่เจาะลึกในวิชาที่นักเรียนเลือกเพียงแค่ไม่กี่วิชา
ปีที่ 7- 11 (ปีที่ 8 – 12 ในไอร์แลนด์) สำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 12 – 16 ปี
สำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาบางแห่ง นักเรียนสามารถเลือกที่จะไม่ศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คือปีที่ 12 และ 13 โดยเฉพาะเมื่อจบการศึกษาในปีที่ 10 และ ปีที่ 11 นักเรียนจะได้รับประกาศนียบัตร General Certificate of Secondary Education (GCSE) ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นการทดสอบระหว่าง 5 – 10 วิชา จากนั้นก็เรียนต่อ A-Levels
A-Levels (อังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ)
เป็นการศึกษาหลังอายุ 16 ปี เรียกกันโดยทั่วไปว่า A-Levels (General Certificate of Education in Advanced Level certificates) ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยทั่วไป นักเรียนจะเลือกเรียนเพียง 3 หรือ 4 วิชา ซึ่งสอดคล้องกับสาขาวิชาที่จะเลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป
นักเรียนสามารถที่จะศึกษา A-Levels ได้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา, วิทยาลัยที่ให้การศึกษาในชั้นปีที่ 12-13 โดยเฉพาะ (Sixth Form College) หรือ วิทยาลัยที่ให้การศึกษาขั้นสูงอื่นๆ
ระดับปริญญาตรี (อังกฤษ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ)
นักเรียนที่สมัครเรียนมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร จะต้องสมัครผ่าน University and College Admissions Service (UCAS) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางของรัฐบาลที่มีหน้าที่ประสานความร่วมมือกับทุกมหาวิทยาลัย นักเรียนสามารถเลือกได้ 5 สาขาวิชาจากแบบฟอร์มของ UCAS โดยมีหลักสูตรให้เลือกมากมาย ซึ่งช่วยสร้างทักษะสำหรับการทำงานที่หลากหลายหรือเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อได้เป็นอย่างดี โดยการศึกษาระดับปริญญาตรีจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 3 ปีในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย ในขั้นตอนการรับเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยจะใช้คะแนนสอบ A-Level (หรือเทียบเท่า) ของนักศึกษา เป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษา นักศึกษาจะต้องเลือกหลักสูตรที่ต้องการจะเรียนในขั้นตอนการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย
คุณวุฒิแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ศิลปศาสตร์บัณฑิต Bachelor of Arts (BA) และวิทยาศาสตร์บัณฑิต Bachelor of Science (BSc) บางหลักสูตรจะใช้เวลาศึกษาถึง 4 ปี ซึ่งจะรวม 1 ปีที่นักศึกษาจะต้องสลับไปทำงานที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เลือกเรียน ก่อนที่จะกลับมาศึกษาต่อ ในประเทศที่การศึกษาภาคบังคับต่ำกว่า 13 ปี มีแนวโน้มว่านักเรียนจะต้องศึกษาหลักสูตรวิชาพื้นฐาน (Foundation Certificate) อีก 1 ปี ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมความพร้อมการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่สหราชอาณาจักร
ระบบที่ใช้ในสก๊อตแลนด์
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสก๊อตแลนด์
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสก๊อตแลนด์มุ่งเน้นเนื้อหาวิชาที่ครอบคลุมกว่าในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ โดยการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาของสก๊อตแลนด์จะคล้ายกับประเทศไทยคือเรียนจนถึง Secondary 6 หรือมัธยมศึกษาที่ 6 โดยในระบบการศึกษาระดับมัธยมปลายในสก๊อตเมื่อเรียนถึง Secondary 4 นักเรียนจะเรียนต่อมัธยมศึกษาขั้นสูงคือ Secondary 5 หรือ 6 ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นนักเรียนอายุตั้งแต่ 16-17 ปี ถึง 17-18 ปี จะไม่ได้ต่อ A Level เหมือนนักเรียนในอังกฤษ
ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือ ปีที่ 1 –4 สำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 12-13 ปี ถึง 15-16 ปี จะได้รับประกาศนียบัตร Scottish Qualification Certificate เมื่อผ่านการสอบ Standard – Grade courses ในช่วงSecondary 3 หรือ 4 ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นการทดสอบระหว่าง 7 – 9 วิชา
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) (สก๊อตแลนด์)
โดยทั่วไปในสก๊อตแลนด์ นักเรียนจะศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) ซึ่งเป็นประกาศนียบัตรคุณวุฒิการศึกษาของสก๊อตแลนด์ ที่มอบโดย Scottish Qualifications Authority ภายหลังจากที่จบการศึกษาระดับ Secondary 4 การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้ามหาวิทยาลัย โดยมีวิชาให้เลือกเรียนหลากหลายวิชา แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนักเรียนจะสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยภายหลังจากที่จบการศึกษาระดับ Secondary 5 ได้ทันที แต่นักเรียนส่วนใหญ่เลือกที่จะเรียนต่อจนถึง Secondary 6 เพื่อที่จะศึกษาวิชาต่างๆ ในระดับ Higher ได้มากขึ้น หรือศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น (Advanced Higher Level) โดย Secondary 5 และ 6 จะเป็นสำหรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 16/17 ปี ถึง 17/18 ปี นักเรียนสามารถที่จะศึกษา Higher ได้ในโรงเรียนมัธยมและจะต้องผ่านการทดสอบ Standard Grade ก่อนที่จะเข้าเรียน Secondary 5 และ 6
การศึกษาระดับปริญญาตรี (สก๊อตแลนด์)
นักศึกษาสามารถเลือกศึกษาสาขาวิชาที่หลากหลายในมหาวิทยาลัยที่สก๊อตแลนด์ ซึ่งจะเน้นสหวิชา นักศึกษาจะยังไม่ศึกษาวิชาเอกจนกระทั่งปีที่ 3
การศึกษาระดับปริญญาตรีจะใช้ระยะเวลา 4 ปี
ในขั้นตอนการรับเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยจะใช้คะแนนสอบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Higher) ของนักศึกษาเป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษา
นักศึกษาอาจเลือกหลักสูตรที่คั่นด้วยการไปเรียนที่ต่างประเทศ หรือทำงานเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะกลับมาศึกษาต่อ
โดยปกติ มหาวิทยาลัยในสก๊อตแลนด์จะถือว่าคุณวุฒิศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (Master of Arts) จะเทียบเท่าระดับปริญญาตรี
นักศึกษาจะได้รับ Honours Degree เมื่อศึกษาต่อเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการทำวิจัยอีก 1 ปี
นักศึกษาต่างชาติ
สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่สนใจศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักร แต่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก จำเป็นต้องยื่นหลักฐานการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะกำหนดว่าผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีจะต้องมีคะแนน IELTS (International Language Testing System) อย่างต่ำในระดับ 6.0 + และระดับ 6.5+ สำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท
นอกจากความสามารถในการใช้ภาษา นักศึกษาจะต้องตรวจสอบว่าคุณสมบัติของตนสอดคล้องกับข้อกำหนดการรับเข้าศึกษาของมหาวิทยาลัยหรือไม่ ซึ่ง UK NARIC จะให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ โดยทั่วไป นักศึกษาต่างชาติที่ยังขาดคุณสมบัติในการเข้าศึกษาต่อจะต้องศึกษาวิชาพื้นฐาน ก่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
นักศึกษาต่างชาติที่ความสามารถและทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ รวมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ ไม่เป็นไปตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดอาจจะต้องศึกษาหลักสูตรเตรียมความพร้อม Pre-Master’s ก่อนที่จะเริ่มศึกษาระดับปริญญาโท
แผนผังแสดงระดับการศึกษาของประเทศอังกฤษ
Holmesglen เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาโพลีเทคนิคที่ใหญ่ที่สุดในรัฐวิกตอเรีย ให้บริการการศึกษาสายอาชีพและการศึกษาระดับสูง เสนอหลักสูตรมากกว่า 600 โปรแกรม ผ่านวิทยาเขตหลักของ Holmesglen อย่าง Chadstone, City, Waverley และ Moorabbin Campuses โดยแต่ละวิทยาเขตตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก
การเรียนที่ Holmesglen ไม่เพียงเกี่ยวกับคุณวุฒิที่ดึงดูด ยังเกี่ยวกับการให้ความมั่นใจและทักษะในการทำงานที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว คุณจะได้เรียนรู้การทำงานในโลกของความเป็นจริง หรือ ฝึกฝนในสถานการณ์จำลองของสภาพแวดล้อมการทำงานจากครูผู้มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรม
เส้นทางการศึกษาสู่ระดับปริญญา
Holmesglen มีระดับการศึกษาที่หลากหลายเส้นทางโอกาศให้คุณมีตัวเลือกมากมายสำหรับการศึกษาต่อในการศึกษาโพลีเทคนิค
การศึกษาสายอาชีพของคุณ
เส้นทางประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (Diploma) สู่การศึกษาระดับปริญญา ให้นักเรียนของเรากับการฝึกฝน
ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน ในขณะที่ยังเรียนมีสิทธิ์ได้รับการรับประกันการเข้าเรียนต่อหนึ่งในหลักสูตรระดับปริญญาที่มีมากมายของเราหลักสูตรปริญญาที่มีความน่าเชื่อถือ
ทำไมต้องศึกษาระดับปริญญาที่ Holmesglen
