เลือกโรงเรียนให้บุตรหลานเรียนมัธยมมาเลเซีย ยึดหลักค่าใช้จ่ายต่อปีเป็นสำคัญความจริงที่ต้องทบทวน
หลายปีต่อเนื่องที่ผมได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองในการแนะนำหลักสูตรแนะนำสถาบันการศึกษา การสมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างที่นักเรียนศึกษาอยู่ในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาพบว่าผู้ปกครองจำนวนมากร้องขอให้แนะนำโรงเรียนที่ค่าใช้จ่าย ซึ่งประกอบด้วยค่าเรียน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ซักรีด (ยกเว้น ค่าชุดนักเรียน ตำรา และ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว) ไม่เกิน สองแสนบาทต่อปี รวมทั้งขอให้เลือกโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนและตามด้วยต้องเป็นโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนไทยน้อยด้วยเพราะเกรงว่านักเรียนจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันรวมทั้งการกวดขันกฎระเบียบในการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของนักเรียนไทยซึ่งติดเกมส์ติด Social Media ทำให้เสียการเรียนผมก็พยายามตอบสนองความต้องการดังกล่าวมาหลายปีต่อเนื่อง
ดังนั้นผมจึงมีโอกาสเจอปัญหาอุปสรรคและได้เก็บข้อมูลนำมาวิเคราะห์เพื่อหาทางแก้ไขและแบ่งปันประสบการณ์ ที่เป็นประโยชน์ แก่นักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อเป็นข้อคิดในการพิจารณาเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมในโอกาสต่อไป จึงขอสรุปประเด็นต่างๆดังนี้
1.โรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายไม่เกินสองแสนบาทต่อปีส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนจีนที่รับนักเรียนต่างชาติ สอนเป็นภาษาอังกฤษและมีเรียนภาษาจีนควบคู่ไปด้วยนักเรียนไทยค่อนข้างจะกดดันพอสมควรเพราะพื้นฐานภาษาอังกฤษยังไม่ดีพอส่งผลต่อความเข้าใจในการเรียนวิชาอื่นทุกวิชาซ้ำยังต้องเริ่มเรียนภาษาจีนควบคู่ไปด้วย และยังต้องปรับตัวอีกหลายอย่างในการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนๆที่มาจากต่างเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม
2.จำนวนนักเรียนไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจของไทยไม่ดีจึงต้องเลือกโรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณนี้ไว้ก่อน ในส่วนของโรงเรียนก็มีความจำเป็นในการบริหารต้นทุนให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายต่อปีเช่นกัน นั่นคือ จำนวนนักเรียนต่อห้องก็มากขึ้น การเอาใจใส่ดูแลนักเรียนก็ไม่ทั่วถึง นักเรียนไทยก็มักจะรวมกลุ่มกับนักเรียนไทยด้วยกันเอง เพราะขาดแรงกระตุ้นที่จะให้ใช้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีนกับเพื่อนต่างชาติ หรือกับ ครู อาจารย์ผู้สอน ในที่สุดการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและภาษาจีนก็ไม่ดีเท่าที่ควร
3.หอพักภายในโรงเรียน (Hostel) มักจะเป็นการอยู่ร่วมกันหลายคนต่อห้อง เช่น 6 คนต่อห้อง และห้องน้ำจะอยู่นอกห้องพักเป็นการใช้ร่วมกันเป็นจำนวนมากมักจะประสบปัญหาเรื่องความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่สะดวกเท่ากับห้องน้ำประจำห้อง
