เรียนมัธยมศึกษา นานาชาติ มาเลเซีย ราคาไม่สูงอย่างที่คิด
Wadi Sofia International School สวรรค์แห่งการเรียนรู้
เมื่อกล่าวถึงโรงเรียนนานาชาติ หรือ International School หลายท่านก็รู้สึกได้ทันทีว่า หรูหรา ค่าใช้จ่ายสูง คงสู้ไม่ไหว อะไรประมาณนั้น ผมเองตอนแรกก็เป็นคนหนึ่งครับที่รู้สึกทำนองนี้ สาเหตุที่รู้สึกอย่างนั้นก็ไม่แปลกครับ ก่อนที่ผมจะเดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติยังประเทศมาเลเซีย ผมได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติที่ก่อตั้งหรือเปิดสอนอยู่ในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานความรู้ไว้ระดับหนึ่งรายละเอียดดังนี้ครับ
โรงเรียนนานาชาติเป็นความหวังของผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ต้องการให้บุตรหลานได้มีโอกาสเข้าศึกษาในสถานศึกษาที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับการเรียนภาคภาษาอังกฤษ เพราะไม่ว่าโลกปัจจุบันหรืออนาคตภาษาอังกฤษมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะภาษาอังกฤษจะเป็นประตูสู่โลกกว้าง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยมีจำนวนมากและมีโรงเรียนเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยโดยทั่วไปจะใช้หลักสูตรโรงเรียนนานาชาติระบบต่างๆ เช่น ระบบอังกฤษ ระบบอเมริกัน ระบบสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน หรือ ออสเตรเลีย ระบบสิงคโปร์ ตลอดทั้ง ระบบ International Baccalaureate : IB เป็นต้น
โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมลฑล ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งธุรกิจที่สำคัญ รวมทั้งในต่างจังหวัดเมืองใหญ่ ที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย หาดใหญ่ เป็นต้น ดังนั้นการแข่งขันของแต่ละโรงเรียนจึงไม่เพียงแต่เรื่องของหลักสูตรนานาชาติ หรือระดับคุณภาพในการเรียนการสอนเท่านั้น แต่จะมีเรื่องความทันสมัยของอาคารสถานที่สิ่งปลูกสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม และฐานะทางสังคม และต้องยอมรับความจริงว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยยอมจ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าจองสิทธิ์การเรียน ค่าแรกเข้า ค่าประกันความเสียหาย ค่าอาหาร ค่ากิจกรรม ค่าที่พัก ค่าสอบวัดระดับความรู้ ค่าเล่าเรียนทั้งตามหลักสูตร และค่าเรียนปรับพื้นฐานเพิ่มเติม ฯลฯ
ผมได้ทำการสำรวจค่าใช้จ่ายของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 19 โรงเรียนเท่าที่พอจะหาข้อมูลได้โดยเน้นที่ระดับมัธยมศึกษา ขอสรุปรายการค่าใช้จ่ายดังนี้
ตารางที่ 1 แสดงรายการค่าใช้จ่ายโรงเรียนนานาชาติ ระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ปี 2015-2016
สำหรับ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ที่มีความพร้อมในเรื่องค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็คงไม่มีปัญหาอะไรครับ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของนักเรียนกลุ่มนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ผมได้ทำหน้าที่แนะแนวการศึกษาต่างประเทศหลายปีต่อเนื่อง ได้รับการติดต่อขอคำแนะนำจากผู้ปกครองบ่อยครั้ง เช่นเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียน นานาชาติในต่างประเทศ เช่นในประเทศมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งการเดินทางไปมาสะดวก ความเป็นอยู่ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่นค่าครองชีพใกล้เคียงประเทศไทย อีกทั้งในบางช่วงเวลาค่าครองชีพจะถูกกว่าด้วยซ้ำ เพราะค่าเงินจากอัตราแลกเปลี่ยนของมาเลเซียนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองรู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลาเมื่อกล่าวถึงโรงเรียนนานาชาติ (International School) คือค่าใช้จ่ายต่อปี ซึ่งหลายท่านคงค้นหาข้อมูลค่าใช้จ่ายโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยไว้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบเช่นเดียวกับวิธีการที่ผมใช้อยู่ เช่นกันครับ
ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติหลายครั้ง แต่ที่ผมสนใจและขอแนะนำ ครั้งนี้คือ โรงเรียนนานาชาติวาดิโซเฟีย (Wadi Sofia International School ) ด้วยเหตุผลดังนี้
- โรงเรียนนานาชาติวาดิโซเฟีย (Wadi Sofia International School ) เป็นสถาบันในกลุ่มโรงเรียน
ของ Wadi Sofia College ซึ่งในกลุ่มนี้ จะมีสถาบันที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษาหรือเตรียมอุดมศึกษา ตลอดจนหลักสูตรด้านการศึกษาและอบรมระยะสั้น รวบแล้ว จำนวน 5 โรงเรียน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sjworldedu.com/country/malaysia/wadi-sofia-international-school/)