ที่ Holmesglen เราคิดแตกต่างกันเกี่ยวกับการศึกษาระดับสูง กับประสบการณ์กว่า 30 ปีในการพัฒนาและการส่งมอบการศึกษาที่พร้อมทำงาน หลักสูตรปริญญาของHolmesglen มีหลากหลายหลักสูตร ที่ได้รับการออกแบบที่รวมมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับ มีทักษะในการทำงานจริง จึงมั่นใจได้ว่าผลการจ้างงานดีเยี่ยม
Holmesglen ยังมีจำนวนของหลักสูตรปริญญาในความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแคนเบอร์รา (UC) และ Charles Sturt University (CSU) นี่จะช่วยให้คุณมีโอกาสที่จะศึกษาต่อระดับปริญญา ใน UC หรือ CSU ในเมลเบิร์น เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นของ Holmesglen และบริการสนับสนุน ชั้นเรียนขนาดเล็ก และ รูปแบบการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฝึกฝน และงานที่เจาะจง
หลักสูตรปริญญา Holmesglen:
• Accounting
• Administration
• Building Surveying
• Construction Management and Economics
• Early Childhood Education
• Landscape Design
• Nursing
• Sports Media
University of Canberra:
• Executive Administration
• Commerce
• Fashion
• Hospitality Management
• Information Technology
• Justice Studies
• Marketing
• Screen Production
• Sports Management
Charles Sturt University:
• Oral Health
การศึกษาในอนาคต
Holmesglen แนะนำ Master of Professional Accounting (MPA) ที่วิทยาเขต City MPA ที่ Holmesglen ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านบัญชีได้มีโอกาสที่จะพัฒนาความเข้าใจในเรื่องของการบัญชี เศรษฐศาสตร์ การจัดการและ วิชาที่เกี่ยวข้อง MPA เหมาะสำหรับนักเรียนที่สนใจในการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพหรือการขยายตัวเลือกในสาขาที่มีอยู่
Holmesglen มีวิธีเรียนอย่างไร
คุณสามารถก้าวกระโดดสู่การเริ่มต้นอนาคต Holmesglen มีการเชื่อมต่อภาคอุตสาหกรรมและการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหลายองค์กร เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม เราให้ ความมั่นใจ ความรู้และทักษะที่จำเป็นไปทำงานในฝันของคุณ แต่ที่สำคัญกว่า เราจะให้คุณสามารถเข้าถึงอุตสาหกรรมอย่างมืออาชีพและทำงานกับนายจ้างที่มีศักยภาพในอนาคต
การช่วยเหลือในอนาคต
คุณจะได้รับคำแนะนำในการเริ่มต้นอนาคตของคุณ เมื่อเสร็จสิ้นการศึกษาที่ Holmesglen คุณจะมีการเข้าสู่บริการการจ้างงานบัณฑิตของเรา บริการนี้ช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาที่ Holmesglen มีความปลอดภัยในการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายในอาชีพของคุณ บริการนี้ยังช่วยให้คุณเปลี่ยนจากชีวิตนักศึกษาไปสู่สภาพแวดล้อมการทำงานโดยรักษาการติดต่อกับคุณและแนะนำให้คุณผ่านวัฒนธรรมในองค์กรที่แตกต่างกันและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาใด ๆ ที่คุณอาจพบเจอในที่ทำงาน
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความสำคัญ
ที่ Holmesglen เราลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีทุกโอกาสที่จะได้รับทักษะที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่คุณที่จำเป็นต่อความสำเร็จในอาชีพของคุณ จุดประสงค์การสร้างพื้นที่การเรียนรู้รวมถึง:
• A simulated early childhood learning centre
• A dedicated health precinct with nursing wards and simulation centre
• A fitness centre
• A wellness clinic
• Student training restaurant
• Fashion studios
• A green-screen room for film and photography
• TV and radio studios
• A plant nursery and glasshouse
• 25,000 square meters of simulated trade workspaces
Home away from Home
เมื่อคุณเลือกที่จะเรียนที่ Holmesglen คุณมีตัวเลือกที่จะพักอยู่ที่ Holmesglen Institute House ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย Holmesglen Institute House มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีอุปกรณ์ให้อย่างครบครัน มีความปลอดภัย และ สภาพแวดล้อมทางสังคมนักเรียนต่างชาติ สามารถแทรกตัวและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บริการรับที่สนามบินฟรีและไปส่ง Holmesglen Institute House
ที่มา : Prospectus Holmesglen 2015 Page.3
พันธมิตรของ Holmesglen
Holmesglen มีความมั่นใจ 100 % ในการให้การช่วยเหลือและสนับสนุนนักเรียนให้บรรลุเป้าหมายในการศึกษา เรามีการพัฒนาความร่วมมืออย่างต่อเนื่องที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียนในการตัดสินใจเรื่องทางวิชาการและอาชีพที่เหมาะสม ปัจจุบัน Holmesglen มีพันธมิตร คือ
1. University of Canberra (UC)
University of Canberra แบ่งปันวิสัยทัศน์กับ Holmesglen ในการจัดคุณภาพการศึกษาโดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงาน หลักสูตรอุดมศึกษา ของ UC มีความเข้มแข้งในการมุ่งเน้นการฝึกฝนทักษะและสามารถเรียนรู้การทำงานแบบบูรณาการได้ ไม่นานมานี้ UCได้เป็นพันธมิตรกับสถาบัน Holmesglen ในการนำเสนอโอกาสใหม่ ๆ สำหรับนักเรียนที่กำลังมองหาการศึกษาในอนาคต ทั้งหมด 12 หลักสูตรโดยรวมหลักสูตร Bachelor of Commerce และ Bachelor of Information Technology ไว้ด้วย ทุกหลักสูตรปริญญาบัตรของ UC นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อได้ที่ Holmesglen โดยใช้นโยบายและข้อตกลงของ UC
2. Computer Power Institute
Computer Power Institute คือการศึกษา ICT (Information and Communication Technology) และผู้ให้การฝึกอบรบที่มีคุณสมบัติเฉพาะ และบริการจัดหาบัณฑิตสำหรับนายจ้างในประเทศออสเตรเลียเสนอระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (Diploma) ระดับICT ที่ได้รับการรับรองในระดับประเทศ กับการรับรองผู้ผลิตที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอุตสาหกรรม Computer Power Institute เป็นแบรนด์ในเครือของออสเตรเลียที่ได้จัดให้มี ‘Job Ready’ จบการศึกษาไปสู่ตลาด ICT ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 คุณสมบัติ ICT และจัดหางานบัณฑิต กับงานที่น่าตื่นเต้นมากมายและเส้นทางอาชีพในสารสนเทศและ เทคโนโลยีการสื่อสาร (ICT) ในทุกอุตสาหกรรมและทุกทวีป คุณสมบัติ ICT อย่างแท้จริงเป็นตั๋วให้คุณเลือกอาชีพอื่น ๆ ทางเลือกและความคล่องตัวในการทำงานและการรักษาความปลอดภัยที่สูงกว่าเงินเดือนโดยเฉลี่ย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 Computer Power Institute ให้ผู้สำเร็จการศึกษามีทักษะในการทำงานในอาชีพของ ICT ในทุกอุตสาหกรรมและในแต่ละปีมากกว่า 90% ของผู้สำเร็จการศึกษาของเราได้ประสบความสำเร็จ การจ้างงานในอุตสาหกรรม จากบริการด้านไอทีให้แก่ภาคหุ้นส่วน, การผลิต, ค้าปลีก, บริการทางธุรกิจ, สุขภาพ, การศึกษา, การต้อนรับหรือภาคชุมชน คุณสมบัติจาก ICT สถาบันไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ (พันธมิตรกับ Holmesglen) สามารถช่วยในการเปลี่ยนให้คุณเป็นมืออาชีพด้าน ICT
3. Charles Sturt University
Charles Sturt University (CSU) กระตือรือร้นเกี่ยวกับการให้คุณวุฒิที่เตรียมความพร้อมในการสำเร็จการศึกษาสำหรับการประกอบอาชีพที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่า มหาวิทยาลัยของเราจัดอยู่ในอันดับสูงเสมอ สำหรับการจ้างงานนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาแล้วและการสนับสนุนนักศึกษาอย่างดีเยี่ยม ช่วยให้นักศึกษาใช้ประโยชน์จากเวลาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยอย่างสูงสุด Bachelor of Oral Health ของCSU รวมถึงโอกาสการเรียนรู้ในสถานที่ทำงานที่ให้นักเรียนทดลองจริงเกี่ยวกับอาชีพในอนาคตและประสบการณ์ความเสี่ยงของการศึกษาที่สูงขึ้นทั้งในพื้นที่ ระดับภูมิภาคและปริมณฑล CSU มีความสัมพันธ์ที่ดีกับภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐและพนักงานที่มีประสบการณ์ที่จะนำเสนอโอกาสการเรียนรู้ในขณะที่การปฏิบัติเพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาหลักสูตรมีความเกี่ยวข้องและเตรียมความพร้อมให้ผู้จบการศึกษาในอนาคต
4. Headmasters Advanced Academy Training
Headmasters Advanced Academy Training เป็นสถาบันการศึกษาในเมลเบิร์น ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ด้านทำผมและการเสริมความงาม ตั้งอยู่บนถนน Spring Street ใจกลางเมืองเมลเบิร์น (CBD) Headmasters มีความภาคภูมิใจในสิ่งที่สืบทอดกันมาของการผลิตเครื่องประดับที่มีความสามารถบำบัดความงามและผู้จัดการสปาพร้อมสำหรับการจ้างงาน Headmasters ให้นักเรียนมีความสนุกสนานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยความสะดวกมืออาชีพและstate-of –the –art facilities สำหรับนักเรียนที่จะสำเร็จการฝึกอบรม นักเรียนจะได้รับการต้อนรับจากทุกส่วนของโลกและผสมกับนักเรียนในท้องถิ่นที่จะเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ล่าสุด เทคนิคการสร้างนวัตกรรมและจบการศึกษาที่มีทักษะชั้นนำ Headmasters มีชื่อเสียงระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง กับการจ้างงานศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษา และตอนนี้มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศที่แตกต่างกัน Headmasters มีชื่อเสียงในประเทศออสเตรเลียและทั่วโลกในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับรางวัลทางวิชาการ กับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันของนักเรียนจำนวนหลายรางวัล ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึง Salons และ Day Spa ที่มีดีที่สุด ว่าเป็นที่ต้องการของนายจ้างสำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก Headmasters
