TESOL กับความจำเป็นสำหรับครูผู้สอนภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร การศึกษา การทำงาน รวมถึงการเข้าสังคม ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่รวดเร็ว และการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของประเทศในภูมิภาค 10 ประเทศ เพื่อยกระดับความเข้มแข็งให้ทัดเทียมในภูมิภาคอื่น ในกฎบัตรอาเซียนข้อ 34 บัญญัติว่า “The Working Language of ASEAN shall be English” หรือ “ภาษาที่ใช้ทำงานของอาเซียนคือภาษาอังกฤษ” ดังนั้นภาษาอังกฤษจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การจัดการศึกษาของประเทศไทย แม้จะบรรจุภาษาอังกฤษให้เป็นวิชาพื้นฐานที่นักเรียนทุกคนจะต้องเรียนอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่คนไทยส่วนมากก็ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษหรือใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ มีงานวิจัยหลายฉบับรายงานผลวิจัยเกี่ยวกับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยต่ำมาก เป็นอันดับสุดท้ายในกลุ่มสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ครูผู้สอนภาษาอังกฤษจึงจำเป็นจะต้องมีบทบาทนำในการพัฒนาหลักสูตรการเรียน การสอนให้ทันสมัย ปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยครูผู้สอนภาษาอังกฤษจะต้องมีความรู้ ทักษะ และเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษในชั้นเรียน สร้างสรรค์กิจกรรมในชั้นเรียน ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายและผู้เรียนสนุกกับการเรียนรู้ เติมเต็มความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เรียน

ดังนั้นจากที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่า ครูผู้สอนภาษาอังกฤษจะต้องมีบทบาทนำ อาจมีคำถามว่าแล้วจะทำอย่างไร เริ่มต้นตรงจุดไหน คำตอบก็คือจะต้องยกระดับความรู้ ความสามารถของครูผู้สอนภาษาอังกฤษนั่นเอง โดยกระตุ้นส่งเสริมสนับสนุนให้ครูผู้สอนภาษาอังกฤษได้เรียนหลักสูตรวิชาชีพเพื่อเป็นครูสอนภาษอังกฤษ ซึ่งเป็นหลักสูตรยกระดับความรู้ สำหรับผู้ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาพูดและมีความต้องการพัฒนาวิธีการสอนและทักษะทางด้านภาษา ได้แก่ หลักสูตร TESOL นั่นเอง

หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตร TESOL จึงขอทำความเข้าใจในรายละเอียดให้กระจ่างขึ้นดังนี้ TESOL ย่อมาจาก “Teaching English to Speaker of Other Language”คือหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก โดยหลักสูตรจะมีหลายระดับการศึกษา หลายสถาบันที่เปิดสอน คือตั้งแต่หลักสูตรระยะสั้น เช่น ระดับ Certificate IV, Diploma, Bachelor, Master และ Doctor ในแต่ละระดับจะมีระยะเวลาการเรียน ค่าใช้จ่ายในการเรียน ตลอดจนเกณฑ์การรับเข้าศึกษาที่แตกต่างกัน ในบทความนี้จึงขอยกตัวอย่างหลักสูตร Certificate IV in TESOL ตามรายละเอียดดังนี้

หลักสูตรนี้ออกแบบสำหรับผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อไปเป็นผู้สอนภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับผู้สนใจทำงานเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษ ต้องการรับใบประกาศนียบัตรเพื่อสมัครเป็นผู้สอนภาษาอังกฤษ ซึ่งหลายประเทศกำหนดให้ผู้สอนภาษาอังกฤษจะต้องผ่านหลักสูตร TESOL มีใบประกาศนียบัตรนั่นเอง