- สถานที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนพฤกษชาติ ในเนื้อที่ 45 ไร่เศษ ห่างจากเมืองโกตาบารู เพียง 15 กิโลเมตรซึ่งเป็นเมืองหลวงที่สงบและสวยงามของรัฐกลันตัน โรงเรียนสะอาด ปลอดภัย มีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเดินทางได้ทั้งทาง รถยนต์ รถไฟ และทางเครื่องบิน
รูปที่ 1 สถานที่ตั้งของโรงเรียน Wadi Sofia International School
- ผู้บริหาร ของโรงเรียน ท่าน Datuk Hassan bin Harun ท่านเป็น Principal ของโรงเรียน ผู้ก่อตั้งโรงเรียน และอาจารย์ใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียงทางด้านการศึกษาภาคเอกชนของมาเลเซีย ผู้ให้การสนับสนุนการศึกษามาโดยตลอด เป็นสมาชิกที่ปรึกษาการศึกษาแห่งชาติของมาเลเซียตั้งแต่เริ่มอาชีพ ปี ค.ศ.1960 จนปัจจุบัน ท่านได้เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งและบริหารสถาบันเอกชนต่างๆหลายระดับในมาเลเซีย ผมได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนและรับฟังการบรรยายสรุป แนะนำโรงเรียนจากท่าน Datuk Hassan bin Harun โดยตรง รวมทั้งทีมงานบริหารของท่านด้วยความเป็นกันเอง และท่านได้สอดแทรกแง่มุมความคิดที่มีประโยชน์มาก ทำให้ผมได้เห็นความตั้งใจจริงของท่านในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ สำหรับนักเรียนในมาเลเซียและนักเรียนจากนานาชาติ
รูปที่ 2 เข้าพบผู้บริหาร และทีมงาน ของ Wadi Sofia International School
- มีชั้นเรียนพิเศษสำหรับนักเรียนที่ไม่ชำนาญภาษาอังกฤษ (หรือการเรียนปรับพื้นฐาน)
ทางโรงเรียนWadi Sofia International School โดย Wadi Sofia Center of Languages มีโปรแกรมหลักสูตรพิเศษสำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่มีความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษยังไม่เพียงพอแต่มีความต้องการที่จะศึกษาในโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในมาเลเซีย จะต้องเข้าศึกษาหลักสูตรนี้ เพื่อยกระดับความรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษ เป็นการปรับพื้นก่อนเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ ปีที่ 4 ต่อไป โปรแกรมหลักสูตรพิเศษจะประกอบไปด้วย Junior Transition Class (JTC) และ Upper Transition Class (UTC) เพื่อให้มีความเข้าใจยิ่งขึ้นผมขอเขียนแผนภูมิ (Diagram) ประกอบการอธิบายดังนี้
4.1 กรณีจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
รูปที่ 3 แผนการเรียนหลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
จากรูปที่ 3 จะเห็นว่านักเรียนไทยที่ต้องการจะศึกษาในโปรแกรม Junior Transition Class (JTC) จะต้องสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อายุประมาณ 11 ปี การเรียน JTC จะมีสาระสำคัญที่เข้มข้น (Intensive Program) เน้นในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมตัวสำหรับเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง การเรียน JTC ใช้ระยะเวลาของหลักสูตร 8 เดือน จึงจะจบหลักสูตรนี้ จากนั้นนักเรียนจะต้องเข้าศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ซึ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาปีที่ 4-5 มัธยมศึกษาตอนปลาย จนกระทั่งจบ IGCSE หรือ “O” Level โดย การเรียน JTC จะเริ่มเรียนในช่วงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ของทุกปี วิชาที่ทำการสอนของโปรแกรมการเรียน JTC ประกอบด้วย
ก.ภาษาอังกฤษประกอบด้วย ทักษะการสื่อสาร หลักไวยากรณ์และการเขียน ทักษะการฟัง
การอ่านและทำความเข้าใจ
ข.วิชามาเลเซีย
ค.มาเลเซียนคดีศึกษา (สอนเป็นภาษาอังกฤษ)
4.2 กรณีจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
รูปที่ 4 แผนการเรียนหลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3
จากรูปที่ 4 นักเรียนที่ต้องการศึกษาในโปรแกรมนี้ จะต้องจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี (ม.3) และมีอายุประมาณ 15 ปี UTC จะมีสาระสำคัญที่เข้มข้น
(Intensive Program) ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เรียนมีความสามารถในการเตรียมตัวที่จะเรียนในระดับมัธยมปลายสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมดใช้ระยะเวลาเรียน 8 เดือน จากนั้นนักเรียนจะได้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และปีที่ 5 ต่อเนื่องไปสู่ IGCSE หรือ “O” Level โปรแกรม UTC จะเริ่มเรียนในช่วงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ของทุกปี วิชาที่ทำการสอนของโปรแกรมการเรียน UTC มีวิชาที่เปิดสอนคือ