ที่มา : Prospectus Holmesglen 2015 Page.5
สถานที่ตั้ง มีด้วยกัน 4 วิทยาลัยหลัก และ 2 วิทยาเขตย่อย
วิทยาเขตหลัก
Chadstone
Address: Corner Batesford & Warrigal Roads, Chadstone, Victoria, 3148
City
Address: 332 St Kilda Rd Southbank, Victoria
Waverley
Address: 595 Waverley Road, Glen Waverley, Victoria, 3150
Moorabbin
Address: 488 South Road , Moorabbin, Victoria, 3189
วิทยาเขตย่อย
Bulli Street
Address: 36 Bulli St Moorabbin, Victoria, 3189
Eildon
Address: Moore Rd, Eildon, Victoria
หลักสูตรที่เปิดสอน
1. Arts & Design มีทั้งหมด 6 โปรแกรมหลัก ได้แก่
Animation , Screen And Media
Ceramics
Fashion
Graphic Design
Interior Decoration and Design
Photography
2. Building & Construction มีทั้งหมด 12 โปรแกรมหลัก ได้แก่
Bricklaying & Stonemasonry
Building & Management
Building Design
Building Surveying
Carpentry & Joinery
Electrical
Engineering & Fabrication
Furniture & Upholstery
Glass & Glazing
Painting & Decorating
Plastering & Tiling
Plumbing
3. Business & Finance มีทั้งหมด 8 โปรแกรมหลัก ได้แก่
Accounting & Financial Services
Administration
Management
Advertising & Marketing
Human Resources
International Business
Real Estate
Training & Assessment
4. Education & Training มีทั้งหมด 5 โปรแกรมหลัก ได้แก่
General Education
Teacher Training
Education Support
English as a second Language
Early Childhood Education
5. Computer & IT มีทั้งหมด 3 โปรแกรมหลัก ได้แก่
Networking
Programming
Web & Game Development
6. Fitness & Wellbeing มีทั้งหมด 4โปรแกรมหลัก ได้แก่
Fitness & Recreation
Hair & Beauty
Natural Therapies
Sport
7. Community & Health Sciences มีทั้งหมด 6 โปรแกรมหลัก ได้แก่
Allied Health
Dental
Justice
Nursing
Pathology & Laboratory Testing
Community Services
8. Horticulture & Environment มีทั้งหมด 3 โปรแกรมหลัก ได้แก่
Conservation & Land Management
Floristry
Horticulture
9. Hospitality , Tourism & Event มีทั้งหมด 5 โปรแกรมหลัก ได้แก่
Bakery & Pastry
Cookery
Events
Hospitality
Travel & Tourism
10. Short Courses ได้แก่
Art
Business
Computing
DIY Skills & Construction
Food & Beverage
House & Garden
Languages
Lifestyle
OHS
Online Courses
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected], Line ID: somnoek
Website : https://www.sjworldedu.com
ปริญญาตรี ครุศาสตรอุตสาหกรรมบัณฑิต (สาขาวิศวกรรมโทรคมนาคม)
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง
ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (สาขานิติศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ)
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
รับราชการครู : 2524 – 2534 อาจารย์ 1 ระดับ 4
วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี
อาจารย์พิเศษ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
โรงเรียนสุราษฎร์เทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรม
วิทยากรบรรยายให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หลักสูตรเทคโนโลยีสืบสวนสอบสวน สำหรับตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เทคโนโลยีบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิตอล
งานสัมมนาลูกค้ารายใหญ่ บมจ.ทีโอที
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับธุรกิจ “SMEs”
งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง บีโอไอ รุกการลงทุน “SMEs”
เทคโนโลยี Fiber to the Home
งานกิจกรรมวิชาการบุคลากร กองบิน 7
ด้านการแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
งานสัมมนานักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์
วิศวกรรมอุตสาหการ และ วิศวกรรมเครื่องกล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
(ห้องเรียนวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี)
แนะแนวการศึกษาต่างประเทศและปฐมนิเทศ
ผู้เข้าร่วมโครงการ English Summer Camp โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
นักเรียนระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ นครศรีธรรมราช
ประสบการณ์ด้านวิศวกรรม และ การบริหาร
วิศวกร 7 องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย :2534-2546
ผู้จัดการศูนย์บริการสื่อสารข้อมูล (วิศวกร 8) : 2547-2552
บริษัท ทศท.คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน)
ผู้จัดการส่วนอำนวยการฝ่าย (นักบริหาร 9 ) : 2552-2554
บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
ผู้จัดการ ACE World Education แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ :2554 – 2555
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด : 2556 – ปัจจุบัน
วิชาที่สอน : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
973-200 การจัดสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation)
926-354 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่าย (Data Communications and Network System )
วิชาที่สอน : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
4141401 เทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ต (Internet Technology )
4123702 ระบบการสื่อสารข้อมูล (Data Communication System)
วิชาที่สอน : วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วยวิชา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรม ระบบโทรทัศน์ ระบบเสียง ระบบวีดีโอ วงจรไฟฟ้า เครื่องมือวัดทดสอบ
วิชาที่สอน : โรงเรียนสุราษฎร์เทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรม
422-313 โทรคมนาคม 1 (Telecommunication 1 )
04-231-203 ระบบโทรคมนาคม (Telecommunication System)
Shelton College international ตั้งอยู่ที่ 1 Telok Blangah Rise #01/02-00, Singapore 09888 เป็นสถาบันการศึกษาเอกชนที่มีคุณภาพทางด้านการศึกษาในสิงคโปร์ สถาบันจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา จนถึง ระดับอุดมศึกษาที่ยอดเยี่ยมของโรงเรียนในเครือ Shelton ในปี 2012 Shelton ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอย่าง EduTrust รอบ 4 ปี รับรองโดยสภาการศึกษาเอกชนตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการของกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเลิศในด้านการศึกษาที่มีคุณภาพและการช่วยเหลือนักศึกษา (Student Support)
นักเรียนของเราจะได้รับแรงบันดาล การฟูมฟัก และ ความท้าทายผ่านกรอบการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา ความสำเร็จของนักเรียนเราไม่เพียงแต่ทางด้าน ความเป็นเลิศทางวิชาการ เท่านั้น แต่ยังรู้คุณค่าทางด้านศิลป์ อย่างการมีส่วนร่วมกีฬาสร้างคุณธรรม การดูแลชุมชน และ การดูแลสิ่งแวดล้อมทั่วโลก เรามีความภูมิใจที่จะบอกว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นักเรียนหลายพันคนที่ได้เข้ามาและประสบความสำเร็จในทางเดินของเขาในแต่ละคน ทักษะต่าง ๆ ที่กำหนดให้พวกเขาเรียนรู้เป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิต ที่ Shelton เรามีอาจารย์ที่เป็นเลิศทางวิชาการ ผู้ที่มั่นใจได้ว่าจะสามารถให้บทเรียนที่มีคุณภาพสูงกับนักเรียนโดยวิธีการสอนแบบนักเรียนเป็นศูนย์กลาง มีผู้ฝึกสอนการดำรงชีวิต และ ที่ปรึกษาที่มีแต่ความรักให้กับนักเรียนในการให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องที่นอกเหนือจากเป้าหมายสำคัญในการศึกษาของนักเรียน
ทางด้านวิชาการของเรามุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้หลักผ่านการเรียนรู้การใช้งาน การวิจารณ์ และ ทักษะความคิดสร้างสรรค์ นักเรียนจะถูกบ่มเพาะให้มีการคิดนอกกรอบ และ นอกเหนือจากในหลักสูตรเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนไปสู่การศึกษาขั้นสูงและสามารถนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริงได้
โปรแกรมกีฬาและการออกกำลังกายต่าง ๆ เป็นการวางแผนเพื่อให้นักเรียนไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเท่านั้นแต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะอาชีพในอนาคตอีกด้วย เช่น การทำงานเป็นกลุ่ม การสื่อสารระหว่างบุคคล และ รู้ความสำคัญของกฎและกติกา
การชื่นชมและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะเช่น การเต้น การแสดง การร้องเพลง และ จุดมุ่งหมายการวาดภาพเพื่อพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์ ความฉลาดหลักแหลมของความคิด ผ่านกิจกรรม นักเรียนจะได้พัฒนาความสามารถในการนำเสนอวิธีแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างสร้างสรรค์
โดยผ่านการให้คำปรึกษาและการดูแลเป็นรายบุคคล Shelton ช่วยบ่มเพาะให้นักเรียนแต่ละคนเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความโดดเด่น มีโอกาส ในการสร้างทักษะความเป็นผู้นำและความชาญฉลาดสำหรับนักเรียนในห้องเรียน