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับเมื่อเรียนจบหลักสูตร 

1.มีความรู้ความเข้าใจในทฤษฎีการสอน TESOL ระเบียบวิธีการสอน และการประยุกต์ใช้ในการสอนจริง
2.มีความมั่นใจในการสอน
3.ได้รับประกาศนียบัตรด้านการสอนภาษาอังกฤษ
4. เพิ่มโอกาสในการได้เข้าทำงานในองค์กรชั้นนำที่ทำงานด้าน TESOL ที่มีมาตรฐานทั้งในและต่างประเทศ

โครงสร้างของหลักสูตร

หลักสูตรระดับ Certificate IV in TESOL เป็นหลักสูตรเข้มข้นระยะสั้นที่สอนพื้นฐานทฤษฎีการสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก ผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะได้เรียนเกี่ยวกับเทคนิคการจัดการห้องเรียน การสอน การวิเคราะห์ การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร หลักสูตรนี้จะเน้นการปฏิบัติและการฝึกสอนจริง ผู้เรียนจะได้ฝึกหัดช่วยเตรียมเอกสารและบทเรียน การสอนจนกระทั่งการเป็นผู้รับผิดชอบการเรียนในห้องเรียน 2 ชั่วโมง

เนื้อหาหลักสูตร

1. การประยุกต์ใช้ระเบียบวิธีการสอน TESOL สำหรับผู้ใหญ่ ในการพัฒนาภาษาอังกฤษ
2. การสร้างกลยุทธ์การเรียนการสอน
3.การนำหลักไวยากรณ์ไปใช้อย่างถูกต้องตามหลักภาษาอังกฤษ
4.วางแผนการเรียนการสอนโดยใช้หลักการ Communicative Methodology
5.การใช้คำศัพท์เฉพาะในการสอนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

ระยะเวลาการศึกษาตามหลักสูตร

ใช้เวลา 9 สัปดาห์ นอกจากการเรียนในห้องเรียนตามตารางที่กำหนด นักศึกษาควรที่จะใช้เวลานอกห้องเรียนประมาณ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในการค้นคว้า อ่านตำรา ทำการบ้าน และ จัดเตรียมบทเรียนในการสอน

เกณฑ์การเข้าศึกษาต่อ

หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบสำหรับผู้เรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ หรือผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่มีระดับภาษาอังกฤษในระดับสูง ดังนี้

1.จบการศึกษาในระดับ Year 12 หรือเทียบเท่า
2.ผ่านการสอบสัมภาษณ์
3.ผลสอบ IELTS ขั้นต่ำระดับ 6.5 และต้องไม่มี band ใดต่ำกว่า 6 (สำหรับผู้เรียนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก)

นอกจากหลักสูตรระดับ Certificate แล้ว ในระดับ Diploma, Bachelor, Master และ Doctor ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของสถาบันต่าง ๆ ที่เปิดสอนหลักสูตรนี้ เช่น http://www.ozfordcollege.vic.edu.au , http://www.utas.edu.au หรือ http://www.deakin.edu.au

ถึงเวลาแล้วที่ครูผู้สอนภาษาอังกฤษซึ่งเป็นครูคนไทย รวมถึงนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาทางด้านสาขาภาษาอังกฤษ มาโดยตรงและจะเข้าสู่อาชีพครูผู้สอนภาษาอังกฤษต้องมาทบทวนบทบาท ว่าทำอย่างไรจะให้การสอนภาษาอังกฤษแก่นักเรียนไทยสัมฤทธิ์ผลที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ต้องถามว่าทำไมนักเรียนไทยเรียนภาษาอังกฤษตามหลักสูตรการศึกษาไทย 10 ปี แต่ยังพูดภาษาภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นส่วนใหญ่ และถ้ามีการกำหนดวิธีเลือกครูสอนภาษาอังกฤษต้องเป็นผู้ที่มีการศึกษาและมีใบประกาศนียบัตรหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก ท่านพร้อมแล้วหรือยัง จึงขอเชิญชวนให้ท่านเตรียมตัวท่านเองให้พร้อมก่อนครับ

ผู้เขียน

สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์