ก.ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา
ข.ภาษาอังกฤษเพื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค.วรรณคดีอังกฤษ
ง.ภาษามาเลเซีย
จ.มาเลเซียนคดีศึกษา (สอนเป็นภาษาอังกฤษ)
( JTC และ UTC เป็นหลักสูตรที่สอนโดย Wadi Sofia Center of Languages :WaSCOL )
(5) สะดวกสบายและมีความยืดหยุ่น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมให้ความสนใจ เช่น
5.1 สามารถแบ่งจ่ายค่าเล่าเรียน เป็นรายเทอมได้ แทนที่จะจ่ายครั้งเดียวเป็นรายปีทำให้ไม่ เป็นภาระหนักสำหรับผู้ปกครองมากเกินไป อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่อปี ก็ไม่สูงเลยครับ รวมเบ็ดเสร็จ แล้วทั้งค่ามัดจำ ค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียมแรกเข้าต่างๆ ค่าเล่าเรียน และค่าที่พัก รวมอาหาร ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประมาณปีละ 230,000 บาทเศษ ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประมาณปีละ 240,000 บาทเศษ เป็นราคาปี 2016 คิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 RM : 8.50 บาท ค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นหากเทียบกับโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยบางโรง ยังไม่พอสำหรับ การจ่ายค่าจองสิทธิ์ (แปะเจี๊ย) เลยครับ
5.2 มีความชัดเจนในเรื่องชั้นเรียนพิเศษสำหรับนักเรียนที่ไม่ชำนาญด้านภาษาอังกฤษ หรือการเรียนปรับพื้นฐาน ตามโปรแกรมการเรียน JTC และ UTC ตามที่กล่าวข้างต้นนั่นเอง
5.3 หอพักจะแยกอาคาร ชาย – หญิง และ นักเรียนจะพักรวมกันห้องละ 2 คน เท่านั้นทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด และง่ายต่อการปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน สะอาด สะดวก มี อาจารย์ควบคุมตลอด24 ชั่วโมง
รูปที่ 5 หอพัก (Hostel) ภายในโรงเรียน แยก ชาย–หญิง และพักห้องละ 2 คน
5.4 มีความอบอุ่น เนื่องจาก ครู และผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนทำให้มีความใกล้ชิด และดูแลนักเรียนเสมือนลูกหลานตนเอง
5.5 ขนาดของห้องเรียน มีนักเรียนไม่เกินห้องละ 20 คน ห้องเรียนมีระบบปรับอากาศ
รูปที่ 6 ห้องเรียน (Class Room)
5.6 มีห้องปฏิบัติการ ทดลองวิทยาศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องปฏิบัติการทางภาษา เป็นสัดส่วน
รูปที่ 7 ห้องปฏิบัติการทดลองวิทยาศาสตร์
5.7 มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพราะมีนักเรียนจากหลายประเทศ ทั้งจากยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง จีน และ เกาหลี
5.8 ส่งเสริมด้าน กีฬา หลากหลายชนิด อาทิ ฟุตบอล บาสเก็ตบอล เนตบอล วอลเล่ย์บอลแบดมินตัน ปิงปอง กรีฑา และ เทควันโด
รูปที่ 8 ส่งเสริมด้านการกีฬา
5.9 บริการอื่นๆ เช่นบริการซักรีด
รูปที่ 9 บริการซักรีด
5.9 ความมีชื่อเสียงและได้รับการยกย่อง กล่าวคือ โรงเรียนวาดิโซเฟียได้รับคัดเลือกจาก มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ลงบันทึกในหนังสือ “คู่มือสู่ความเป็นเลิศ” เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน
ฉบับปี 2556 : สวรรค์แห่งการเรียนรู้ ฉบับปี 2557 : หนังสือสำหรับเพิ่มเติมความรู้
ฉบับปี 2558 : หนังสือเกี่ยวกับความเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ และ นวัตกรรมการ เปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ
มาถึงตอนนี้ หลายท่านอาจมีความสนใจและต้องการทราบกำหนด เปิด–ปิดภาคเรียน และจำนวนภาคเรียนต่อปี ผมขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ ตามปฏิทินการศึกษาของโรงเรียน กำหนด 2 ภาคเรียนต่อปี ภาคเรียนที่ 1 และ 2 รายละเอียดตามตารางที่ 2 และ 3 ตามลำดับครับ อย่างไรก็ตามนักเรียนสามารถเข้าเรียนปรับพื้นตามโปรแกรม JTC สำหรับมัธยมศึกษาตอนต้น และ UTC สำหรับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ตั้งแต่ เดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ครับ
ตารางที่ 2 กำหนดเปิด–ปิด ภาคเรียนที่ 1
ตารางที่ 3 กำหนดเปิด–ปิด ภาคเรียนที่ 2
สนใจ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ประสานงานติดตามตลอดหลักสูตร
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : somnoek
ผู้เขียน :
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วทม. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ขอขอบพระคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
http://www.bankumka.com
http://www.pantip.com
http://www.wadisofia.edu.my
Photo albums of Wadi Sofia International School
Wadi Sofia International School Prospectus