เพื่อที่จะพัฒนาประชากรทั่วโลกในอนาคต Shelton ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับโปรแกรมการขยายชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบขององค์กรเราต่อชุมชนโดยรอบของเรา ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมเพื่อที่จะได้เข้าใจถึงความต้องการของผู้ด้อยโอกาสและปัญหาทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม
วิทยาเขตมีความสวยงามและกว้างขวางในบริเวณส่วนกลางของภาคใต้ของสิงคโปร์ ไม่ไกลจากตัวเมือง อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวและใกล้แหล่งช้อปปิ้งของสิงคโปร์ สิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงมีพื้นที่กว้างขวาง ห้องเรียนมีเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ด้านโสตทัศนศึกษา มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพื่อการวิจัยในห้องเรียน มีสถานที่สำหรับให้นักเรียนได้พักผ่อนหย่อนใจทั้งในที่ร่ม และ กลางแจ้ง เพื่อให้นักเรียนได้เข้าร่วม เช่น กีฬาฟุตบอล บาสเก็ตบอล แบตมินตัน ปิงปอง และ กีฬาอื่น ๆ ที่ส่งเสริมด้านสุขภาพ
นักเรียนสามารถเลือกพักหอพักนักเรียนในวิทยาเขตได้ โดยหอพักจะมีผู้ปกครองดูแล มีบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย พื้นที่การเรียนรู้ด้วยตนเอง อาหาร และ บริการซักรีด สำหรับการช่วยเหลือนักเรียนสามารถเข้าขอคำปรึกษากับผู้จัดการนักเรียนต่างชาติ ( International Student Relations : ISR) ผู้มีคุณสมบัติและผ่านการฝึกอบรมให้คำปรึกษาคำแนะนำ
International GCSE คือ ความสมดุลของหลักสูตรนานาชาติที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมมาตรฐานทางวิชาการขั้นสูงผ่านวิธีการปฏิบัติในการเรียนการสอน ความสำเร็จที่นักเรียนจะได้รับจากหลักสูตรนี้คือเทียบเท่าในมาตรฐานของระดับ GCE Ordinary Level และ การสอบ British GCES หลักสูตรเหมาะสำหรับนักเรียนนานาชาติทุกชาติและทุกระดับความสามารถ มีการเตรียมความพร้อมที่เหมาะสมสำหรับหลักสูตรระดับสูง เช่น ประกาศนียบัตรการศึกษานานาชาติขั้นสูง (Advanced International Certificate of Education: AICE) , International GCE Advanced Level , SAT และ APT บัณฑิตนานาชาติ และ สำหรับสายอาชีพ และ การจ้างงาน International GCSE ให้บริการที่ Shelton High School ครอบคลุมช่วงของโมดูล / วิชาที่มีหลักสูตรที่ได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันกับการพัฒนาในทางปฏิบัติการศึกษาและเพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลก
Shelton เตรียมนักเรียนสำหรับ GCE O – Level และ International GCSE Examination คุณสมบัติเหล่านี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและได้รับการยอมรับโดยนายจ้าง หน่วยงานการศึกษา และสถาบันการศึกษาชั้นสูงทั่วโลก University of Cambridge Local Examinations Syndicate (UCLES) เป็นผู้มีอำนาจตรวจสอบรายวิชาภาษาอังกฤษ การสอบสิงคโปร์ (Singapore Examinations) และคณะกรรมการประเมินเป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่พัฒนาและดำเนินการสอบระดับชาติในสิงคโปร์และให้บริการตรวจสอบและบริการการประเมินอื่น ๆ ในประเทศเช่นเดียวกับต่างประเทศ The Singapore Examinations and Assessment Board (SEAB) ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการสอบระดับชาติทั้งหมดและเพื่อให้แน่ใจว่ามีการรักษาคุณภาพมาตรฐานสูงสุดของประเทศ การเตรียมการสำหรับการสอบ O-Level รวมถึงการประเมินผลการเรียนรายเดือนที่นำไปสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้ายดำเนินการโดย SEAB
หลักสูตร Singapore – Cambridge GCE A – Level ไม่เพียงแต่เน้นในการเรียนรู้ แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นในความมั่นใจด้วย การเรียนการสอนในวิชาเหล่านี้นักเรียนจะเป็นศูนย์กลาง วิชาที่นำเสนอมี ระดับ H1 และ H2 ขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเรียน โครงสร้างระดับชั้นเปิดโอกาสให้นักเรียนได้บรรลุเป้าหมายยอดเยี่ยมของตนเอง 2 ปีที่ผ่านมาโปรแกรมนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและเป็นที่ยอมรับของนายจ้าง หน่วยงานการศึกษา และ สถาบันการศึกษาชั้นสูงทั่วโลกตลอดระยะเวลาทั้งหมดของหลักสูตร นักเรียนจะได้รับการประเมินผลการเรียนรายเดือนที่นำไปสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้ายที่ดำเนินการโดย SEAB
Certificate for Higher Education (CHE)
เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ที่ต้องการศึกษาในระดับสูง ซึ่งมีการเรียนการสอนเป็นภาคภาษาอังกฤษ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนด้านวิชาชีพอย่างเช่น ธุรกิจหรือการท่องเที่ยว
เป็นหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาภาคปกติ 12 ปี และมีความประสงค์ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งมีการเรียนการสอนเป็นภาคภาษาอังกฤษ โดยมีจุดมุ่งหมายในการปูพื้นฐานความรู้ทั่วไป และ ทักษะการศึกษาค้นคว้าที่จำเป็นเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการศึกษาทักษะขั้นสูง
ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการสนทนาทางธุรกิจ การปฏิสัมพันธ์ และการทำธุรกรรม ที่ Shelton เราเข้าใจ และ กล่าวได้ว่า ไม่เพียงความสวยงามของภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของวัฒนธรรมและการใช้งานที่มีความเชื่อมโยงกับภาษาในส่วนต่าง ๆ ของโลก โปรแกรมภาษาอังกฤษของ Shelton เรียนทีละขั้นตอนเพื่อเรียนรู้ขั้นตอนในภาษาอังกฤษ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับผลการเรียนของนักเรียนต่างชาติที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับการศึกษาภาษาอังกฤษ
หลักสูตรนี้ประกอบไปด้วยการเรียนรู้ใน 4 ทักษะหลักคือ การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้ (ระยะเวลาเรียน 4 เดือน ต่อ 1 Level)
ก่อนเริ่มต้นเข้าเรียนในหลักสูตรนี้ นักเรียนจะต้องทดสอบวัดความรู้ทักษะภาษาอังกฤษ ตามแบบทดสอบของโรงเรียนเพื่อระบุระดับความสามารถและความถนัดด้านภาษาอังกฤษ ทั้งนี้นักเรียนนานาชาติที่ลงทะเบียนในหลักสูตรวิชาชีพของ Shelton สามารถทำการทดสอบได้ หากต้องการพัฒนาทักษะทางภาษา โดยเข้าทดสอบหลักสูตรภาษาอังกฤษก่อนที่จะเริ่มต้นเรียนในหลักสูตรที่เหมาะสมต่อไป
1. สาขาการท่องเที่ยว และ การบริการ (Specialist Diploma in Tourism & Hospitality)
หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญในการท่องเที่ยวและการโรงแรมของ Shelton เป็นการออกแบบมาเพื่อนักเรียนที่ต้องการทำงานในสายการท่องเที่ยวและการโรงแรมตั้งแต่ระดับปฏิบัติการ อาจนำไปสู่ ระดับการจัดการในด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม และในสภาพแวดล้อมที่มีการพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ ในหลักสูตรนี้จะแนะนำเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการโรงแรม โดยเฉพาะการแนะนำการเลือกพื้นที่ และ การขึ้นราคาบางส่วนของฟังก์ชั่นธุรกิจหลักในภาคการท่องเที่ยวและการโรงแรม
นักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป
จบ Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton หรือ IELTS 5.5 หรือเทียบเท่า หรือคุณสมบัติเฉพาะอื่น ๆ ภายใต้การอนุมัติของคณะกรรมการวิชาการของ Shelton
ระยะเวลาเรียน
โปรแกรมนำเสนอที่ Shelton ให้วิถีการเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น การผสมการทำงานการเรียนรู้ตามเทคนิคการศึกษาที่ทันสมัยและเป็นการนำนายจ้างและสถาบันการศึกษาใกล้ชิดร่วมกันเพื่อประโยชน์ของทั้งสอง
การพัฒนาในการเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมที่จะช่วยสร้างสะพานเชื่อมช่องว่างทักษะที่ช่างและผู้ร่วมงานระดับมืออาชีพ โปรแกรมของเรามีขั้นบันไดที่สำคัญในการเรียนรู้ตลอดชีวิต อำนวยความสะดวกในการเข้ารับการศึกษาที่สูงขึ้นและในกรณีที่เหมาะสมการพัฒนาไปสู่การศึกษาระดับปริญญาเกียรตินิยม
นักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป
IELTS 5.5 หรือเทียบเท่า
BTEC ระดับ 3 (คุณสมบัติด้านธุรกิจ)
หรือ จบหลักสูตร Certificate for Higher Education ของ Shelton
หรือ จบหลักสูตร Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton
หรือ สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมปลาย Year 12 หรือเทียบเท่า
GCE A-Level
นักเรียนทั่วไป อายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีประสอบการณ์ทำงานด้านนี้
หลักสูตร Pearson BTEC Level 5 HND Diploma in Hospitality Management เปิดโอกาสสำหรับการเรียนรู้เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปใช้งานและฝึกฝนทักษะในที่ทำงาน เพื่อให้ผู้เรียนได้เตรียมคุณสมบัติให้พร้อมกับการจ้างงานในอุตสาหกรรมการโรงแรม และ เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ได้ตัดสินใจแล้วว่าต้องการที่จะเข้าสู่สายงานนี้
นักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป
IELTS 5.5 หรือเทียบเท่า
BTEC ระดับ 3 (คุณสมบัติด้านธุรกิจ)
หรือ จบหลักสูตร Certificate for Higher Education ของ Shelton
หรือ จบหลักสูตร Certificate in Advanced Study Skills ของ Shelton
หรือ สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมปลาย Year 12 หรือเทียบเท่า
GCE A-Level
นักเรียนทั่วไป อายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีประสบการณ์ทำงานด้านนี้
โทร 0 7728 7111 , 08 5791 9111(อ.สมนึก)