4.การควบคุมดูแลนักเรียนที่อยู่ประจำให้หอพัก (Hostel) ของโรงเรียนไม่ค่อยมีมาตรฐานรองรับต่างจากโรงเรียนนานาชาติที่มีมาตรฐานกลางขององค์กรด้านมาตรฐานที่พักของโรงเรียน ดังนั้นจะพบปัญหาสัดส่วนระหว่างผู้ดูแลนักเรียนในหอพักต่อจำนวนในหอพักไม่เหมาะสม เช่น ผู้ดูแล 2-3 คน แต่รับผิดชอบนักเรียนทั้งหมดในอาคารหอพัก 500-600 คน (ขณะที่โรงเรียน นานาชาติ สัดส่วนผู้ดูแล 1 คน ต่อนักเรียนเพียง 15 คน) ดังนั้นจะพบว่าการควบคุมดูแลไม่ทั่วถึง มีปัญหาการแอบใช้โทรศัพท์ ขาดวินัยในการเรียน การนอนการตื่นไม่เป็นเวลา จับกลุ่มคุยกัน ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ปัญหาการทะเลาะวิวาท นักเรียนใหม่ถูกรังแกจากรุ่นพี่ ยิ่งไปกว่านั้นบางโรงเรียนมอบหมายให้รุ่นพี่ไปควบคุมดูแลนักเรียนใหม่แทนเจ้าหน้าที่ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้รุ่นน้องเพราะอายุใกล้เคียงกันวุฒิภาวะไม่มากพอบางครั้งก็ทะเลาะกันใช้กำลังกับรุ่นน้องเสียเองด้วย ทรัพย์สินส่วนตัวถูกลักขโมย บางรายรับสภาพไม่ไหว ไม่มีความสุขที่จะใช้ชีวิตและเรียนต่อไปจึงต้องลาออกระหว่างเรียน เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
5.การชำระค่าใช้จ่าย โรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายต่อปีไม่เกิน สองแสนมักจะไม่ยืดหยุ่นในการชำระเงิน กล่าวคือ แม้นักเรียนจะเข้าเรียนในภาคเรียนที่ 2 แต่ก็ต้องชำระค่าเรียน ค่าที่พัก เต็มราคาทั้งปี แบ่งจ่ายเป็นรายภาคเรียนไม่ได้ด้วย เป็นภาระค่าใช้จ่ายเป็นเงินที่ต้องจ่ายครั้งเดียวสูงและมีความเสี่ยงกรณี นักเรียนอยู่ไม่ได้จะลาออกหรือย้ายโรงเรียนก็ไม่ได้รับเงินคืน
6.การบริหารจัดการของโรงเรียน ก็ได้รับการสะท้อนปัญหาจากผู้ปกครองอยู่บ่อย เช่น ไม่ค่อยแจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ล่วงหน้า การติดต่อกับทางโรงเรียนค่อนข้างยาก ทั้งกับฝ่ายนักเรียนต่างประเทศ ฝ่ายดูแลนักเรียนในหอพัก การแก้ปัญหาในการอยู่หอพักเรื่องต่าง ๆ เช่นปัญหาการทะเลาะกัน มักปล่อยปละละเลยไม่ค่อยกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา การโอนเงินชำระค่าใช้จ่าย ระบบบริหารจัดการ ไม่ค่อยใช้เทคโนโลยีเข้ามารองรับในการให้บริการ
7.ปัญหาอื่น ๆ ความล่าช้าในการยื่นขอวีซ่า ยังขาดการวางแผนและการแก้ปัญหาที่ดีเป็นภาระหนักของผู้ปกครองต้องรับนักเรียนออกจากประเทศมาเลเซียชั่วขณะ รอเวลากลับเข้าไปใหม่ รวมถึงการขออนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านก็ไม่สะดวกเป็นมาตรฐานเดียวกัน การส่งต่องานระหว่างผู้ปฏิบัติงานที่ดูแลนักเรียนในหอพักไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ผู้ปกครองต้องดำเนินการเรื่องเดียวกันซ้ำซ้อนหลายครั้ง เป็นต้น
จากที่กล่าวมาข้างต้น ผมคิดว่า การเลือกโรงเรียนให้บุตรหลานเรียนมัธยมมาเลเซียโดยยึดหลักค่าใช้จ่ายต่อปีมิติเดียวเป็นสำคัญ ความจริงที่ต้องทบทวน หากต้องการให้บุตรหลานของท่านประสบความสำเร็จในการเรียนต่างประเทศ ควรมองหาโรงเรียนที่เหมาะสมกับผู้เรียน อย่างเช่นโรงเรียนนานาชาติที่มีการบริหารจัดการที่ดี ราคาค่าใช้จ่ายต่อปีเพิ่มขี้นเล็กน้อยแต่ผลที่ได้คุ้มค่ากว่ามาก อย่าลืมว่าการศึกษาไม่เพียงแต่ลงทุนเรื่องเงินแต่ยังรวมถึงการลงทุนเรื่องเวลาซึ่งสำคัญมาก ๆ เช่นกัน เพราะเราไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ครับ
สนใจบริการ เยี่ยมชมโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่า และติดตามประสานงานระหว่างเรียน
โทร 0 7728 7111 , 08 5 791 9111 (อ.สมนึก) Line ID : Somnoek
ผู้เขียน
สมนึก ชูสุวรรณ
ค.อ.บ. พระจอมเกล้าลาดกระบัง
น.บ. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วท.ม.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์