Line ID : SOMNOEK
E-mail : [email protected],
Website : http:// www.sjworldedu.com
Bath Spa University เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ โดยตั้งอยู่ที่เมืองบาธ ตัวเมืองบาธตั้งอยู่บนเนินหลายลูกในหุบเขาของแม่น้ำเอวอนในบริเวณที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวโรมัน ผู้สร้างโรงอาบน้ำโรมัน (Roman Bath) เมืองบาธเป็นสถานที่สมเด็จพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบ ทำพิธีราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษที่มหาวิทยาลัยบาธในปี ค.ศ. 973 ต่อมาในสมัยจอร์เจีย บาธกลายเป็นเมืองน้ำแร่ เป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งทำให้เมืองขยายตัวขึ้นมาก และ มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จากสมัยนั้นที่สร้างจากหินบาธที่เป็นสีเหลืองนวล เมืองบาธได้รับฐานะเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1987 อีกทั้งมีโรงละคร พิพิธภัณฑ์ และ สิ่งสำคัญทางวัฒนธรรม และ ทางการกีฬา ทำให้เมืองบาธกลายเป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งชื่อของมหาวิทยาลัยบาธสปา เป็นชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งตามสถานที่ในประวัติศาสตร์และอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบัน
วิทยาเขตของ Bath Spa University มีทั้งหมด 4 วิทยาเขตตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองบาธ ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งร้านค้า ร้านอาหาร จุดศูนย์รวมของเมือง และ สถานที่สำคัญของเมืองที่อยู่เพียง 5 นาที นอกจากนั้นทางมหาวิทยาลัยยังได้มีการเพิ่มและพัฒนาศูนย์การเรียนรู้และปรับปรุงอาคารเรียนให้มีความทันสมัยให้แก่นักศึกษาอยู่อย่างต่อเนื่อง นักเรียนสามารถเข้าไปใช้ห้องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง มหาวิทยาลัยบาธสปา รับนักศึกษาทั้งในประเทศและจากหลายประเทศโดยเปิดสอนหลากหลายสาขาวิชาในระดับ International First year (IFY) Undergraduate, Postgraduate และ Research, PHD
มหาวิทยาลัยประกอบด้วย 6 คณะ
วิทยาเขตของ Bath Spa University
1. Main Campus – Newton Park
ตั้งอยู่ห่างจาก City Centre เพียง 15 นาทีและเป็นที่ตั้งของ School of Society Enterprise and Environment ซึ่งสอนหลักสูตรบริหารธุรกิจ (Business Management) และ Environment มีที่พักนักศึกษาแบบมีห้องน้ำในตัวและแบบแชร์บริการนักศึกษา
2. Sion Hill ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Bath เป็นที่ตั้งของ Bath School of Arts มีชื่อเสียงมายาวนานด้านการสอนเรื่องศิลปะ Art and Design และ Music and Performing Arts เรียกได้ว่าเป็นลำดับต้น ๆ ของอังกฤษรองลงมาจาก University of Arts London ปัจจุบันเป็น School of Art and Design ของ Bath Spa University เปิดสอนหลักสูตรศิลปะทั้งหมด (Fine Arts)
3. Corsham Court ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 15 นาทีเป็นที่ตั้งของ School of Humanities and Cultural Industries โดยเปิดสอนด้าน Creative Writing, Film making, Scriptwriting เป็นต้น
4. Hartham Park ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 15 นาทีเช่นกัน เดิมเป็น Bath Teacher Training College เป็นที่ตั้งของ School of Education เปิดสอน MA in Early Studies, Leader ship and Management, Learning Technology และ Learning Difficulties/Dyslexia
นักเรียนไทยที่ศึกษา ที่ Bath Spa University
เกณฑ์การเข้าเรียน
GPA เริ่มต้นที่ 2.5
IELTS 5.0 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 4.5 สำหรับ International First Year
IELTS 6.0 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 5.5 สำหรับปริญญาตรี
IELTS 6.5 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 5.5 สำหรับปริญญาโท
(ยกเว้น ปริญญาโทด้าน Business ใช้ IELTS 6.0 แต่ละส่วนไม่ต่ำกว่า 5.5)
นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยยังมีหลักสูตร Pre –Sectional สำหรับน้อง ๆ ที่มีคะแนน IELTS ไม่ถึงเกณฑ์
ทำไมถึงเลือกเรียน Bath Spa University
ขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร 0 7728 7111 , 08 5791 9111
(อ.สมนึก) Line ID : SOMNOEK
E-mail : [email protected]
Website : http:// www.sjworldedu.com
ระบบการศึกษาของสิงคโปร์ แบ่งออกเป็นระดับประถม 6 ปี ระดับมัธยม 4 ปี ซึ่งรวมแล้วเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 10 ปี แต่ผู้ที่จะเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยจะต้องศึกษาขั้นเตรียมมหาวิทยาลัยอีก 2 ปีการศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์จะต้องเรียนรู้ 2 ภาษาควบคู่กันไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเลือกภาษาแม่ ( Mother Tongue) อีก 1 ภาษา คือ จีน (แมนดาริน) มาเลย์ หรือ ทมิฬ (อินเดีย) รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก โดยถือว่าประชาชนเป็นทรัพยากรที่สำคัญ และมีค่าที่สุดของประเทศ ในการนี้ รัฐบาลได้ให้การอุดหนุนด้านการศึกษาจนเสมือนกับเป็นการศึกษาแบบให้เปล่า โรงเรียนในระดับประถม และมัธยมล้วนเป็นโรงเรียนของรัฐบาลหรือกึ่งรัฐบาล สถานศึกษาของเอกชนในสิงคโปร์ มีเฉพาะในระดับอนุบาล และโรงเรียนนานาชาติเท่านั้น
มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์มี 3 แห่ง คือ
1. National University of Singapore (NUS)
2. Nanyang Technological University (NTU)
3. Singapore Management University (SMU)
โดยมหาวิทยาลัย NUS จะให้การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา ทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ กฎหมาย ศิลปะศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการบริหารธุรกิจ ส่วนมหาวิทยาลัย Nanyang จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และสาขาธุรกิจ และการบัญชี สำหรับมหาวิทยาลัย SMU จะเน้นเรื่องธุรกิจการจัดการ
วิทยาลัยเทคนิค (Polytechnic) ของสิงคโปร์มี 4 แห่งได้แก่ Singapore Polytechnic, Ngee Ann Polytechnic, Temasek Polytechnic และ Nanyang Polytechnic ส่วนวิทยาลัยผลิตครูของสิงคโปร์มีอยู่เพียงแห่งเดียว คือ National Institute of Education นอกจากนี้ ยังมี Institute of Technical Education : ITE เป็นสถาบันที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ต้องการทักษะทางช่าง และช่างผีมือ
ผู้ปกครองนักเรียนของสิงคโปร์จะส่งบุตรหลานเข้ารับการเตรียมความพร้อมในโรงเรียนเมื่อเด็กมีอายุ ได้ 2 ขวบครึ่ง เมื่อเด็กอายุได้ 6 ขวบก็จะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1
ระดับประถมศึกษาของสิงคโปร์แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ป.1-ป.4 เรียกว่า Foundation Stage และ ป.5-ป.6 เรียกว่า Orientation Stage ชั้นประถมต้นจะเรียน 3 วิชาหลัก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาแม่ และคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปหัตถกรรม หน้าที่พลเมือง สุขศึกษา สังคม และพลศึกษา แต่ในช่วงประถมปลาย หรือ Orientation Stage นั้น นักเรียนจะถูกแยกออกเป็น 3 กลุ่มทางภาษา คือ EM 1. EM 2. และ EM 3. การแยกนักเรียนเข้ากลุ่มทางภาษานั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาของแต่ละคน เมื่อจบ ป.6 แล้วจะมีการสอบที่เรียกว่า Primary School Leaving Examination (PSLE) เพื่อที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาต่อไป ผลการเข้าสอบมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา
การศึกษาในระดับมัธยมศึกษานั้น จะมี 3 หลักสูตรให้เลือกตามความสามารถ และความสนใจ โดยใช้เวลา 4-5 ปี หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษา ได้แก่
หลักสูตรพิเศษ (Special Course)
หลักสูตรเร่งรัด (Express Course)
หลักสูตรปกติ (Normal Course)
เมื่อจบหลักสูตรจะมีการสอบ โดยหลักสูตรพิเศษ และหลักสูตรเร่งรัดจะต้องผ่านประกาศนียบัตร GCE (General Certificate of Education) ในระดับ “O” Level ส่วนหลักสูตรปกติจะต้องผ่าน GCE “N” Level แต่ถ้าต้องศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา ก็ต้องสอบให้ผ่าน GCE “O” Level เช่นเดียวกัน
เมื่อจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้ว ผู้ที่สนใจเรียนสายวิชาชีพเทคนิค หรืออาชีวศึกษา ก็สามารถแยกไปเรียนตามสถาบันต่างๆ ได้ ส่วนผู้ที่จะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยก็จะเข้าศึกษาต่อใน Junior College อีก 2 ปี เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Level เพื่อนำผลคะแนนไปตัดสินการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ผู้ที่เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ก็อาจศึกษาในสายอาชีพ หรือหางานทำต่อไป
ปีการศึกษาของสิงคโปร์จะแบ่งออกเป็น 4 ภาคเรียน ภาคเรียนละ 10 สัปดาห์ เริ่มเปิดการศึกษาตั้งแต่วันที่ 2 มกราคมของทุกปี ช่วงระหว่างภาคเรียนที่ 1 กับที่ 2 และที่ 3 กับที่ 4 จะมีการหยุด 1 สัปดาห์ ระหว่างภาคเรียนที่ 2 กับที่ 3 หยุด 4 สัปดาห์ และมีช่วงหยุด 6 สัปดาห์ เมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา
Welcome to Queens College
Queens College เป็นวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชาชีพและ ภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมี 2 วิทยาเขต โดยวิทยาเขตแรกตั้งอยู่ที่ Level 1 เลขที่ 108 Margaret Street , Brisbane อยู่ ใจกลางเมือง Brisbane เดินเพียง 5 นาที ถึงแหล่ง ช๊อปปิ้ง ใกล้สถานีรถบัส รถไฟ ซึ่งสะดวกในการเดินทางสำหรับนักเรียน และ วิทยาเขตที่ 2 ตั้งอยู่ที่ Level 2 , 2 Cunninghaam Street, Sydney ซึ่งเป็นวิทยาเขตใหม่ของ Queens College
Queens College จัดการเรียนการสอนให้สำหรับนักเรียนทั้งนักเรียนต่างชาติและนักเรียนในท้องถิ่น การผสมผสานจากหลายเชื้อชาติจึงทำให้เป็นสถานที่ที่มีสีสันต่อการศึกษา เรียนรู้ภาษาอังกฤษและธุรกิจ ด้วยการผสมผสานที่ดี นักเรียนของเราจึงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ครูผู้สอนและบุคลากรของเรามีคุณภาพและพร้อมให้การช่วยเหลือนักเรียน
เรามีหลักสูตรแบบเต็มเวลา (Full Time) และ แบบนอกเวลา (Part Time) และ นำเสนอทั้งหลักสูตรที่ได้รับการรับรองระดับชาติ และหลักสูตรระยะสั้น ดังนั้นสิ่งที่นำคุณไปยังควีน คอเลจ มีบางอย่างสำหรับทุกคน คุณจะได้เพื่อนที่ดีเช่นเดียวกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและธุรกิจในประเทศที่ยอดเยี่ยมของเรา
ทำไมต้องเลือก Queens College
1. Queens College เสนอหลักสูตรภาษาอังกฤษ และ หลักสูตรบริหารธุรกิจ ที่มีขอบเขตกว้างขวาง
2.ครูและผู้ฝึกสอนที่มีคุณวุฒิสูง
3.การผสมผสานหลากหลายเชื้อชาติที่พอดีกัน
4. ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสำคัญ
5. สนุกสนานไปกับกิจกรรมทางด้านสังคม
6. มีทางเลือกสถานที่พักดีเยี่ยม
7. มีบริการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ของเรา
8. มีผู้ช่วยทางภาษา
9. มีเส้นทางสู่มหาวิทยาลัย ( Path Way)
หลักสูตรที่เปิดสอน
หลักสูตร General English – (CRICOS course code: 082023C)
วัตถุประสงค์หลักสูตร
เพื่อปรับปรุงระดับภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนต่างชาติ แต่ละระดับเมื่อจบแล้วนักเรียนจะมีความพร้อมมากขึ้นที่ก้าวไปสู่ระดับต่อไป หลักสูตรนี้จะเป็นพื้นฐานของภาษาอังกฤษเพื่อก้าวไปสู่การเรียนภาษาอังกฤษที่พิเศษมากขึ้นเช่น หลักสูตรเตรียมสอบ IELTS และ หลักสูตร EAP
ระยะเวลาเรียน 4 – 48 weeks
หลักสูตรมีทั้งหมด 6 Levels
1. Beginner
2. Elementary
3. Pre – Intermediate
4. Intermediate
5. Upper – Intermediate
6. Advanced
คุณสมบัตินักเรียน – อายุ 18 ปีขึ้นไป
วันเริ่มเรียน – ทุกวันจันทร์
การเรียนการสอน
การสอนแบบตัวต่อตัว นักเรียนจะได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ผ่านการออกแบบการพัฒนาทักษะในเรื่องการอ่าน การเขียน การพูด และการฟัง ตลอดจนปรับปรุง การออกเสียง และ ความรู้เรื่องไวยกรณ์ของนักเรียน
หลักสูตร Preparation Courses for IELTS – (CRICOS course code: 082025A)
วัตถุประสงค์หลักสูตร
1. เพื่อให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับองค์ประกอบของข้อสอบ IELTS
2. เพื่อแนะนำกลยุทธ์ให้กับนักเรียนในการทำข้อสอบ IELTS ให้ได้คะแนนสูง
3. ช่วยให้นักเรียนทำคะแนนได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
ระยะเวลาเรียน – 10 weeks (ขึ้นอยู่กับ Level)
คุณสมบัติผู้เรียน
– อายุ 18 ปีขึ้นไป
– มีระดับภาษาอังกฤษที่ Upper – Intermediate
วันเริ่มเรียน – ทุกวันจันทร์
การเรียนการสอน
นักเรียนจะได้รับการทดสอบเพื่อวัดว่าพวกเขาพร้อมที่จะเข้าร่วมชั้นเรียนในหลักสูตรเตรียมสอบ IELTS และในด้านของการทดสอบนักเรียนจำเป็นต้องให้ความสนใจโดยเฉพาะ ตลอดหลักสูตร ความก้าวหน้าของนักเรียนจะถูกตรวจสอบด้วยเครื่องมือที่คล้ายกับที่ใช้ในการทดสอบจริง
หลักสูตร English for Academic Purposes (EAP) – (CRICOS course code : 082024B)
วัตถุประสงค์
หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงทักษะภาษาอังกฤษและเทคนิคการศึกษาทางวิชาการของนักเรียน ภาษาและทักษะจะช่วยให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายและสามารถเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย, วิทยาลัยอาชีพ หรือ วิทยาลัยอื่น ๆ ในอนาคตได้สำเร็จ
รายละเอียดหลักสูตร
หลักสูตร EAP ออกแบบมาเพื่อเจาะจงในเรื่องของการเตรียมตัวนักเรียนเพื่อเรียนทักษะการพูดภาษาอังกฤษ รวมไปถึง การฟัง และ จดบันทึกย่อ การนำเสนองานสัมมนา และ การอภิปราย ทักษะการอ่านเร็ว การเขียนเชิงวิชาการ การใช้ห้องสมุดและอินเตอร์เน็ต คำศัพท์ระดับมหาวิทยาลัย การเตรียมงานนิทรรศการเป็นภาษาอังกฤษ วัฒนธรรมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย เทคนิคการทำวิจัย การคิดเชิงวิจารณ์ การเขียนเรียงความ
ระยะเวลาเรียน 12 Weeks
คุณสมบัติผู้เรียน
– อายุ 18 ปีขึ้นไป
– มีระดับภาษาอังกฤษที่ Upper – Intermediate
วันเริ่มเรียน – ทุกวันจันทร์
หลักสูตร Certificate III in Business – (CRICOS course code: 082022D)
วุฒิการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของบุคคลที่ใช้ความหลากหลายของความสามารถในบริบทการทำงานที่แตกต่างกันโดยใช้ดุลยพินิจและความรู้ทางทฤษฎีที่เกี่ยวข้องตัดสิน ผู้เรียนในหลักสูตรนี้จะสามารถให้คำแนะนำทางด้านเทคนิคและการสนับสนุนให้กับทีมงานได้
ระยะเวลาเรียน 24 Weeks
โอกาสทางอาชีพ
1. ที่ปรึกษาด้านการบริการลูกค้า
2.ผู้ประกอบการเก็บข้อมูล
3. เสมียน
4. พนักงานจัดพิมพ์
5. ผู้ประกอบการประมวลผล
6. ผู้ช่วยผู้จัดการ
7. พนักงานบริการข้อมูล
8. พนักงานต้อนรับ
คุณสมบัติผู้เรียน
1. จบการศึกษา Year 10 หรือ เทียบเท่า (นักเรียนไทยจบมัธยม 6)
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ระดับทางภาษาอังกฤษอยู่ที่ IELTS 4.5 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า
หลักสูตร Certificate IV in Business – (CRICOS course code: 082021E)
วุฒิการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของบุคคลที่ใช้ทักษะการพัฒนาและฐานความรู้ในวงกว้างในหลากหลายบริบท ผู้เรียนสามารถใช้การแก้ปัญหาเพื่อกำหนดช่วงของปัญหาที่ไม่สามารถคาดเดาได้และการวิเคราะห์ ประเมินผลข้อมูลจากแหล่งที่มาที่หลากหลาย ผู้เรียนจะมีความเป็นผู้นำและมีความรับผิดชอบ
ระยะเวลาเรียน 26 Weeks
โอกาสทางอาชีพ
1. ผู้จัดการ
2. เจ้าหน้าที่โครงการ
คุณสมบัติผู้เรียน
1. จบการศึกษา Year 11 หรือ เทียบเท่า (นักเรียนไทยจบมัธยม 6)
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ระดับทางภาษาอังกฤษอยู่ที่ IELTS 5.0 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า Upper- Intermediate
หลักสูตร Diploma of Management – (CRICOS course code: 069795A)
วุฒิการศึกษานี้ให้ทักษะและความรู้ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ ผู้จัดการ หัวหน้าทีม หรือ ผู้บริหารสูงสุดเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานและความรู้และตระหนักถึงการฝึกการจัดการ ผู้ปฏิบัติงานในระดับนี้ปฏิบัติงานโดยทักษะขั้นสูงและมีความรับผิดชอบต่อผู้บริหารของพนักงานและอาสาสมัครบัณฑิตของหลักสูตรนี้จะพัฒนาความเข้าใจในความคิดสร้างสรรค์และสาเหตุเป็นหลักพื้นฐานของการทำงานที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มงาน ตลอดจนทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในองค์กรเล็ก และ/หรือ องค์กรใหญ่
ระยะเวลาเรียน 33 Weeks
โอกาสทางอาชีพ
1. ผู้ประสานงาน หรือ ผู้บริหารระดับกลาง
2. ผู้บริหารทั้งภาคธุรกิจและภาครัฐบาล
3. หัวหน้าทีม
คุณสมบัติผู้เรียน
1. จบการศึกษา Year 12 หรือ เทียบเท่า (นักเรียนไทยจบมัธยม 6)
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. ระดับทางภาษาอังกฤษอยู่ที่ IELTS 5.0 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า High Upper- Intermediate
สิ่งอำนวยความสะดวก
Queens College จัดการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษาแบบทันสมัยที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการสำหรับนักเรียน สิ่งอำนวยความสะดวกห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์รวมเอาเทคโนโลยี และซอฟแวร์ โปรเจ็คเตอร์ข้อมูล ความเร็วของบรอดแบนด์ และเครื่องเล่น DVD ล่าสุดให้กับนักเรียน นักเรียนจะได้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลางที่มีทั้งห้องครัวและอินเตอร์เน็ตฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้นักเรียนจะเลือกใช้ได้แม้อยู่นอกเวลาทำการ
ภาพบรรยากาศภายใน สถาบัน Queens College
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com
เยี่ยมชมโรงเรียน
เยี่ยมชมบ้าน Host Family
เยี่ยมชมสถานที่ทางศิลปวัฒนธรรมของรัฐปีนัง
โอกาสดีสำหรับท่านในการรับข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับวางแผนการศึกษาต่อ ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัทเอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
99/370 ม.1 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทร. 077 287 111 หรือ 085 791 9111 (อ.สมนึก ชูสุวรรณ)
Email : [email protected]
Line ID : somnoek
น้องฟีฟ่า เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว เป็นธรรมดาที่คุณพ่อ คุณแม่ ย่อมมีความห่วงใย และตั้งใจสูงที่จะให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งด้านการศึกษา และหน้าที่การงานในอนาคต ในระหว่างที่น้องฟีฟ่ากำลังศึกษาระดับอาชีวศึกษา ในเมืองไทย เป็นคนรักเพื่อน และ มีเพื่อนสนิทจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับเยาวชนในวัยนี้ และของการศึกษาในสายอาชีวศึกษา คุณพ่อ คุณแม่ ย่อมจะมีความกังวลอยู่บ้างเกรงว่าจะเสียการเรียน และด้วยวิสัยทัศน์ ของคุณพ่อ คุณแม่ ที่ต้องการวางรากฐานการศึกษาที่ดีให้กับลูกให้มีโลกทัศน์ที่กว้างยิ่งขึ้น โดยให้น้องฟีฟ่า ได้มีโอกาสศึกษาต่างประเทศ เพื่อทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ การใช้ชีวิตในต่างประเทศ ตลอดจนการเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง คุณพ่อ คุณแม่ ของน้องได้เข้าร่วมงานแนะแนวการศึกษาต่างประเทศ ของ บริษัท เอสเจ เวิล์ด เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจรอบด้าน จึงตัดสินใจให้น้องฟีฟ่า ไปศึกษา Course General English ที่ Holmes Institute ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศ ออสเตรเลีย ตั้งแต่ ปี 2013 และ ลงทะเบียนเรียนต่อเนื่อง หลักสูตร Certificate และ หลักสูตร Advance Diploma พร้อมกับได้วางแผนเพื่อศึกษาต่อในหลักสูตร Bachelor ต่อไปด้วยแล้ว
จากการติดตามผ่านคุณพ่อ คุณแม่ ทราบว่า น้องฟีฟ่า เปลี่ยนแปลงตัวเองไปมาก ขยันเรียน ใช้เวลาว่างจากการเรียนทำงาน Part time หารายได้เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัว ฝึกประสบการณ์การทำงาน รับผิดชอบตัวเอง เรียบร้อย ไม่ดื่มเหล้าเบียร์ ไม่สูบบุหรี่ ประหยัด อดทน เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดี คุณพ่อ คุณแม่ ก็สุขใจ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ขอแสดงความยินดีกับ น้องฟีฟ่า และ คุณพ่อ คุณแม่ ด้วยครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.sjworldedu.com
โทร.08 5791 9111 , 0 7728 7111 (อ.สมนึก ชูสุวรรณ)
Line ID : somnoek
UOW Malaysia KDU เป็นส่วนหนึ่งของ University of Wollongong Australia ซึ่งมีประวัติอันยาวนานในการให้บริการการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เข้าถึงได้ มีคุณภาพในประเทศมาเลเซียและภูมิภาคโดยรอบ ที่ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ KDU College และ University College
เมื่อปี 2019 UOW Global Enterprises ซึ่งเป็น บริษัท ในเครือของ University of Wollongong Australia ได้รับสถาบัน KDU เข้ารวมกับเครือข่ายวิทยาเขตทั่วโลกของมหาวิทยาลัย University of Wollongong Australia ที่ตั้งอยู่ในออสเตรเลีย ดูไบ ฮ่องกง และตอนนี้ได้ตั้งอยู่ในมาเลเซียด้วย และเปลี่ยนชื่อเป็น UOW Malaysia KDU
KDU Colege ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 เป็นวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกของมาเลเซียที่เปิดโอกาสให้เยาวชนมาเลเซียได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ คุณภาพสูงในพื้นที่ท้องถิ่น จากความสำเร็จของวิทยาเขต Damansara Jaya จึงได้ก่อตั้งวิทยาเขตแห่งที่สองในรัฐปีนังขึ้นในปี 1991
ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2010 วิทยาลัย KDU วิทยาเขต Damansara Jaya ได้รับการยกระดับขึ้นให้เป็น University College ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของหลักสูตรที่มีคุณภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกในการสอนที่ยอดเยี่ยม และความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง
หลังจากนั้นในเดือนมกราคมปี 2015 KDU University College ได้ย้ายวิทยาเขตหลักแห่งใหม่ไปที่ Utropolis Glenmarie และ ในปีเดียวกันนั้น KDU College วิทยาเขต Penang ก็ได้รับการยกระดับขึ้นให้เป็น University College
ปัจจุบัน KDU University College ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย University of Wollongong Australiaได้เปลี่ยนชื่อเป็น UOW Malaysai KDU และ มีด้วยกัน 4 วิทยาเขต ดังนี้
UOW Malaysai KDU เปิดสอนหลักสูตรที่หลากหลาย ภายใต้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ร่วมสมัย โดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย โดยเปิดสอนตั้งแต่ระดับ Foundation, Pre-University ไปจนถึงระดับปริญญาตรี และรวมไปถึงระดับปริญญาโท และ ปริญญาเอกด้วย ซึ่งหลักสูตรที่เปิดสอนได้แก่
UOW Malaysia KDU มีที่พักสำหรับนักเรียนทั้งแบบ Hostel และ แบบ Private Accommodation (แบบเป็นส่วนตัว)
ที่พักแบบ Hostel มีแบบห้องให้เลือกพักดังนี้
สิ่งอำนวยความสะดวกของ Hostel
หอพักทั้งหมดได้รับการตกแต่งอย่างครบครัน ได้รับการดูแลอย่างดี และติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานอย่างสะดวกสบาย ผู้อยู่อาศัยมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรักษาความสะอาดภายในห้องพักของตน และทุกสัปดาห์จะมีพนักงานทำความสะอาดมาดูแลทำความสะอาดบริเวณภายนอกให้ มีบริการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
Private Accommodation (ที่พักแบบส่วนตัว)
สำหรับที่พักแบบส่วนตัวนี้ แผนกบริการนักศึกษา (SSD) ได้รวบรวมรายชื่อบ้าน/ห้องส่วนตัวในบริเวณโดยรอบซึ่งมีให้เช่าสำหรับนักศึกษา นักศึกษามีทางเลือกมากมายตั้งแต่ห้องพักแบบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงห้องที่ตกแต่งอย่างครบครัน บ้านสำหรับครอบครัว หอพักชาย และห้องชุดในอาคารชุด ค่าเช่ารายเดือนขึ้นอยู่กับประเภทของห้องที่เลือก (พักเดี่ยว, แชร์คู่, พัก 3 คน หรือ พัก 4 คน) และการตกแต่งห้องที่ดีเพียงใด SSD จะช่วยนักศึกษาในการค้นหาที่พักที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าไม่มีการรับประกันว่านักเรียนจะสามารถได้ห้องพัก/บ้านส่วนตัวที่ตรงกับความคาดหวังและความต้องการภายในหนึ่งวัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับความพร้อมในให้บริการของสถานที่พัก
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected]
Website : https://www.sjworldedu.com
เกี่ยวกับ ATIC
Advanced Tourism International College (ATIC), มีชื่อเดิมว่า ATI Asia Tourism Training Centre ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 ในปีนัง จุดมุ่งหมายแรกเริ่มคือเพื่อที่จะเตรียมบุคลากรที่มีคุณภาพตามความต้องการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมด้านการบริการ เราเป็นวิทยาลัยฝึกอบรมการท่องเที่ยวแบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาการท่องเที่ยวและการจัดการการโรงแรมโดยได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ในมาเลเซีย
ในปี 2008 ATIC เป็นสถาบันการศึกษาภาคเอกชนอย่างเต็มตัวที่ยกระดับเป็นวิทยาลัยนานาชาติโดยกระทรวงอุดมศึกษาของมาเลเซีย สำหรับการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ กว่าระยะเวลาช่วงสั้นๆ พวกเราเติบโตอย่างรวดเร็ว และในปี 2009 เป็นปีที่สำคัญสำหรับเราเพราะขณะนี้กำลังมีโปรแกรมเพิ่มเติม วิทยาลัยกำลังจะขยายการดำเนินงานไปยังอาคารใหม่เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนของเราที่เพิ่มขึ้นและการเพิ่มขึ้นของทีมงานบุคลากรของสถาบัน
วิทยาลัยมุ่งมั่นที่จะเป็นวิทยาลัยภาคเอกชนที่ดีที่สุดในประเทศมาเลเซีย และ พร้อมสู่เส้นทางที่ประสบความสำเร็จของนักเรียนในสถาบันร่วมกัน
เป็นวิทยาลัยเอกชนที่เป็นที่หนึ่งและได้รับความต้องการ โดยนำเสนอโครงการที่หลากหลายที่สุดในมาเลเซีย
มุ่งเน้นไปที่การบริการที่มีประสิทธิภาพในวิทยาลัยและแยกตัวเป็นวิทยาลัยที่มีคุณภาพสูงสุด ค่านิยมหลักของเราคือทำให้เรามีทิศทางและเป้าหมายที่ยั่งยืน และมีความได้เปรียบในการแข่งขัน
หลักสูตรที่เปิด
1. Diploma in Tourism Management
นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวนานาชาติอย่างครบครัน การเรียนการสอนของเราเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลัก ๆ 4 อย่างคือ การอธิบาย การทดลอง การฝึกปฏิบัติ และ การประเมินผล เนื้อหาของการฝึกฝน คือ พัฒนาและประเมินผล รวมไปถึงหลักปฏิบัติทางความสามารถพื้นฐาน และ การประยุกต์ใช้ความรู้ มันคือหลักปรัชญาของ ATIC ที่ทำให้นักเรียนเป็นผู้สำเร็จกลายเป็นปัญญาชน ที่มั่นใจ และมีความเชื่อถือสูงในการจ้างทำงาน หลักสูตรการท่องเที่ยวของเรามุ่งเน้นไปยังอาชีพทางภาคการท่องเที่ยว สนับสนุนนักเรียนให้มีความรู้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม มีทักษะและ คุณสมบัติที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก
จะจัดขึ้นทุกปีในช่วงปิดเทอม สามารถติดตามรายละเอียดได้จากตัวแทน สถาบัน ATIC
คุณสมบัติผู้เรียน
1.จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. อายุ 18 ปี ขึ้นไป
3.สำหรับ English Camp รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน
การเรียนการสอนใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงสามารถลงเรียนภาษาอังกฤษเพื่อปรับพื้นฐานก่อนเรียนได้
สิ่งอำนวยความสะดวก
1.บริการรับที่สนามบิน ทางสถาบันมีบริการรับที่สนามบินกรณีนักเรียนต้องการใช้บริการ
2. บริการหอพัก สำหรับนักเรียนต่างชาติเรามีบริการจัดหาที่พักและจองที่พักให้กับนักเรียนได้
สถานที่ตั้งของ ATIC International College
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com
Kolej Tuanku Ja’afar มอบโอกาสพิเศษทางการศึกษาที่โดดเด่น สำหรับนักเรียนทั้งชายและหญิง เรามีความภูมิใจที่เป็นหนึ่งในโรงเรียนในเขตการศึกษาที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค สำหรับนักเรียนอายุ 3-18 ปี โดยโรงเรียนจัดเป็นโรงเรียนประจำสำหรับเด็กอายุ 11 ปีขึ้นไป ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ปี 1991 KTJ ได้สถาปนาโรงเรียนให้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของโรงเรียนนานาชาติในประเทศมาเลเซีย
นักเรียนจะได้รับการส่งเสริมทุก ๆ ด้าน เพื่อบรรลุเป้าหมายมาตรฐานทางการเรียนรู้ระดับสูง ทั้งยังมีกิจกรรมนอกหลักสูตรที่หลากหลาย เราท้าทายโดยให้นักเรียนตั้งเป้าหมายด้วยตัวเองและพัฒนาความมั่นใจ เชื่อมั่นในตนเองที่จะประสบความสำเร็จ Experienced Houseparent ให้การสนับสนุนและดูแลสภาพแวดล้อมเพื่อให้เด็กสามารถก้าวหน้า ได้รับทักษะความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และตระหนักถึงความต้องการของผู้อื่น ทั้งความเคารพและความอดทนซึ่งกันและกันนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าซึ่งเรายึดมั่นและบอกกับนักเรียนในช่วงเวลาที่อยู่ที่ KTJ ทุก ๆ คนที่ KTJ มีความคาดหวังสูง และผู้ปกครองมั่นใจได้เลยว่าบุตรหลานของท่านจะได้รับแรงบันดาลใจที่จะประสบความสำเร็จในมาตรฐานที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โรงเรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตผู้มีส่วนร่วมต่อสังคม ที่เป็นผู้มีความทะเยอทะยาน รอบรู้ และเป็นผู้ที่มีน้ำใจต่อผู้อื่น นักเรียนของเรามีทุกโอกาสที่จะพัฒนาความเป็นอิสระและความเคารพในตัวเองสูง พร้อมก้าวสู่ความประสบความสำเร็จอีกขั้นในชีวิต
วิสัยทัศน์
เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของโรงเรียนในมาเลเซีย ที่เสริมสร้างศักยภาพแก่นักเรียนให้เป็นผู้นำที่ยั่งยืนได้ทั่วโลก
ภารกิจ
ให้การศึกษาที่โดดเด่น สไตล์ British การศึกษาแบบองค์รวมในสภาพแวดล้อมโรงเรียนประจำแก่นักเรียนมาเลเซียและนักเรียนต่างชาติ การอยู่รวมกันของเราสะท้อนสังคมแบบมาตรฐานทางศีลธรรมสูง การตระหนักถึงความหลากหลายของนักเรียน ที่มีความเชื่อ และเชื้อชาติที่ต่างกันจำนวนมาก
ค่านิยม
ค่านิยมของเราคือ การเคารพซึ่งกันและกัน ความเมตตากรุณา และการเอาใจใส่คือคุณธรรมที่ปรารถนาสำหรับทุก ๆ คนในการอยู่ร่วมกันในโรงเรียน
ผู้ก่อตั้ง
Kolej Tuanku Ja’afar ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดย YAM Tunku Naquiyuddin (HRH Prince Naquiyuddin),Tunku Laxamana Negeri Sembilan, YAM Tunku Tan Sri Imran (HRH Prince Imran) และ YAM Tunku Dara (HRH Princess Dara) Tunku Tan Sri Naquiah. แรงบันดาลใจของพวกเขาคือ ออกแบบโรงเรียนในประเทศมาเลเซีย ให้เป็นโรงเรียนประจำที่มีความแข็งแรงสไตล์อังกฤษ
ความหลากหลายใน KTJ
Kolej Tuanku Ja’afar มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยแท้จริง นักเรียนของเรามาจากมากกว่า 20 ประเทศต่างกัน ทั้งเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา และแอฟริกา ในขณะที่นักเรียนของเราส่วนใหญ่มาจากในประเทศมาเลเซีย การผสมผสานของวัฒนธรรมทำให้บรรยากาศของ KTJ น่าสนใจเป็นพิเศษและช่วยให้นักเรียนของเราภูมิใจในวัฒนธรรมของประเทศตน มีความรู้สึกและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น
นักเรียนของเรา
Kolej Tuanku Ja’afar ผลิตนักเรียนให้มีความสามารถทางวิชาการสูงสุด เราไม่ได้เน้นแค่การเรียนเพียงอย่างเดียว จุดมุ่งหมายของโรงเรียนคือผลิตนักเรียนให้มีความรอบรู้ เป็นผู้นำที่มีความมั่นใจในตนเอง ในอนาคต เช่น ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมนอกหลักสูตรและกีฬาก็ไม่เป็นสองรองใครในภูมิภาค การอาศัยอยู่ในหอพัก บุตรหลานของท่านจะได้เรียนรู้การเป็นอยู่แบบอิสระ มีความรับผิดชอบและรู้จักตนเอง ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญของการให้เคารพผู้อื่นและการทำงานเป็นทีม
การศึกษาแบบโรงเรียนประจำที่เป็น พหุวัฒนธรรม (Multicultural School) นี้ KTJ ทำให้เด็กมีโอกาสที่เท่าเทียมกันในโลกที่ทันสมัย เราให้โอกาสนักเรียนได้สร้างมิตรภาพกับเพื่อนชาวต่างชาติและต่างวัฒนธรรม
แสวงหาความเป็นเลิศ
ที่ Kolej Tuanku Ja’afar เราช่วยให้นักเรียนของเราประสบความสำเร็จในทุกๆสายงาน สัดส่วนบุคลากรต่อนักเรียนในห้องเรียนน้อย นั่นหมายความว่า คุณครูสามารถดูแลเอาใจใส่ตามความต้องการของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิชาการและ pastoral บุคลากรเป็นผู้ที่มีคุณภาพสูงและเป็นคุณครูต่างชาติที่ภาคภูมิใจในการประสบความสำเร็จของนักเรียนของเขาที่ได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เป้าหมายของเราคือช่วยให้เด็กพัฒนาสู่ความมั่นใจ รอบรู้ เป็นผู้ใหญ่ที่สามารถประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในชีวิต เราสนับสนุนเป้าหมายของมาเลเซียที่จะให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่เป็นเลิศ
ชั้นประถมศึกษา (Primary)
สร้างจากการประสบความสำเร็จของการนำการศึกษาแบบมัธยมศึกษาและ Sixth Form ที่มีความพิเศษมาใช้ KTJ มีชั้นประถมศึกษาในวัตถุประสงค์ให้อาคารที่สร้างอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยที่มีอยู่ ชั้นประถมศึกษาของ KTJ สำหรับนักเรียนอายุ 4 ถึง 11 ปี ตามหลักสูตรของสหราชอาณาจักร และปรับให้เหมาะสมกับนักเรียนมาเลเซีย เราใช้หลักสูตร International Primary Curriculum (IPC) ที่โรงเรียนจำนวน 1550 โรงเรียนใน 80 ประเทศใช้มาแล้ว
IPC เป็นหลักสูตรที่ครอบคลุม, enquiry based และมีความสร้างสรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น ที่ KTJ เราจัดหาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้นักเรียนได้พัฒนา การเคารพในตนเองและหาแนวความคิดใหม่ ๆ และกลายเป็นผู้เรียนที่มีความมั่นใจ มีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ พัฒนาความสามารถในด้านศิลปะและกีฬาจะเป็นสิ่งสำคัญต่อประสบการณ์ของพวกเขาใน KTJ การใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นในชั้นมัธยมศึกษาของ KTJ ทำให้มั่นใจว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาของ KTJ นั้นมีทรัพยากรที่ดีที่สุดในประเทศ
ชั้นมัธยมศึกษา (Secondary )
นักเรียน Forms 1-3 ใช้หลักสูตรของอังกฤษ วิชาหลัก ๆ ประกอบด้วย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อย่างน้อย1ตัว ภาษาต่างประเทศ ศาสนาอิสลาม หรือ คุณธรรม (สำหรับชาวมาเลเซีย) พละศึกษา ดนตรี เทคโนโลยี และการละคร
นักเรียน Forms 4-5 ใช้หลักสูตรที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติคือ IGCSE ของ Edexcel หรือไม่ก็ของ Cambridge International Examinations (CIE) มี 4 วิชาหลัก ๆ (คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, วิทยาศาสตร์อย่างน้อย 1 ตัว และภาษาอื่น) และวิชาเลือกมากกว่า 5 หรือ 6 วิชาจากวิชาที่มีหลากหลาย
Sixth Form (มัธยมศึกษาปีที่ 6)
โรงเรียนภูมิใจในความประสบความสำเร็จอย่างมากของ Sixth Form A level courses ตลอดจน วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และมนุษยศาสตร์ของ A Level นักเรียนมีโอกาสที่จะเรียนดนตรี ศิลปะ และ การละครในชั้น A Level
นักเรียน Sixth form ส่วนใหญ่จะก้าวไปสู่มหาวิทยาลัยต่างประเทศหลังจากจบหลักสูตรใน ทุก ๆ ปี นักเรียนจะได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัย Oxford หรือ Cambridge และมีความประทับใจที่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกได้ต้อนรับนักเรียนของเรา รวมไปถึงมหาวิทยาลัย Havard และ Yale นักเรียนได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องวิชา หลักสูตรมหาวิทยาลัยในอนาคตโดยทีมติวเตอร์ Sixth form ที่มีประสบการณ์สูงและโดยหัวหน้าของ Sixth form หนังสือเล่มเล็กเกี่ยวกับSixth form แยกต่างหาก ซึ่งสรุปตัวเลือกวิชาและให้ข้อมูลหลักสูตรและรายวิชาที่ต้องการ ที่มีอยู่ในโรงเรียน
ทรัพยากรในการเรียนรู้ (Learning Resources)
หอประชุม (Auditorium)
ศูนย์สุขภาพ (Health Centre)
กีฬา (Sports)
กิจกรรม (Activities)
บ้านพักประจำ (Boarding houses)
การใช้ชีวิตที่ KTJ (LIFE at KTJ)
ตำแหน่งที่ตั้งของเรา (Our Location)
สถานที่ (Address)
KOLEJ TUANKU JA’AFAR
71700 Mantin,Negeri Sembilan Darul Khusus,Malaysia
ติดต่อขอคำปรึกษาและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0-7728-7111, 08-5791-9111 (อ.สมนึก)
Email : [email protected],
Website : https://www.sjworldedu.com
อาจารย์ สมนึก ชูสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้รับเชิญ จาก สถานีวิทยุ อสมท.สุราษฎร์ธานี (MODERN RADIO 102 MHz ) เพื่อสัมภาษณ์สด ในรายการ “ทันข่าว เล่าสาระ” โดยคุณ ชนะพงศ์ พันธ์สนิท เรื่องธุรกิจการท่องเที่ยวกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2557 เวลา 08.30-09.00 น และ สัมภาษณ์สด ในรายการ “ CEO Talk” โดยคุณธัชมาศ ทิพย์ทอง เรื่อง การศึกษาต่างประเทศทางเลือกใหม่ของนักเรียนไทย เมื่อ วันที่ 8 สิงหาคม 2557 เวลา 13.30-14.00 น
บริษัท เอสเจ เวิลด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้ร่วมงานนิทรรการตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ครั้งที่ 18 เมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคม 2557 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยการจัด Booth แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ เพื่อให้คำปรึกษาด้านหลักสูตร สถานที่เรียน สมัครเรียน การยื่นขอวีซ่า แปลเอกสาร จัดหาที่พัก และตั๋วเครื่องบิน วางแผนจัดทำโครงการพัฒนาบุคลากร ศึกษาดูงานด้านการศึกษา ได้รับความสนใจจาก นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ เป็นจำนวนมาก